รักต้องกระซวก ละครรักนอกจอเรื่อง อุบัติเหตุหน้าสถานีไทยพีบีเอสของหนุ่ม “อ๊อฟ” อัครพล ทองธราดล กับสาว “กิ๊บ” อภิยา ฉายจันทร์ทิพย์ คู่รักคาราคาซังที่เคลียร์ปัญหาไม่ลงตัวจนต้องแทงยับด้วยคมกรรไกรอำมหิต งานนี้ 2 ยำ 1 เมื่อแม่ร่วมตะลุมบอนกระชับด้ามร่มฟาดเข้าที่ดั้งจมูกฝ่ายชายจนหัก คุณแม่แสบเวอร์ของสาวกิ๊บแรงได้ใจ เพราะเคยบุกสถานีวีนแตกเจ้านายลูกสาวมาแล้ว เรื่องส่วนตัวของคนคู่นี้ บรรณาธิการข่าวและเพื่อนร่วมงานรับทราบกันมานาน แต่จงใจปิดข่าว ไม่รายงานผู้ใหญ่จนมีเรื่อง “งามหน้า” เกิดขึ้น ผู้ใหญ่มารับทราบเรื่องทั้งหลายเมื่อเป็นข่าวขึ้นหนังสือพิมพ์หน้า 1 แล้ว
วันนี้ … เรื่องราวของทั้งคู่ ยังถูกพูดกันอย่างหนาหูในสถานีไทยพีบีเอส และถูกขยายความด้วยการลือและเล่าต่อ ไม่มีใครรู้ว่า “อ๊อฟ” อัครพล ทองธราดลรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งใดในกรุงเทพฯ นอกจากญาติสนิท !! ที่ต้องปิด เพราะกลัวความแรงจะย่างกรายไปถึงที่อีกเป็นครั้งที่ 2
นี่คือเรื่องราวของคนคู่นี้
“อ๊อฟ” อัครพล ทองธราดล ผู้ประกาศข่าวช่วงดึกของช่องไทยพีบีเอส และ “กิ๊บ” อภิยา ฉายจันทร์ทิพย์ ผู้ประกาศข่าวไทยบันเทิง ไทยพีบีเอสทีน และรายการศิลป์สโมสร 3-4 ปีก่อน อ๊อฟเริ่มเห็นว่า งานการแสดงไม่รุ่งจึงหันมาทำงานเป็นผู้ประกาศข่าว ส่วนกิ๊บเริ่มต้นจากการเป็นนักศึกษาฝึกงานอยู่และคบกันมาตั้งแต่บัดนั้น คุณสมบัติของอ๊อฟคือ ปากหวานพูดเพราะและเจ้าเสน่ห์ ฝ่ายหญิงเป็นลูกสาวเจ้าของสวนแห่งหนึ่งในจังหวัดสระบุรี ในกรุงเทพฯ ทั้งคู่เป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตาของชาวบ้านในบริเวณ Family 2 อินทามระ 25 เรื่องทะเลาะเบาะแวงมีเป็นประจำสม่ำเสมอ เพราะชายเจ้าเสน่ห์มาเจอกับหญิงขี้หึง! และพยายามที่จะผูกมัดด้วยการหมั้นหมาย !! เมื่อทะเลาะกันบ่อยจนถึงขั้นบอกเลิก!! แม่ของกิ๊บก็เลยต้องเข้ามาพัวพัน แหล่งข่าวท่านหนึ่ง ยืนยันว่า เฉพาะคมกรรไกรที่เป็นแผลลึกนั้น มีทั้งสิ้น 16 แผล ไม่นับรวมแผลถากผิวเล็กน้อยอีกกลุ่มหนึ่ง และดั้งจมูกถึงขั้นต้องดาม !!
ในวันเกิดเหตุที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา ความแตกเพราะ รปภ.โทร.ไปแจ้งตำรวจให้มายังสถานีไทยพีบีเอสเพราะว่าขัดขวางและห้ามปรามไม่ไหว ฝ่ายชายรู้ตัวก่อนว่า ฝ่ายหญิงและแม่ดักรออยู่ก็พยายามที่จะหนีออกอีกทางแต่ไม่พ้น!! พยานและ รปภ. หลายปากยืนยันว่า ทั้งสองฝ่ายซัดกันนัวที่หน้าสถานี
ด้ามร่ม (แม่) ถล่มรัก
อ๊อฟและกิ๊บมีปากเสียงและลงไม้ลงมือกันบ่อยครั้ง แต่บรรณาธิการข่าวได้ขอร้อง ไม่อยากให้เพื่อนร่วมงานไปขยายข่าว เล่าลือกันไปเพราะเป็นหน้าตาของสถานี เพราะพูดไปแล้วทำให้เกิดความเสียหาย หลายครั้งที่กิ๊บมาทำงานด้วยสภาพตัวเขียว ฟกช้ำ แต่เพื่อนร่วมงานเห็นว่า เป็นเรื่องส่วนตัวของ อ๊อฟกับกิ๊บ จึงไม่มีใครอยากเข้าไปยุ่งและเกี่ยวข้องด้วย ประกอบกับคำสั่ง “ห้ามพูด” ของผู้บังคับบัญชาตามสายงาน จึงทำให้เรื่องนี้ถูกปิดเงียบมาเป็นเวลาพอสมควร แม้แต่ผู้บริหารของสถานีก็ไม่ทราบเรื่อง จากชนวนทะเลาะเบาะแว้งตามประสาลิ้นกับฟัน ใครจะไปคิดว่า ในวันหนึ่งเรื่องจะลามจนกลายเป็นเรื่องหน้า 1 ของหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ
ปิดกันแบบนี้ ก็เลยสายเกินแก้ !! เรื่องนี้ทางผู้บริหารของไทยพีบีเอสโกรธมากเพราะไม่เคยได้รับรายงานเรื่องนี้ให้ทราบตั้งแต่ต้น ต่อให้เป็นเรื่องส่วนตัวก็ต้องเรียกตักเตือน เพราะเรื่องส่วนตัวกับหน้าที่การงานไม่ได้แยกขาดจากกัน
ญาติที่ใช้ชื่อว่า Facebook/supanai tongtharadol โพสต์รูปของ “อ๊อฟ” อัครพล ทองธราดล ที่โดนทำร้ายจนสาหัสกว่าที่เป็นข่าวออกมา หลังจากที่มีข่าวก่อนหน้านี้ว่าฝ่ายชายลงมือก่อน!
แต่แหล่งข่าวใกล้ชิดเปิดเผยว่าในวันเกิดเหตุนั้นแม่ของฝ่ายหญิงอยู่ด้วย และมีการทะเลาะมีปากเสียงกันจริงก่อนการลงมือมีการพูดคุยกันระยะหนึ่งจากนั้นเกิดปากเสียง ซึ่งฝ่ายชายและฝ่ายหญิงได้โต้เถียงกันอยู่นานก่อนจะเกิดการตะลุมบอนกันไปมาตามลำดับ ฝ่ายชายก็ต่อสู้ โดยที่ฝ่ายหญิงถือกรรไกรตัดผมจิ้มไปหลายแผล ฝ่ายชายก็ไม่ได้ยอมให้กระทำฝ่ายเดียว ต่อสู้กลับ ส่วนแม่ของผู้ประกาศข่าวหญิงนั้นได้ใช้ด้ามร่มฟาดเข้าที่หน้าของฝ่ายชายจนทำให้ดั้งจมูกหัก บวกกับเลือดที่ไหลออกมาจากรอยแผลกรรไกร จึงทำให้กิ๊บต้องปฐมพยาบาลไปด่าไป ก่อนเรียกแท็กซี่ออกไปทั้งสามคน ส่วนฝ่ายชายถูกนำส่งโรงพยาบาลเพราะมีอาการปวดที่ใบหน้าและมีเลือดไหลที่รอยแผลถูกแทง ตามรายงานข่าวแจ้งว่าทั้งหมดนั่งแท็กซี่ออกไปด้วยกัน รักนี้มีแม่เข้ามาเกี่ยวข้องพัวพัน และในขณะที่เกิดปากเสียงกันที่หน้าสถานีนั้น การถกเถียงมีการพูดถึงเรื่อง “หมั้น” เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
“แม่” ตัวแปรที่ทำให้โดนจ้วง
ความสัมพันธ์ของกิ๊บกับอ๊อฟนั้นเป็นที่รู้ดีในหมู่เพื่อนพนักงานว่าทั้งสองเคยคบกันในตอนแรก และในระยะหลัง ฝ่ายชายต้องการยุติความสัมพันธ์ ทั้งนี้แหล่งข่าวภายในยังเปิดเผยว่า ทันทีที่เกิดเรื่อง ฝ่ายชายยื่นใบลาออกในทันที เพราะต้องการหนีจากการมีเรื่องกรณีดังกล่าวที่คาราคาซังมานานจนหาทางออกไม่ได้ แม้ว่าจะหนีไปบวชมาแล้ว 1 เดือนเนื่องจากแม่ฝ่ายหญิงต้องการให้หาฤกษ์หมั้น แต่ดูเหมือนว่าบ้านฝ่ายชายรวมทั้งตัวฝ่ายชายเองจะต้องการยุติ จึงเกิดปัญหาปากเสียงกันและหลายครั้งที่กิ๊บมาทำงานด้วยร่างกายเขียวช้ำและเชื่อว่าทั้งสองอาจมีปากเสียงกันเป็นประจำอยู่แล้ว และทุกครั้งที่ทั้งคู่มีปากเสียงกัน แม่ของทางฝ่ายหญิงก็จะร่วมกับลูกสาวส่งข้อความ และโทรศัพท์มาต่อว่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวบ้านฝ่ายชายรับทราบตลอดมา และแสดงออกชัดเจนว่าไม่ต้องการว่าที่ลูกสะใภ้คนนี้
อย่างไรก็ตามทั้งคู่ยังคงเป็นผู้ที่มีความสามารถในการทำงาน ที่หลายคนให้การยอมรับ หากแต่ว่าความรักครั้งนี้ของทั้งคู่ มีแม่เข้ามาเกี่ยวข้อง และแน่นอนว่าครอบครัวฝ่ายหญิงอยากให้เกิดความมั่นคงในตัวลูกสาวจึงอยากจัดการ แต่ความต้องการไม่ตรงกันงานนี้เลยเจอด้ามร่มถล่มรัก เลือดสาดกลางสถานี ชนิดที่คนในสถานีก็ตกอกตกใจแต่ก็ทราบในวีรกรรมของคุณแม่ผู้ประกาศข่าวสาวดี เพราะก่อนหน้านี้แม่ก็เคยมีวีรกรรม เข้าไปวีนแตกบรรณาธิการข่าว หรือเจ้านายของลูกสาวมาแล้ว กรณีอยากให้นักข่าวทุกคนเข้าเวรทำงานในช่วงการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง แต่ทว่า แม่ของผู้ประกาศฝ่ายหญิงไม่ยอมให้ลูกสาวออกไปทำข่าวหรือเข้าเวรเหมือนคนอื่น โดยให้เหตุผลว่าอันตราย กิตติศัพท์แม่จึงลือเลื่องในสถานีเป็นอย่างดี จนมีคำสั่งห้ามบุคคลภายนอกขึ้นตึกมาแล้ว แต่ก็หาได้ลดความรุนแรงไม่
รักไม่ลงล็อก
หากกล่าวถึงรูปร่างหน้าตา ของฝ่ายชายก็นับว่าหล่อเข้าขั้นนายแบบเพราะผ่านการประกวดหนุ่มแพรว มาในปี 2546 อ๊อฟเคยตกเป็นข่าวแอบชอบ “เอ๊ะ อิสริยา สายสนั่น” แต่นางเอกสาวบอกว่าแค่รู้จักกันเท่านั้น ส่วนฝ่ายหญิงอย่างกิ๊บ อภิยา ถึงแม้จะไม่สวยราวนางแบบแต่ก็หน้าตาเข้าขั้นดีและความสามารถดี อีกทั้งเป็นอาจารย์สอนหนังสือให้กับนักศึกษามหาวิทยาลัยกรุงเทพอีกด้วย ทั้งลูกศิษย์ อาจารย์ ก็เล็งจีบเธอไม่เบาเช่นกัน หากแต่ว่าความรักกับอ๊อฟครั้งนี้นับเป็นความรักที่เธอทุ่มเทและคาดหวัง และมักจะมีเรื่องทะเลาะหึงหวงกันจนบางครั้งเพื่อนร่วมสถานีก็เห็นฝ่ายชายโอนอ่อนให้มาโดยตลอด ยกเว้นครั้งนี้
แต่กระนั้น แหล่งข่าวมุมมืดก็ยังบอกว่า ฝ่ายชายเป็นคนเจ้าชู้และมีวาทศิลป์เป็นเลิศจนสาวๆติดหนึบทุกราย !!
แต่ความรักที่ไม่ลงล็อกทำให้หน้าที่การงานของทั้งคู่ต้องโดนพับโครงการไปก่อนท่ามกลางความสามารถในหน้าที่การงานที่เพื่อนร่วมงานต่างยอมรับ แต่การหมั้นหมายไม่เป็นไปตามที่ฝ่ายหญิงและครอบครัวต้องการ แถมยังทำให้ครอบครัวฝ่ายชายวิตกกังวลมากขึ้นในการราวี รักบนเส้นขนานครั้งนี้หาทางลงยากเสียแล้ว
นึกว่าจะมีแต่แม่ดาราที่คอยดูแล สมัยนี้แม่ผู้ประกาศก็คอยตามติดเป็นเงาตามตัว ปัญหายิ่งทวีความรุนแรงเพราะญาติฝ่ายชายทำท่าจะฟ้องเสียแล้ว เรื่องของ “หนุ่มฉะเชิงเทรา” กับ “สาวสระบุรี” จึงดูท่าบานปลาย แม้ว่าจะมีการส่งพี่ชายของอ๊อฟมาไกล่เกลี่ย แต่ทว่า มารดาของอ๊อฟและญาติคนอื่นๆอาจจะไม่ปลื้มกับการบาดเจ็บของลูกหลานครั้งนี้
โดยไม่มีคำว่า “สะใภ้” และจบลงด้วยคำว่า “ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย” นั่นคือสิ่งเดียวที่แม่อ๊อฟต้องการ
ใช่ตัดบัวจะไม่เหลือใย แทงด้วยกรรไกรแต่พยานยืนยันว่าฝ่ายหญิงยังปรานีซับเลือดให้หน้าป้อมยาม เรื่องของคนสนิทกันไม่มีใครอยากยุ่ง แต่งานนี้ “แม่ต้องชนแม่” ก็ไม่รู้จะจบลงอย่างไร แต่คงไม่ใช่การแต่งงานแบบที่ฝ่ายหญิงตั้งใจแน่นอน เสียคนรัก เสียงาน เสียการ และเสียใจ แต่เพื่อนร่วมงานการันตีว่างานดี แต่เสียเรื่องนี้แค่เรื่องเดียว หนุ่มหน้าใสเจ้าชู้กับหวานใจมือหนัก จึงไม่ลงตัวด้วยประการทั้งปวง....
............................................................
ที่มานิตยสาร ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ ฉบับที่ 142 วันที่ 23 - 29 มิถุนายน 2555
