ตามคาด “น้องริด้า” ลูกครึ่งไทย-ออสเตรีย วัย 18 ปี คว้า “มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2012” อีกทั้งสร้างประวัติศาสตร์เป็นลูกครึ่งคนแรกที่ได้ครองมงกุฎนี้ และได้เป็นตัวแทนสาวไทยเข้าประกวดมิสยูนิเวิร์ส รับรางวัลเงินสด 1 ล้าน พร้อมรถยนต์หรู
ปิดฉากลงแล้ว สำหรับการเฟ้นหาสาวงาม “มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์” คนที่ 13 ผลปรากฏว่า “น้องริด้า ฟาริด้า วัลเล่อร์” ลูกครึ่งไทย-ออสเตรีย วัย 18 ปี ผู้ประกวดหมายเลข 43 เป็นผู้คว้ามงกุฎแห่งเกียรติยศ พร้อมเป็นตัวแทนสาวไทยเพียงหนึ่งเดียวที่ไปร่วมประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2012 ในปลายปีนี้ ทั้งนี้ ผลที่ออกมาเรียกว่าไม่พลิกโผ เพราะสาวน้อยตาคมผู้นี้มีชื่อเป็นตัวเต็งนอนมาตั้งแต่ทำกิจกรรมเก็บตัวแล้ว
การประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2012 โดย “สุรางค์ เปรมปรีดิ์” ผู้อำนวยการกองประกวด ร่วมกับ สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 สก๊อต คอลลาเจน-คิวเทน บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น บริษัท เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) และโรงแรมสยาม เคมปินสกี้ ได้เดินทางมาถึงรอบตัดสิน โดยจัดขึ้น ณ สยามภาวลัย รอยัลแกรนด์เธียเตอร์ พารากอนซีนีเพล็กซ์ เมื่อค่ำคืนวันเสาร์ที่ 2 มิถุนายน 2555 โดยมี กนิษฐ์ สารสิน และ อลิซาเบธ แชดเลอร์ รับหน้าที่พิธีกร
หลังจากผู้ประกวดรอบสุดท้าย 44 คน จากผู้สมัคร 287 คนจากทั่วประเทศ ได้ทำกิจกรรมต่างๆ ของกองประกวดร่วมกัน เช่น การทัศนศึกษาและทำกิจกรรมร่วมกันที่จังหวัดพิษณุโลก ทั้งกิจกรรมประชาสัมพันธ์ ประเพณี วัฒนธรรม และการท่องเที่ยวของจังหวัดพิษณุโลก การใช้เวลาและทำกิจกรรมร่วมกันเป็นเวลานาน หลายสัปดาห์ ทำให้เหล่าสาวงามต่างสนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว เกิดเป็นความผูกพัน ทำให้การทำกิจกรรม ที่จัดขึ้นในแต่ละสถานที่ เต็มไปด้วยความช่วยเหลือ เอื้ออาทรต่อกัน
สำหรับการแสดงบนเวทีประกวดรอบตัดสิน เริ่มด้วยการเปิดตัวสาวงาม 44 คนในชุดว่ายน้ำ จาก BSC พร้อมแนะนำตัว จากนั้น 44 สาวงามยังได้อวดโฉมชุดว่ายน้ำพร้อมเสื้อคลุมอีกครั้งประกอบการพิเศษ ชุด “รัก จับ ใจ” จาก “บี้ สุกฤษณ์ วิเศษแก้ว”
จากนั้นเข้าสู่ความระทึกใจด้วยการประกาศผู้เข้ารอบ 12 คนสุดท้าย จากนั้นผู้เข้ารอบ 12 คนสุดท้ายขึ้นปรากฏตัวบนเวทีอีกครั้งในชุดเสื้อผ้าจากโนริโกะ พร้อมการแสดง จาก ว่าน ธนกฤต พานิชวิทย์, นัท ณัฐมน กฤษณคุปต์ (เดอะสตาร์ 5) และ อดีตมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ปี 2552 ไข่มุก ชุติมา ดุรงค์เดช อดีตมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ปี 2550 กวาง ฟ้ารุ่ง ยุติธรรม ในเพลง “ระยะปลอดภัย”
ตามด้วยการแสดงพิเศษ “เดือนในหมู่ดาว” โดย “เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์” พร้อมการเดินในชุดราตรี ของสาวงาม 12 คนสุดท้าย และเข้าสู่การประกาศผลตำแหน่งพิเศษอีกหนึ่งตำแหน่ง คือ ตำแหน่ง “ขวัญใจช่างภาพสื่อมวลชน” ซึ่งได้แก่ หมายเลข หมายเลข 26 พิม อริยดา พริ้งสกุลพิม ได้รับเงินรางวัลเงินสด 2 แสนบาท พร้อมถ้วยเกียรติยศและสายสะพาย สนับสนุนโดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง BSC Cosmetology ใช้ตลอดปี ตามต่อด้วยการประกาศผล Miss Popular จากบริษัท แอดวานซ์ อินโพร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ซึ่งได้แก่ หมายเลข 4 จ๊ะโอ๋ พัทธวรรณ เจียมสกุลศักดิ์ โดยได้รับรางวัลเงินสด 3 หมื่นบาท พร้อมสายสะพาย และ โทรศัพท์ Samsung Galaxy S3
นอกจากนี้แล้ว ก่อนหน้านี้ ยังมีการมอบรางวัลพิเศษไปแล้ว 3 รางวัล ได้แก่ นางงามผิวสวย โดยสก๊อต คอลลาเจน-คิวเทน ซึ่งสาวงามผู้ได้รับรางวัล ได้แก่ หมายเลข 3 ลี่ สิริน ไตรวุฒิพิพิฒน์กุล รับเงินรางวัล 1 แสนบาท พร้อมสก๊อต คอลลาเจน-คิวเทน ดื่มฟรีตลอดปี “รางวัลนางงามสุขภาพดี” โดยเครื่องดื่มบี-อิ้ง ได้แก่หมายเลข 1 ยีน เกวลิน ศรีวรรณา คว้ารางวัลเงินสด 1 แสนบาท พร้อมสายสะพาย ส่วนรางวัล “นางงามบุคลิกภาพดี” โดยน้ำดื่มสิงห์ ผู้ที่ได้รางวัลไปครองคือสาวงามจากปักษ์ใต้ ลูกครึ่งไทย-ออสเตรีย หมายเลข 43 ริด้า ฟาริด้า วัลเล่อร์ รับรางวัลเงินสด 1 แสนบาท พร้อมสายสะพายไปครอง
เข้าสู่ความระทึกใจอีกครั้งเมื่อพิธีกรประกาศผลสาวงามเข้ารอบ 5 คนสุดท้าย ได้แก่
หมายเลข 31 มายด์ วรัทยา ว่องชยาภรณ์
หมายเลข 10 แนน สุพัตรา จูเจริญ
หมายเลข 25 กวาง พรภัสสร อัตถปัญญาพล
หมายเลข 43 ริด้า ฟาริด้า วัลเล่อร์
หมายเลข 1 ยีน เกวลิน ศรีวรรณา
โดยสาวงามทั้ง 5 ต้องตอบคำถาม ก่อนที่ “น้องฟ้า ชัญษร สาครจันทร์” มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ประจำปี 2554 จะปรากฏตัวบนเวทีเพื่ออำลาตำแหน่ง
จากนั้นเป็นการประกาศผลการตัดสิน เริ่มจากรองมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 3 ตำแหน่ง ได้แก่
รองอันดับ 4 หมายเลข 1 ยีน เกวลิน ศรีวรรณา
รองอันดับ 3 หมายเลข 25 กวาง พรภัสสร อัตถปัญญาพล
รองอันดับ 2 หมายเลข 10 แนนสุพัตรา จูเจริญ
ซึ่งได้รับเงินรางวัลละ 2 แสนบาท พร้อมสายสะพาย และถ้วยเกียรติยศ นาฬิกาข้อมือจาก Charriol พร้อม ผลิตภัณฑ์จากผู้สนับสนุนมากมาย
เข้าสู่วินาทีแห่งความทรงจำ นั่นคือ การประกาศผลการตัดสินซึ่งเป็นคะแนนจากคณะกรรมการผู้ทรง คุณวุฒิ 9 ท่าน คือ แพทย์หญิง ปรียา กุลละวณิชย์ คุณเพ็ชรากรณ์ วัชรพล คุณภัทรา ศิลาอ่อน คุณอาภัสรา หงสกุล (มิสยูนิเวิร์ส ประจำปี 2508) ศาสตราจารย์ ปรีชา เถาทอง คุณสุดารัตน์ บูรพชัยศรี คุณถกลเกียรติ วีรวรรณ คุณวิลักษณ์ โหลทอง และ คุณอรรคพันธ์ นะมาตร์
ซึ่งผู้ได้รับตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2012 ได้แก่ หมายเลข 43 ริด้า ฟาริด้า วัลเล่อร์ ลูกครึ่งไทย-ออสเตรีย อายุ 18 ปี กำลังศึกษาระดับปริญญาตรี คณะอักษรศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยรับรางวัลเงินสด 1 ล้านบาท มงกุฎเพชรและชุดเครื่องประดับ จาก Beauty Gems สายสะพาย ถ้วยเกียรติยศ รถยนต์โตโยต้า New Prius และของรางวัลและผลิตภัณฑ์จากผู้สนับสนุนมากมาย พร้อมเป็นตัวแทนสาวไทยเข้าประกวด มิสยูนิเวิร์ส 2012 ที่จะจัดขึ้นในปลายปีนี้
ส่วนรองมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์อันดับที่ 1 ได้แก่ หมายเลข 31 มายด์ วรัทยา ว่องชยาภรณ์ ซึ่งได้รับรางวัลเงินสด 5 แสนบาท สายสะพาย และถ้วยเกียรติยศ พร้อมของรางวัล จากผู้สนับสนุนมากมาย
หลังจากการประกาศผลเสร็จสิ้นลง “น้องริด้า ฟาริด้า วัลเล่อร์” ได้เผยถึงความรู้สึกที่ได้ตำแหน่ง ที่สำคัญได้เป็นลูกครึ่งคนแรก ที่ได้ครองมงกุฎมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ตั้งแต่มีการจัดประกวดมา
“ก็มีความภาคภูมิใจที่เราได้ใช้ชีวิตบนผืนแผ่นดินไทย ริด้าสามารถพูดได้เต็มปากว่าเป็นผู้หญิงไทยคนนึง แล้วยังได้เตรียมตัวมากที่สุดด้วยคนอื่น 1-2 เดือน เรานี่ 6 เดือนในเวทีนางงามจักรวาล”
“มันเป็นความรู้สึกที่บรรยายไม่ได้จริงๆ มันมีทุกความรู้สึกรวมอยู่หมดความดีใจ ภูมิใจ ตื้นตัน ความกลัวเพราะเรายังต้องไปต่อเวทีมิสยูนิเวิร์สต่อๆ ไปก็หวังว่า จะทำให้ได้ดีที่สุด ตอนอยู่บนเวทีที่เหลือแค่ 2 คน ตอนนั้นสมองโล่งมาก อยากจะร้องไห้แต่ไม่กล้า ก็หวังอยากให้ตัวเองได้ตำแหน่งนะคะ แต่ถ้าไม่ได้ก็ถือว่าตัวเองทำดีสุด แล้วมันก็เป็นเวทีแรกของเราด้วย มันเป็นความฝันตั้งแต่เด็กๆ แล้ว เราเรียนจบมัธยมแล้วตอนนี้จะเข้ามหาวิทยาลัยเรามีโอกาสก็ลองดู”
“ริด้า ก็คิดว่า เป็นโอกาสที่เราได้พัฒนาตนเอง จากที่ได้อยู่ในกองประกวด น่าจะเป็นคนรับผิดชอบ การใช้ชีวิตร่วมกับคนอื่น เวทีมิสยูนิเวิร์สนานาชาติ มั่นใจว่า ต้องยากมากแน่นอน แต่ก็ต้องฝึกและพัฒนาตัวเองเรื่อยๆ ริด้าจะนำความเป็นไทย ความสวยงามของประเทศที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นทางศิลปวัฒนธรรม และประเพณีไปเผยแพร่ค่ะ และอีกอย่างที่สำคัญริด้าจะนำรอยยิ้งสยามไปให้ทั้งโลกได้เห็นกัน”
อย่างเราเองก็เป็นตัวเก็งที่ผ่านมีคิดมั้ยว่าเราจะได้?
“อยู่ในกองประกวดไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองเป็นตัวเก็ง เพราะเพื่อนๆ ล้วนมีความสามารถ สวย บุคลิกดีกันทุกคน”
เจ้าตัวบอกหลังจากนี้คงต้องแบ่งเวลาให้ดี เพราะต้องเรียนไปพร้อมๆ กับการทำภารกิจอีก 1 ปี
“ริด้ารู้สึกภาคภูมิใจมากกับตำแหน่งแต่การเรียนก็สำคัญไม่แพ้กัน ก็ต้องบริหารเวลาให้ดีทุกอย่างจะออกมาลงตัว ส่วนงานในวงการบันเทิง ก็คงต้องดูก่อนค่ะ ก็เป็นความฝันของผู้หญิงทุกคนที่อยากจะได้เป็นนางงาม ได้มีโอกาสเข้ามาในวงการ คงต้องดูก่อนค่ะ”
