“อาร์เอส” แหกวงการเพลง ปั้นศิลปินคู่กับสินค้า ไม่ดังก็เป็นพรีเซ็นเตอร์ได้

ค่าย “โชว์” ในเครืออาร์เอส ปฏิวัติวงการเพลง เลิกเก็บตัวศิลปิน เผยโฉมให้เห็นกันจะจะ ผ่านรายการทีวี พร้อมถ่ายทอดขั้นตอนการทำงานเพลงทุกขั้นตอน เพื่อสร้างฐานแฟนคลับปิดประตูแป้ก แหกวงการพรีเซ็นเตอร์โดยการนำศิลปินหน้าใหม่โนเนมไปเสนอเจ้าของสินค้า เพื่อที่จะปั้นและโปรโมตสินค้าไปพร้อมๆ กัน เรียกว่าไม่ต้องรอให้ดังก็เป็นพรีเซ็นเตอร์ได้

หลังจากที่บริษัท ย๊าคทีวี ในเครืออาร์เอส ประสบความสำเร็จจากการผลิตรายการโทรทัศน์ดาวเทียม ก็ผุดค่ายเพลง “โชว์” ค่ายเพลงน้องใหม่ที่ใช้การตลาดควบคู่ไปกับการปั้นศิลปิน โดยจะมีการออดิชั่นนักร้องทั่วประเทศ และทำการถ่ายทอดผ่านรายการในช่องย๊าค ตั้งแต่การออดิชั่น ขั้นตอนการทำงานทุกอย่างจนกระทั่งอัลบั้มเสร็จสมบรูณ์ เพื่อสร้างฐานแฟนคลับให้กับศิลปินตั้งแต่ยังไม่คลอดผลงาน นับเป็นการปฏิวัติการปั้นนักร้องใหม่ที่เมื่อก่อนมักจะเก็บตัวไม่ให้ใครรู้

นอกจากนั้นแล้ว ค่ายโชว์ก็ยังจะนำเอาศิลปินที่กำลังจะปั้นไปเสนอกับสินค้าต่างๆ เพื่อให้เลือกเป็นพรีเซ็นเตอร์ และจะทำการโปรโมตไปพร้อมๆ กับศิลปิน ซึ่งปกติแล้วจะมีแค่ศิลปินดังๆ เท่านั้นที่จะได้รับเลือกเป็นพรีเซ็นเตอร์ แต่โชว์จะพลิกฟ้าคว่ำดินร่ายมนต์ให้เจ้าของสินค้าเลือกศิลปินหน้าใหม่โนเนมเป็นพรีเซ็นเตอร์

นับว่าเป็นการทำตลาดชนิดที่ไม่เคยมีค่ายเพลงค่ายไหนเคยทำมาก่อน “โจ้ ภัทธิรา ปาลวัฒน์วิไชย” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ย๊าค จำกัด ได้กล่าวถึงการบุกตลาดเพลงชนิดแหกโค้งนี้ว่า....

“เราต้องการขยายธุรกิจไปที่ค่ายเพลง โดยเราเอาเรื่องมิวสิกมาร์เกตติ้งมาเสริมเพื่อให้สื่อของเราแข็งแรง ดูแมสมากขึ้นเลยเป็นที่มาของการเปิดค่ายเพลง โดยค่ายของเราจะมีศิลปินแค่ 2 วงแบ่งเป็นชายล้วนกับหญิงล้วน ซึ่งเราวางสมาชิกไว้มากมายเลย 7-8 คน ที่เยอะเพราะเราอยากได้ความหลากหลายเพื่อที่จะมาตอบโจทย์สื่อบันเทิงที่เรามีครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นพิธีกร นักแสดง พรีเซ็นเตอร์อะไรต่างๆ ที่สำคัญอีกอันนึง คือ งานโชว์บีส ซึ่งเราจะแตกต่างจากค่ายอื่นๆ ปกติเราจะเห็นโชว์จากศิลปินก็ต่อเมื่อมีคอนเสิร์ต แต่เราจะดีไซต์โชว์ของศิลปินเราออกมาในทุกๆเทศกาลเพื่อนำเสนอลูกค้า อย่างช่วงซัมเมอร์เราก็อาจจะดีไซน์โชว์ที่มันหวือหวารับช่วงเวลานั้น”

“ปกติศิลปินร้องเพลงมากสุด คือ มีภาพประกอบ แต่ตรงนี้เราได้คุยกับครูที่จะมาดูแลตรงนี้ว่าเราต้องการมากกว่าการที่มาร้องเพลงแล้วออกแบบท่าเต้น เราอยากให้ดูแล้วเอนเตอร์เทนลูกค้าได้ เช่นเราอยากให้ออกแบบแพคเก็จ อย่างปกติงานจ้างงานอีเวนต์ปกติเขาก็ให้ศิลปินไปร้องเพลงอย่างเดียว แต่เราจะไม่ทำแบบนั้น เราจะคิดโชว์หนึ่งโชว์ของเราขึ้นมาเสนอลูกค้า นี่เป็นโชว์บีสรูปแบบใหม่ที่เราจะโดดเด่นกว่า”

เตรียมออดิชันศิลปินทั่วประเทศ และถ่ายทอดการคัดเลือกตลอดจนการเตรียมตัวเป็นศิลปิน ขั้นตอนการทำงานทุกอย่างจนกระทั่งอัลบั้มเสร็จสมบรูณ์ผ่านรายการในช่องย๊าค นับเป็นการปฏิวัติการปั้นนักร้องใหม่ที่เมื่อก่อนมักจะเก็บตัวไม่ให้ใครรู้ แต่ค่ายโชว์จะโชว์ทุกขั้นตอนการทำงานให้เห็น เพื่อสร้างฐานแฟนคลับให้กับศิลปินตั้งแต่ยังไม่คลอดผลงาน เป็นการปิดประตูการแป้กว่างั้นเถอะ

“ในส่วนของการออดิชั่นที่ตอนนี้เรากำลังเตรียมงานกันมาพอสมควร ตอนนี้เราได้เด็กที่มาสมัครที่เราคิดว่าเขามีความสามารถ แต่เราก็ยังเปิดรับสมัครเด็กจำนวนมากอยู่ด้วยเพราะเราเองต้องการสมาชิกเยอะ เราก็เลยออดิชั่นเพิ่มอีกจากทั่วประเทศ โดยเข้ามาสมัครทางเว็บไซต์ของเรา ไม่จำกัดอายุหรือมาสมัครด้วยตัวเอง ที่มีตอนนี้ก็เป็นพัน โดยเราจะค่อยๆ ทยอยออดิชัน ก็คาดว่าจะเสร็จได้ศิลปินทั้ง 16 คนภายใน 2 เดือนนี้”

“โดยเราจะนำเทปที่เด็กๆ มาออดิชันเอามาถ่ายทอดเป็นรายการซึ่งจะเริ่มออกในเดือนกรกฎาคมเป็นต้นไป ซึ่งในระหว่างการออดิชันนี้จะมีฝ่ายพัฒนาศิลปินของอาร์เอสเข้ามาดูแล ซึ่งการแคสนอกจากเราจะเน้นที่ต้องการศิลปิน ที่ทั้งร้องทั้งเต้นได้แล้ว เราก็ยังต้องการคนที่มีความสามารถด้านอื่นๆ เช่น เป็นพิธีกรได้เพราะถ้าคุณมีความสามารถอย่างอื่นเราจะต่อยอดให้ด้วย เพราะเรามีความพร้อมในเรื่องของสื่อ งานนี้เราลงงบประมาณไป 50 ล้าน”

“รูปแบบของเราจะแตกต่างจากการประกวดร้องเพลงของค่ายอื่นทั่วๆ ไป เราเป็นการทำงานของค่ายเพลงจริงๆ ไม่ใช่การประกวด เราจะถ่ายทอดการทำงานของค่ายเพลง เพื่อผู้ชมจะได้รูว่าค่ายเพลงที่เขาทำงานกันจริงๆ ไม่ใช่การประกวดเขาทำงานกันยังไง การออกอัลบั้มจริงๆ มันเป็นยังไง คิดว่าจะเป็นสีสันใหม่ให้กับการทำรายการมากกว่าการประกวดที่ตอนนี้เชื่อว่าเริ่มที่จะตันกันแล้ว”

“การถ่ายทอดเรานี้จะเป็นการเปิดเผยศิลปิน นับเป็นการนำเสนอในรูปแบบใหม่มากกว่าเพราะปกติศิลปินค่ายอื่นๆ เขาจะเก็บตัวห้ามออกงาน ห้ามให้ใครเห็นหน้า เพื่อที่จะให้เซอร์ไพร์สในวันที่เปิดตัวอัลบั้ม แต่เนื่องจากเรามีจุดแข็งด้านสื่อ เราเชื่อว่า สื่อจะทำให้แฟนๆ ได้ติดตามศิลปินได้ทุกวัน เราจะเปิดตัวศิลปินเลยและก็ถ่ายทอดผ่านรายการทุกขั้นตอนการทำงาน และจะถ่ายทอดยาวไปจนถึงเขาออกอัลบั้มตลอดจนไปเป็นศิลปิน เรียกว่าถ่ายทอดศิลปินคนนั้นตลอดไป”

“ก็จะเป็นค่ายเพลงที่มีรายการโทรทัศน์ให้แฟนๆ ได้ติดตามทุกวัน ทำให้เด็กๆ สามารถติดตามศิลปินได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องไปตามสถานที่จริงอีกต่อไป เรามีระบบโซเชียลสกรีนที่ลิงก์กับเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ทำให้แฟนๆ สามารถติดตามศิลปินที่เขาชื่นชอบได้ทันทีไม่ว่าที่ไหนๆ ซึ่งถือว่าเราเป็นค่ายแรกและยังเป็นค่ายเดียวที่ทำแบบนี้ เพื่อเป็นการสร้างฐานแฟนคลับ”

เปิดมิติใหม่ “ขายศิลปินใหม่ให้กับสปอนเซอร์ทันทีไม่ต้องรอปั้นจนดัง” เพื่อที่จะได้ร่วมโปรโมตทั้งศิลปินและสินค้าไปพร้อมๆ กัน
“เป็นรูปแบบใหม่ที่สปอนเซอร์จะเข้ามาสนับสนุนค่ายเพลง เรามีทุกอย่างครบวงจร ลูกค้าจะได้อะไรที่เป็นเรื่องใหม่ๆ ครบวงจร เราจะทำการตลาดของศิลปินควบคู่ไปกับสินค้า ทำการตลาดตั้งแต่ศิลปินยังไม่ดังเลย เราจะนำเสนอศิลปินที่เรากำลังจะปั้นให้ลูกค้าเลือกไปเป็นพรีเซ็นเตอร์ ถ้าลูกค้าเลือกที่จะสนับสนุนคนไหน เราจะกระจายไปทุกสื่อที่เรามี เป็นการโปรโมตศิลปินและสปอนเซอร์ไปพร้อมๆ กัน ซึ่งเร็วๆ นี้ เราจะได้เห็นการเปิดตัวพรีเซนเตอร์แบบเต็มรูปแบบที่สุดของเมืองไทย เป็นแบบที่ไม่เคยมี ไม่ต้องรอให้ศิลปินดังก็สามารถเป็นพรีเซ็นเตอร์ได้”