ประธานบริษัทผลิตภาพยนตร์ของ Disney “ริช รอส” ได้ประกาศขอลงจากตำแหน่งเป็นที่เรียบร้อย ภายหลังผลงานที่เขามีส่วนร่วมผลักดัน John Carter ประสบความล้มเหลว อาจทำให้บริษัทต้องขาดทุนถึง 200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
การก้าวลงจากตำแหน่งประธานของ Walt Disney Pictures เมื่อช่วงวันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมา เกิดขึ้นหลัง ริช รอส ทำหน้าที่มาได้ไม่ถึง 3 ปี เท่านั้น โดยการตัดสินใจครั้งนี้ น่าจะเกี่ยวข้องกับความล้มเหลวของหนังทุนสูงเรื่อง John Carter ที่ทาง Disney ได้ยอมรับว่า อาจต้องสูญเงินไปราว 200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ กับความล้มเหลวของหนังฝีมือผู้กำกับ แอนดรู สแตนตัน
“เป็นเวลา 15 ปีมาแล้วที่ผมได้มีโอกาสร่วมงานกับผู้คนที่เต็มไปด้วยพรสวรรค์ กับแบรนด์ซึ่งเป็นที่รักมากมายของคนทั่วโลก แต่คนที่ดีที่สุดก็ต้องได้ทำงานในหน้าที่ซึ่งเหมาะสมที่สุด ในบทบาทซึ่งเขามีความกระตือรือร้นให้กับมัน, ทำงานซึ่งต้องใช้ความสามารถอย่างเต็มศักยภาพ” รอส กล่าวผ่านแถลงการณ์
“ผมเองไม่สามารถเชื่อมั่นต่อไปอีกแล้วว่า บทบาทประธาน คือ งานที่เหมาะสมที่สุดสำหรับตนเอง ด้วยเหตุผลดังกล่าวผมได้ตัดสินใจด้วยความยากลำบาก ที่จะก้าวลงจากตำแหน่งประธานของ Walt Disney Studios ซึ่งจะมีผลภายในวันนี้ทันที”
ริช รอส: รุ่ง และร่วง ที่ Disney
ริช รอส ได้เข้ามาทำหน้าที่ประธานของ Disney ตั้งแต่เดือน ต.ค.2009 พร้อมภารกิจในการลดค่าใช้จ่าย และพัฒนาโครงการหนังฮิตใหม่ๆ โดยก่อนหน้านี้เขาเคยทำหน้าที่ประธานของโทรทัศน์เคเบิล Disney Channel และประสบความสำเร็จอย่างสูงกับการปั้นให้ High School Musical และ Hannah Montana โด่งดังครองใจผู้ชมวัยรุ่นและกลุ่มเด็กๆ มาแล้ว
จากการเริ่มต้นทำงานกับ Disney Channel มาตั้งแต่ปี 1996 ในตำแหน่งผู้อำนวยการสร้างบริหาร และดูแลรายการ รอส ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธานของสถานีโทรทัศน์เคเบิลแห่งนี้ในปี 2004 และประสบความสำเร็จกับการบริหาร จนกลายเป็นดาวเด่นของ Disney ถึงขั้นที่ บ็อบ ไอเกอร์ ตัดสินใจเลือกให้เขาเข้ามาทำหน้าที่ประธานของ Walt Disney Pictures แทนที่ ดิก คุก ผู้นั่งอยู่ในตำแหน่งดังกล่าวมาอย่างยาวนาน
ภายใต้การบริหารงานของ รอส Walt Disney Pictures มีผลงานที่ประสบความสำเร็จออกมาหลายเรื่อง อาทิ Pirates of the Caribbean: On Stranger Tides, Alice in Wonderland, Toy Story 3 และ The Muppets
อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นในตำแหน่งประธานของ รอส กลับเริ่มตกต่ำลง โดยเฉพาะจากผู้อำนวยการสร้างคนดัง เจอร์รี บรัคไฮเมอร์ ที่ รอส ไม่อนุมัติโครงการหนังคาวบอยทุนสูงของเขาเรื่อง The Lone Ranger เพราะเหตุผลด้านทุนสร้างที่สูงเกินไป แต่สุดท้าย บรัคไฮเมอร์ ก็สามารถผลักดันโครงการหนังเรื่องนี้ให้เปิดกล้องได้ในที่สุด
นอกจากนั้น ริช รอส ยังตกเป็นเป้าวิจารณ์ขึ้นมาทันที เมื่อเขายอมปล่อยให้ทุนสร้างของหนังไซไฟแฟนตาซีเรื่อง John Carter ทะลุไปถึง 250 ล้านเหรียญ จากเดิมที่เคยวางกันเอาไว้ที่ 200 ล้านเหรียญ เมื่อรวมกับค่าใช้จ่ายทางการตลาดแล้ว ว่ากันว่า Disney อาจผลาญเงินกับหนังเรื่องนี้ไปเฉียด 400 ล้านเหรียญ เลยทีเดียว และสุดท้ายหนังก็ประสบกับความล้มเหลวอย่างหนัก ทำรายได้ทั่วโลกไปเพียง 269 ล้านเหรียญ เท่านั้น จนกลายเป็นหนังที่ล้มเหลวที่สุดเรื่องหนึ่งในประวัติศาสตร์ของฮอลลีวูดเลยทีเดียว
อนาคตของ Walt Disney Pictures
กับการตัดสินใจลาออกครั้งนี้ บ๊อบ ไอเกอร์ ซีอีโอของ Disney กล่าวว่า “เป็นเวลามากกว่าทศวรรษที่ สัญชาตญาณทางความคิดสร้างสรรค์, ไหวพริบทางธุรกิจ และความซื่อตรง ของ ริช รอส คือ กุญแจสำคัญในการดำเนินธุรกิจของ Disney”
“วิสัยทัศน์ และความเป็นผู้นำของเขาเปิดประตูให้กับ Disney ในทั่วโลก, ทำให้แบรนด์ของเรากลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้คนนับล้าน” ไอเกอร์ กล่าว “ผมขอยกย่องความทุ่มเทอันประเมินค่าไม่ได้ของเขาตลอดการทำงานที่ Disney และหวังว่า เขาจะได้พบกับความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ต่อไปในอนาคต ไม่ว่าเขาจะเลือกทำอะไร”
สำหรับคนที่จะขึ้นมาแทนที่ คนวงในของธุรกิจภาพยนตร์ เชื่อว่า Disney จะไม่แต่งตั้งใครคนใดคนหนึ่งขึ้นมาแทน รอส โดยทันที แต่คงต้องใช้เวลาเลือกประธานคนใหม่ไปอีกซักระยะ และถึงขณะนี้มีข่าวลือมากมายถึงผู้บริหารคนดังที่อาจได้มานั่งตำแหน่งประธานของบริษัท
The Hollywood Reporter ได้อ้างถึงรายชื่อผู้บริหารดังๆ ในวงการหนังอย่าง สเตซี สไนเดอร์ (ซีอีโอ และประธานของ DreamWorks), แมรี แพเรนต์ (ประธานของ Metro Goldwyn Mayer), เควิน ฟีก (ประธานของ Marvel Studios) และ อลัน บอร์กแมน ว่า มีสิทธิ์ที่จะเข้ามากุมบังเหียนสตูดิโอผลิตภาพยนตร์ที่ทรงอิทธิพลที่สุดแห่งหนึ่งของฮอลลีวูดต่อไป
เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ 7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540 ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก ระบบ True Move และ Hutch - เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก |