“ต้องบอกว่าสารเคมีของคู่พระนางคู่นี้ผมว่ามันโดนกันมากๆ...”
ข้างต้นเป็นคำประกาศที่แสดงถึงความมั่นใจเป็นอย่างยิ่งเสียเหลือเกินของหัวเรือใหญ่ค่ายเอ็กแซ็กท์ “บอย ถกลเกียรติ วีรวรรณ” ที่มีต่อคู่พระนาง “บี้ สุกฤษฏิ์ วิเศษแก้ว” และ “หนูนา หนึ่งธิดา โสภณ” ที่ถูกวางตัวไว้ให้คู่กันในละคร “คู่กรรม” ที่กำลังจะนำมารีเมกอีกครั้งในช่วงปลายปีนี้
โดยเฉพาะในรายของนักร้องหนุ่มนั้น ต้องบอกว่า ผู้บริหารค่ายเอ็กแซ็กท์ ระบุเฉพาะเจาะจงเป็นพิเศษว่า ต้องเป็นเขา ถึงขนาดที่ติดต่อซื้อลิขสิทธิ์นวนิยายเรื่องนี้มาเก็บเอาไว้ตั้งแต่ 4 ปีที่แล้ว เพื่อรอให้เจ้าตัวได้สะสมประสบการณ์อย่างเต็มที่ในการจะมารับบทนายทหารหนุ่มผู้มาตกหลุมหลงรักสาวไทยในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
“ผมตั้งใจไว้ตั้งแต่ 4 ปีที่แล้ว ตั้งแต่เห็นเขาในคอนเสิร์ต เลิฟ ไอ แคน ก็คิดว่า ถ้าบี้ได้เล่นบทโกโบริ มันจะวิเศษมากๆ แต่ตอนนั้นเรารู้เลยว่ายังไม่พร้อม รออีกพักหนึ่ง รอเวลาเพาะบ่มให้ประสบการณ์ชีวิตมากขึ้น ประสบการณ์การทำงาน และประสบการณ์การแสดงมากขึ้นและมีทักษะที่พร้อม”
“เพราะบทโกโบริ ไม่ใช่เล่น คนเฝ้ารอกันมาก มันเป็นบทที่เซนซิทีฟมากๆ ถ้าเกิดเล่นไม่ดีอย่าได้มาแตะต้องเลย”
ก่อนหน้าที่ บอย ถกลเกียรติ จะออกมาเผยถึงโปรเจกต์ที่ว่านี้ ย้อนกลับไปในช่วงปลายปีที่แล้ว ก็เคยมีกระแสข่าวออกมาว่าทางฟากวิกหมอชิต “ช่อง 7” เองก็เตรียมที่จะนำเอาละครเรื่องนี้กลับมาทำใหม่เช่นกัน โดยเตรียมยกบท โกโบริ ให้กับหนุ่ม “เป้ อารักษ์” ขณะที่นักแสดงสาวคนเคยรักกันอย่าง “แพนเค้ก เขมนิจ” จะมารับบทเป็น “อังศุมาลิน” ทว่า ข่าวดังกล่าวก็ค่อยๆ เงียบหายไปพร้อมๆ กับข่าว “แดง สุรางค์ เปรมปรีดิ์” ไม่ถูกต่อสัญญา ก่อนจะเป็นทางด้านค่ายเอ็กแซ็กท์ ที่ได้สิทธิ์จากนวนิยายเรื่องนี้ไปแทน
อย่างไรก็ตาม ต้องถือว่าเป็นเรื่องบังเอิญโดยแท้จริง เพราะในขณะที่ บอย ถกลเกียรติ ออกมาให้ข่าวว่าจะรีเมก คู่กรรม ก็เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่มีข่าวออกมาว่า ฟากค่ายหนังอย่าง “เอ็ม ๓๙” ก็เตรียมที่จะนำเอานวนิยายชื่อดังเรื่องนี้มาทำเป็นภายนตร์พอดิบพอดี
ตามข่าวผู้ที่จะมารับหน้าที่กำกับ คู่กรรม เวอร์ชันภาพยนตร์ ก็คือ “เรียว กิตติกร เลียวศิริกุล” ผู้กำกับมือดีคนหนึ่งของวงการ เจ้าของผลงาน อาทิ โกลคลับ เกมส์ล้มโต๊ะ, อหิงสา จิ๊กโก๋มีกรรม, เมล์นรก หมวยยกล้อ, ดรีมทีม, เรา สองสาม คน ขณะที่ผู้ที่จะมารับบท โกโบริ นั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นนักแสดงหนุ่มฮอตสุดคูลอย่าง “ณเดชน์ คูกิมิยะ” นั่นเอง
ทั้งนี้ ในรายละเอียดของข่าวที่ออกมานั้น ลงลึกไปถึงขนาดที่ว่าค่าตัวของนักแสดงหนุ่มจะอยู่ที่หลักล้านบาทขึ้นไป ซึ่งขณะนี้เหลือเพียงให้อีกฝ่ายเคลียร์คิวงานละครเท่านั้น ก็จะดำเนินการถ่ายทำทันที โดยอาจจะเป็นในช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า
อย่างไรก็ตาม สำหรับเรื่องนี้เมื่อทีมข่าว Super บันเทิง ออนไลน์ ได้สอบถามไปยังแหล่งข่าวค่าย เอ็ม ๓๙ ก็ได้รับคำตอบว่า ข่าวที่ออกมาทั้งหมดนั้นยังไม่มีอะไรเป็นที่แน่นอน โดยทางค่ายจะเตรียมแถลงเพื่อบอกถึงความชัดเจนถึงเรื่องนี้อีกครั้งในเร็ววันนี้
“คู่กรรม” มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Sunset at Chaophraya เป็นนวนิยายว่าด้วยเรื่องราวความรักที่ต้องจบลงด้วยโศกนาฏกรรมของ “โกโบริ” นายทหารหนุ่มจากประเทศญี่ปุ่น ผู้มาตกหลุมรักกับสาวไทย “อังศุมาลิน” โดยมีบรรยากาศเหตุการณ์ของสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นฉากหลัง
นวนิยายเรื่องนี้นับได้ว่ามีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆ ของผู้แต่งอย่าง “ทมยันตี” (คุณหญิง วิมล เจียมเจริญ หรือชื่อโดยกำเนิด วิมล ศิริไพบูลย์) ซึ่งเขียนเรื่องนี้ขึ้นในปี พ.ศ. 2508 โดยได้รับแรงบันดาลใจจากการเข้าไปเยี่ยมชมสุสานทหารสัมพันธมิตร ดอนรัก จังหวัดกาญจนบุรี ก่อนจะตีพิมพ์เป็นตอนๆ ในนิตยสารศรีสยาม (ในเครือนิตยสารขวัญเรือน) และรวมเล่มเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ.2512
ที่ผ่านมา คู่กรรม ถูกสร้างเป็นละครโทรทัศน์มาแล้วหลายครั้ง แต่ที่ดูเหมือนว่าจะได้รับเสียงตอบรับมากที่สุดก็คงจะเป็นเวอร์ชันที่ช่อง 7 สร้างในปี 2533 ที่ได้นักร้องดัง “เบิร์ด ธงไชย” มารับบท โกโบริ คู่กับนักแสดงมากฝีมือ “กวาง กมลชนก” ในบทของ อังศุมาลิน ซึ่งในเวอร์ชันนี้เรตติ้งพุ่งกระฉูดถึงขนาดที่ นสพ.อย่างไทยรัฐ ต้องทำเป็นข่าวลงหน้าหนึ่ง ซึ่งเฉพาะฉากที่ โกโบริ หรือที่เรียกแบบไทยๆ ว่า “พ่อดอกมะลิ” รำพึงรำพันก่อนตายฉากเดียว ก็สามารถกินเวลาไปได้หลายต่อหลายตอน ขณะที่แฟนคลับบางส่วนก็พากันสวมเสื้อสีดำ เพื่อเป็นการไว้อาลัยต่อตายดังกล่าวอีกต่างหาก
ส่วนที่เป็นเวอร์ชั่นภาพยนตร์นั้น คู่กรรม ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์แล้ว 3 ครั้ง ไล่ไปตั้งแต่ปี พ.ศ.2516 มี “นาท ภูวนัย” รับบท โกโบริ ส่วน อังศุมาลิน มี 2 คน คือ “ดวงนภา อรรถพรพิศาล” และ “หลิงลีจู” ถัดมาปี พ.ศ.2531 บริษัท ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น เอากลับมาสร้างอีกครั้ง กำกับการแสดงโดย รุจน์ รณภพ มี “วรุฒ วรธรรม” รับบทเป็น โกโบริ, “จินตหรา สุขพัฒน์” รับทเป็น อังศุมาลิน ซึ่งเวอร์ชันนี้ต้องบอกว่าค่อนข้างจะได้รับความนิยมพอสมควรทีเดียว กระทั่งในปี 2538 แกรมมี่ ก็มอบบท โกโบริ ให้กับ เบิร์ด ธงไชย อีกครั้งโดยประกบคู่กับ “อุ๋ม อาภาศิริ นิติพน” ซึ่งการตอบรับนั้นต้องถือว่าไม่ดีสักเท่าไหร่
ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่าในส่วนของนักแสดงหนุ่ม ณเดชน์ ที่ออกตัวว่าตนยังไม่อยากจะแสดงภาพยนตร์ เพราะรู้สึกว่าฝีมือยองไม่ถึงนั้นจะลงเอยกับโปรเจกต์ คู่กรรม นี้อย่างไร
งานนี้ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามข่าวจริงๆ ก็ต้องบอกว่าน่าจับตาทีเดียวว่าลีลาของ “พ่อดอกมะลิ” ระหว่างนักร้องหนุ่ม “บี้ สุกฤษฎิ์” กับ “ณเดชน์ คูกิมิยะ” นั้น ใครจะเรียกเสียงกรี๊ดจากบรรดาแม่ยกได้มากกว่ากัน และจะสร้างกระแสจนกลบความโด่งดังเดิมที่นักร้องรุ่นพี่อย่าง “เบิร์ด ธงไชย” เคยทำไว้ได้หรือไม่?
