บริษัทบันเทิงยักษ์ใหญ่ประกาศว่าสื่อต่างๆ ในเครือ ไม่ว่าจะเป็นทาง โทรทัศน์, วิทยุ และเว็บไซต์ ที่มีกลุ่มลูกค้าเป็นเด็กของทาง Disney จะไม่ต้อนรับโฆษณาสปอนเซอร์จากสินค้าประเภท “อาหารขยะ” อีกต่อไป
ตัวแทนของ Walt Disney Co. ได้ประกาศเมื่อวันอังคาร (5 มิ.ย.) ที่ผ่านมา ว่า พวกเขาจะเป็นสื่อยักษ์เจ้าแรก ที่จะแบนสินค้าประเภท “อาหารขยะ” จากทั้งรายการโทรทัศน์, วิทยุ และเว็บไซต์ในเครือที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นเด็กทั้งหมด
ซึ่งหมายความว่า รายการภาคเช้าของทาง Disney ทางสถานีโทรทัศน์ ABC ก็จะไม่มีโฆษณาอาหารประเภท “จังก์ฟูด” ให้เห็นกันอีกแล้ว รวมทั้งอาหารใดๆ ก็ตามที่ขาดคุณภาพด้านโภชนาการ ตามมาตรฐานที่บริษัทตั้งเอาไว้เอง
งานนี้ มิเชล โอบามา สุภาพสตรีหมายเลข 1 ของสหรัฐฯ ถึงกับเรียกการตัดสินใจของ Disney ครั้งนี้ ว่า จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของวงการสื่อสหรัฐฯ กันเลยทีเดียว … “Disney ริเริ่มทำในสิ่งที่สื่อหลักเจ้าอื่นไม่เคยทำมาก่อนในสหรัฐฯ ซึ่งดิฉันหวังว่าทุกบริษัทจะทำแบบนี้เช่นเดียวกัน”
ซึ่งระเบียบปฏิบัติใหม่ของ Disney ถือว่าเป็นไปในทิศทางเดียวกับนโยบายของทางภาครัฐ ที่มีเป้าหมายในการสนับสนุนการบริโภคผลไม้ และผัก ขณะเดียวกัน ก็ลดการบริโภคน้ำตาล, โซเดียม และไขมันอิ่มตัว ซึ่งอาหารสำหรับเด็กแบบดั้งเดิม จากร้านในเครือบริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่ง ไม่น่าจะผ่านข้อกำหนดใหม่นี้ได้ แม้ว่าในร้านจะมีเมนูที่ถูกต้องตามหลักสุขภาพ แต่ทาง Disney จะไปตรวจสอบถึงเมนูทั้งหมดในร้าน เพื่อตัดสินใจว่าจะอนุมัติให้มีโฆษณาของร้านดังกล่าวในรายการ และสื่อของบริษัทหรือไม่
เลสลี กู๊ดแมน รองประธานอาวุโส ยังกล่าวว่า บริษัทไม่ได้เพียงแค่คำนึงถึงการรับประทานอาหารในแต่ละมื้อของเด็กๆ เท่านั้น แต่ยังจะแสดงให้เห็นถึงทางเลือก และอาหารอันหลากหลายที่เด็กๆ สามารถรับประทานได้ โดยตามข้อกำหนดใหม่ของ Disney ระบุว่า ในอาหาร 1 มื้อ ต้องมีพลังงานไม่เกิน 600 เคลลอรี และไม่ต่ำกว่า 200 เคลลอรี
กู๊ดแมน ยังบอกอีกว่า ตอนนี้ก็มีเครือร้านอาหารบางแห่งที่เคยเป็นลูกค้าของ Disney มาก่อน แต่ไม่สามารถผ่านมาตรฐานว่าด้วยโภชนาการใหม่ที่เพิ่งประกาศใช้ได้แล้ว
เกี่ยวกับประเด็นทางธุรกิจ บ็อบ อีเกอร์ ซีอีโอของบริษัท ยอมรับว่า ในระยะสั้น Disney อาจจะต้องสูญเสียรายได้เล็กน้อย แต่เขาก็หวังว่าบริษัทต่างๆ จะสามารถสร้างสรรค์สินค้าใหม่ๆ ที่ตรงตามมาตรฐานใหม่ที่ทาง Disney กำหนดขึ้นมาได้ หากยังต้องการช่วงเวลาโฆษณาของบริษัทต่อไป
ด้านผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับสุขภาพ และโรคอ้วนในเด็ก ได้ให้ความเห็นว่า ตามปกติแล้วการที่นโยบายแบน “อาหารขยะ” ทำนองนี้จะสำเร็จหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับการกำหนดนิยามของคำว่า “อาหารขยะ” ว่า คืออะไรกันแน่ด้วย เพราะก่อนหน้านี้ ก็มีข้อถกเถียงมากมายเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยเฉพาะในฝั่งขององค์กรสื่อส่วนใหญ่ที่มักจะอนุญาตให้อาหารที่เห็นได้ชัดว่า ไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อเด็กซื้อเวลาโฆษณากันได้อย่างตามสบาย
อย่างไรก็ตาม สำหรับคราวนี้ อาวิวา มัสท์ แห่งแผนกสุขภาพมวลชน และการแพทย์สาธารณะของ วิทยาลัยแพทย์ศาสตร์ทัฟส์ มองว่า ความเคลื่อนไหวของ Disney อาจจะประสบความสำเร็จ และทำในสิ่งที่ภาครัฐไม่เคยผลักดันได้มาก่อน “ฉันคิดว่าการที่บริษัทใหญ่อย่าง Disney ลุกขึ้นยืน และกำหนดนโยบายเกี่ยวกับการกินขึ้นมา ถือเป็นก้าวที่ดีทีเดียว”
ส่วน มาร์โก วูแทน นักนโยบายโภชนาการจากศูนย์วิทยาศาสตร์ สังกัดองค์กรผลประโยชน์สาธารณะ ก็มองว่า สุดท้ายแล้วอาจจะมีขนม และอาหารบางประเภทที่ไม่ค่อยจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพนัก หลุดรอดไปปรากฏเป็นโฆษณาได้ แต่ “อาหารขยะ” ที่ให้ผลอย่างเลวร้ายน่าจะถูกกำจัดไปจากจอโทรทัศน์ วูแทน ยังคาดหวังเช่นเดียวกันว่า การตัดสินใจของ Disney จะเป็นจุดเริ่มต้นของนโยบายแบบเดียวกันจากบริษัทอื่นๆ … “การประกาศของ Disney ได้สร้างแรงกดดันไปถึง Nickelodeon กับ Cartoon Network รวมถึงสื่อเจ้าอื่นๆ ให้ทำตาม”
Disney ได้เริ่มกำหนดนโยบาย และวิธีปฏิบัติด้านโภชนาการมาตั้งแต่ปี 2006 แล้ว ซึ่งความเคลื่อนไหวครั้งล่าสุด ก็คือ การแสดงจุดยืนดังกล่าวให้เข้มข้นขึ้นไปอีก โดยบริษัทยังพยายามผลักดันให้อาหาร และเครื่องดื่ม 85% ของทั้งหมดที่มีจำนวนในสวนสนุกของ Disney ทั่วโลก เป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของเด็กๆ
สำหรับ 15% ที่ยกเว้นเอาไว้นั้น ก็คือ การเว้นช่องว่างสำหรับอาหารที่มีเสิร์ฟในโอกาสพิเศษ เช่น เค้กในงานวันเกิด เป็นต้น นอกจากนั้น บริษัทยังเลิกใช้กลยุทธ์การโฆษณาภาพยนตร์ ด้วยของเล่นที่แถมมากับอาหารด้วย
ถึงตอนนี้นักท่องเที่ยวในสวนสนุก หรือรีสอร์ตในเครือของ Disney ยังมีทางเลือกในการบริโภค แทนที่จะเป็นน้ำอัดลมหรือมันฝรั่งตามปกติ เป็นนมไขมันต่ำ และผลไม้แทน Disney ยังคุยว่าถึงปัจจุบัน 60% ของอาหารและเครื่องดื่มที่พวกเขาจำหน่ายล้วนเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ
ขณะเดียวกัน Disney ยังได้ออกเครื่องหมายสัญลักษณ์ “Mickey Check” ที่จะตีตราในผลิตภัณฑ์อาหาร ที่ขายในสวนสนุก และรีสอร์ตในเครือ ซึ่งผ่านการตรวจสอบคุณภาพทางโภชนาการแล้ว … “ด้วยความประทับใจของเด็กๆ ที่มีต่อตัวละคร และเรื่องราวต่าง ๆ ถือเป็นโอกาสดีที่เราจะได้ส่งเสริม, กระตุ้น และนำพวกเขาไปสู่การมีสุขภาพที่ดีต่อไป” อีเกอร์ กล่าว
เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ 7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540 ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก ระบบ True Move และ Hutch - เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก |