การเข้ามาเปิดคอนเสิร์ตในเมืองไทย ของ “เลดี้ กาก้า” ถือเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นของนักฟังเพลงทุกคน ในยุคที่คอนเสิร์ตของศิลปินตะวันตกระดับเกรด “A” มีให้เห็นน้อยมาก
The Born This Way Ball คือ ทัวร์คอนเสิร์ตล่าสุดของ “เลดี้ กาก้า” ที่จะเริ่มต้นด้วยการแสดงที่กรุงโซลในวันที่ 27 เม.ย.นี้ และคราวนี้กรุงเทพฯ ก็อยู่ในแผนที่ของทัวร์ด้วย
ราคาค่าตั๋วคอนเสิร์ต ตั้งแต่ถูกที่สุด 1,500 บาท จนไปถึง 7,000 บาท อาจจะไม่ได้ถูกนักเมื่อเทียบกับรายได้ขั้นต่ำ 300 บาท ที่เพิ่งจะมีการปรับกันของคนไทย อย่างไรก็ตามเมื่อมองไปในธุรกิจบันเทิง และคอนเสิร์ต โชว์ระดับที่มีราคาตั๋วเกินหลักหมื่นก็ไม่ใช่ของแปลกของยุคนี้แล้ว แม้แต่การแสดงของนักร้องไทย หรือดาราดังระดับเอเชียบางรายก็มีราคาครึ่งหมื่นให้เห็นกันบ่อยๆ
อย่างไรก็ตาม บางครั้งคอนเสิร์ตของ เลดี้ กาก้า เพียงแค่เงินก็หาซื้อไม่ได้ บัตรคอนเสิร์ตในออสเตรเลีย หลายๆ รอบก็หมดไปเรียบร้อยแล้ว จากเดิมที่ค่าตั๋วมีราคาประมาณ 100 เหรียญออสเตรเลีย ก็การนำมาขายต่อชนิดมากกว่าเดิมหลายเท่าตัว ในที่นั่งที่ดีที่สุดอาจจะถึง 10 เท่าตัวหรือ 1,000 เหรียญ ด้วยซ้ำไป
ลองหันมาดูราคาค่าตั๋วคอนเสิร์ตของ เลดี้ กาก้า กับทัวร์ครั้งนี้ดูบ้าง
ในนิวซีแลนด์คอนเสิร์ตของศิลปินสาวซูเปอร์สตาร์ มีค่าตั๋วอยู่ในระหว่าง 129-179 เหรียญนิวซีแลนด์ (3,200-5,000 บาท) ฮ่องกงราคาต่ำสุดอยู่ที่ 480 เหรียญฮ่องกง (1,900 บาท) ส่วนสูงสุดขึ้นไปถึง 1,580 บาท (6,275 บาท) ซึ่งก็ยังถือว่าถูกกว่าประเทศไทยอยู่ดี
ในเกาหลีอันเป็นจุดเริ่มตอนของทัวร์ ค่าตั๋วจะมีราคาอยู่ระหว่าง 55,000 - 155,000 วอน (1,500 - 4,200 บาท) ส่วนคอนเสิร์ตในญี่ปุ่นที่จะจัดกันใน ไซตามะ ซูเปอร์ อารีนา นั้น มีราคาค่าตั๋วอยู่ที่ตั้งแต่ 9,000, 14,000, 20,000 จนไปถึง 25,000 เยนตามลำดับ (3,300 บาท, 5,200 บาท 7,500 บาท และ 9,400 บาท) อยากไรก็ตามหากคิดไปถึงค่าครองชีพในแดนปลาดิบ ราคาตั๋วดังกล่าวก็ไม่ได้สูงอะไรมากนัก
ลองหันมาดูประเทศเพื่อนบ้านกันบ้าง หากคนสิงคโปร์ต้องการดูคอนเสิร์ตของ เลดี้ กาก้า ต้องมีเงินอยู่ประมาณ 108-288 เหรียญสิงคโปร์ (2,700-7,000 บาท), ฟิลิปปินส์ มีตั้งแต่ตั๋วราคา 2,000 เปโซ (1,400 บาท) ถึง 15,000 เปโซ (11,000 บาท) ให้เลือก
อินโดนีเซีย กับคอนเสิร์ตในสนามกีฬา เจโรล่า บังคาโน่ หรือที่คนไทยรู้จักกันดีในนาม เสนายัน มี ราคาตั๋วอยู่ระหว่าง 465,000 ถึง 2.5 ล้านรูปี (1,500-8,500 บาท) แม้จะแพงอยู่เอาการพอสมควรเมื่อเทียบกับรายได้เฉลี่ยของอินโดนีเซีย แต่ผู้คนก็ให้ความสนใจกัน วันที่เปิดขายตั๋วมีคนมารอซื้อกันเป็นแถวยาวถึง 150 เมตร ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาในวันนั้น
แต่หากพูดถึงค่าตั๋วราคาแพงแบบสุดๆ ของ เลดี้ กาก้า ก็ต้องพูดถึงการแสดงที่อินเดีย กับปาร์ตี้หลังการแข่งขัน F1 ที่เปิดโอกาสให้กับคนเพียง 1,000 คนเท่านั้น สำหรับการแสดง จนบัตรคอนเสิร์ตมีราคาพุ่งไปสูงถึง 40,000 รูปี หรือคิดเป็น 24,000 บาท แต่สุดท้ายก็ขายจนหมดเกลี้ยง
ในบ้านเราเอง แม้กระแสความร้อนแรงของคอนเสิร์ตครั้งนี้จะทำให้ตั๋ว (นั่งบนอัฒจันทร์) ไล่ไปตั้งแต่ราคา ราคา 1,500 บาท/2,500 บาท และ 3,500 บาท หมดลงอย่างรวดเร็วนับตั้งแต่มีการเปิดให้จองตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม เป็นต้นมา ทว่าถึงตอนนี้ในส่วนของตั๋ว(ยืน) ราคาแพง ทั้ง 4,500 บาท และ 7,000 บาท ก็ยังคงมีให้จับจองกันอยู่
โดยว่ากันว่าตั๋วทั้งสองราคาที่ยังเหลืออยู่รวมกันแล้วมีจำนวนเฉียดๆ หมื่นใบเลยทีเดียว
กับเรื่องดังกล่าวเมื่อสอบถามไปยังทางผู้จัด อีกฝ่ายได้เปิดเผยว่า คงไม่สามารถระบุเป็นตัวเลขที่แน่นอนของจำนวนตั๋วที่เหลืออยู่ได้ แต่ยอมรับว่า ตั๋วทั้งสองราคายังคงมีให้จับจองอยู่หลังมีข่าวออกมาก่อนหน้านั้นว่าตั๋วทุกราคา SOLD OUT ไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม ก็คงจะต้องลุ้นกันต่อไปว่าตั๋วคอนเสิร์ตครั้งนี้จะวิ่งไปหยุดที่จำนวนใด เพราะหากว่ากันถึงการเต็มความจุของสนามราชมังคลาฯ ในส่วนที่ใช้จัดคอนเสิร์ตครั้งนี้ ซึ่งสามารถจุคนได้ 6 หมื่นคนนั้น หากเต็มทุกที่นั่งและยืนคอนเสิร์ต เลดี้ กาก้า ในบ้านเรา จะถือได้ว่าเป็นการแสดงที่มีจำนวนคนสูงสุด (ต่อ 1 รอบการแสดง) ในการทัวร์เอเชียของคอนเสิร์ต The Born This Way Ball เลยทีเดียว
เลดี้ กาก้า กลายเป็นศิลปินที่มีรายได้มากที่สุดในปี 2011 ที่ทำยอดขายตั๋วคอนเสิร์ตตลอดทั้งปีไป 70.4 ล้านเหรียญ โดยศิลปินสาวเจ้าของทัวร์รับเงินไปเหนาะๆ 23.8 ล้านเหรียญ หากรวมระยะเวลาระหว่างปี 2009-2011 The Monster Ball Tour ที่ประกอบไปด้วยการแสดง 201 รอบสามารถทำเงินไปได้สูงถึง 227.4 ล้านเหรียญฯ หากคิดเป็นจำนวนตั๋วที่ขายได้ในทัวร์คอนเสิร์ตครั้งนั้นก็มากมาย 99% กันเลยทีเดียว
The Born This Way Ball ได้ชื่อว่าเป็นทัวร์คอนเสิร์ตที่ผู้คนทั่วโลกให้ความสนใจกันมากที่สุดในยุคนี้ ด้วยการแสดงที่ได้รับอิทธิพลจากศิลปินรุ่นพี่มากมาย ตั้งแต่ ควีน ไปถึง มาดอนน่า ที่บางครั้งก็นำมาซึ่งข้อสงสัยว่า นี่คือ การ “ลอกเลียนแบบ” หรือ “ได้รับอิทธิพล” แต่ก็ต้องยอมรับว่าเธอสามารถสร้างลีลาส่วนตัวขึ้นมาได้ ด้วยการนำงานลักษณะนี้ ผสมดนตรีแนวร็อค, ป๊อป และอิเล็กทรอนิกส์ เข้าด้วยกัน นำเสนอผ่านลีลาการเต้น, งานดีไซน์ และการแสดงออกที่ไม่เหมือนใคร
กับการแสดงที่ว่ากันว่าใช้ทีมงานถึง 140 คน อุปกรณ์ถึง 40 ตู้คอนเทนเนอร์ ที่เดินทางมาด้วยเครื่องบินส่วนตัว 9 ลำ และเรื่องบินโบอิ้ง 747 ถึง 3 ลำ สำหรับการขนทั้งเสื้อผ้า, เครื่องแต่งกาย, ข่าวของที่จำเป็นทั้งหมด
ด้วยความคิดสร้างสรรค์, งานสร้างสุดอลังการ และพลังอันล้นเหลือ คอนเสิร์ต ของ เลดี้ กาก้า แทบจะเป็นตัวแทนของวงการเพลงในยุคปี 2010s นักวิจารณ์ให้ความเห็นถึงคอนเสิร์ตของศิลปินสาวรายนี้ ว่า “การแสดงของเธอมันคือความบันเทิงมากกว่าจะเกี่ยวกับเรื่องของดนตรีโดยตรง แต่รวมถึงแสงสี และเสื้อผ้า ความหลุดโลก เป็นสิ่งที่ผู้คนชื่นชอบ”
ความสำเร็จและกระแสสนใจในคอนเสิร์ตของศิลปินสาวรายนี้ ยังก่อให้เกิดเสียงวิจารณ์จากกลุ่มอนุรักษ์นิยมในทุกที่ที่เธอเดินทางไปถึง ผู้นำศาสนาในอินโดนีเซียเรียกการแสดงของเธอว่าเข้าข่าย “ฮะรอม” อันหมายถึงสิ่งต่อห้ามต่อสังคมมุสลิม และประกาศว่าคอนเสิร์ตของเธอมีเจตนามุ่งร้าย “ทำลายศีลธรรมของประเทศ”
แม้แต่ในเกาหลีใต้เองก็มีเสียงต่อต้านคอนเสิร์ตของ เลดี้ กาก้า ออกมาเช่นเดียวกัน จากผู้นำคริสเตียนที่รับไม่ได้กับ การสื่อไปถึงเรื่องราวทางเพศ และส่อสนับสนุนการแสดงออกของพวกรักร่วมเพศ จนเจ้าหน้าที่เกาหลีได้ออกคำสั่งให้ผู้จัดคอนเสิร์ต จำกัดอายุคนดูว่าต้องมากกว่า 18 ปีขึ้นไปเท่านั้น
“สเตฟานี โจแอนน์ แอนเจลินา เจอร์มาน็อตตา” วัย 26 ปี มีอัลบั้มเพลงเพียง 3 ชุด เป็นที่รู้จักของคนฟังเพลงมาได้แค่ 4 ปี แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นศิลปินที่โด่งดังที่สุดในโลก ส่วนหนึ่งมาจาก การตกเป็นข่าวแบบวันเว้นวัน, การปรากฏตัวตอหน้าสาธารณะด้วยเสื้อผ้าอันสุดโต่งหลุดโลก, การออกมาแสดงความคิดเห็นถึงเรื่องต่างๆ และการแสดงบนเวทีอันหวือหวา บางครั้งก็ดูโป๊เปลือยหวาดเสียว ส่วนบางทีก็น่าขนลุกขนพอง ... อย่างที่บอก คอนเสิร์ตของเธอมันไม่ได้เกี่ยวกับดนตรีเสียทีเดียว