แกรมมี่ร่ายมนตร์!! “เสก – กานต์” จดทะเบียนรอบสอง

ทำเอาคนที่เคยเชียร์และแช่งกลายเป็นหมาไปตามๆ กัน เมื่อล่าสุดมีสัญญาณออกมาจากคู่ของ “เสก เสกสรร ศุขพิมาย” หรือ “เสก โลโซ” กับ “กานต์ วิภากร ศุขพิมาย” อดีตภรรยาว่าเร็วๆ นี้ทั้งสองจะกลับมาจดทะเบียนสมรสกันอีกครั้ง งานนี้ทำเอาบรรดาคนที่เคยสนับสนุนกานต์เมื่อครั้งที่เธอโพสต์รูปและเรื่องราวของเสกลงในเฟซบุ๊กเมื่อปลายปีที่แล้วถึงกับเซ็ง เพราะตอนนั้นกานต์ทั้งแฉ ทั้งใส่อารมณ์อย่างเดือดดาลเหมือนชาตินี้จะไม่มีวันยอมให้เสกมาทำร้ายเธออีก แต่สุดท้ายทั้งคู่ก็กลับมาจูบปากกันหวานชื่นเหมือนว่าที่ผ่านมาไม่มีอะไรเกิดขึ้นเสียแล้ว

เป็นเรื่องราวใหญ่โตที่ใช้เวลาเพียงน้อยนิดในการเคลียร์ความฉาว สำหรับกรณีการเสพยา คบชู้ และทำร้ายอดีตภรรยาของ “เสก โลโซ” ที่กลายเป็นข่าวดังเกรียวกราวในช่วงต้นเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ซึ่งหากนับจากวันที่กานต์ออกมาแฉเรื่องเสกเสพยาผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวของเธอจนฮือฮาในโลกไซเบอร์และลามมาจนเป็นข่าวดังไปทั่วประเทศก็ผ่านมาแค่เพียง 4 เดือนเศษๆ เท่านั้น แต่เรื่องของเสกดูจะคลี่คลายไปในทางที่ดีจนน่าเหลือเชื่อ

เริ่มตั้งแต่การที่เสกออกมาเปิดศึกกับอดีตภรรยาและบริษัทต้นสังกัดอย่างแกรมมี่ จนแกรมมี่ออกมาประกาศตัดหางปล่อยวัดเสก รวมไปถึงความคลุมเครือว่าตำรวจจะดำเนินคดีกับกานต์โทษฐานนำรูปเสกกำลังเสพยามาเผยแพร่ แต่กลับบอกว่าไม่สามารถดำเนินคดีฐานเสพยากับเสกได้เนื่องจากไม่แน่ชัดว่าเจ้าตัวกำลังเสพยาจริงหรือไม่!!

เวลาผ่านไปไม่กี่วันบทละครเรื่องนี้ก็ถูกเขียนใหม่ให้เสกกับครอบครัวยินยอมเข้ารับการบำบัดที่สถาบันธัญญารักษ์ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข โดยมีตำรวจเป็นผู้ประสานงานให้ ในช่วงนั้นเสกกับกานต์ยังไม่ได้ประสานรอยร้าวกันอย่างสนิทแน่น เพราะฝ่ายเสกมีครอบครัวและ “อ้อม พรพิมล เทพชัย” ผู้จัดการส่วนตัวของเสกเป็นแบ็กอัป ซึ่งฝ่ายนี้ดูเหมือนจะไม่ต้อนรับอดีตภรรยาอย่างกานต์แม้แต่น้อย โดยศึกระหว่างครอบครัวของเสกที่มี “หงส์ ฑยุตา ศุขพิมาย” น้องสาวแท้ๆ ของเสกและผู้จัดการส่วนตัวของเสกที่ชื่ออ้อมยืนอยู่ฝั่งหนึ่ง กับกานต์และลูกๆ ที่ยืนอยู่อีกฝั่งหนึ่งมีกลิ่นของเงินทองและผลประโยชน์มหาศาลของเสกโชยกรุ่นอยู่

ซึ่งเสกในวันนั้น ใช้ชีวิตอยู่ในสถาบันธัญญารักษ์ด้วยสภาพสะลึมสะลือตามสไตล์คนติดยาที่เข้ารับการบำบัดด้วยเคมี แม้ทีมแพทย์และพยาบาลจะพยายามถ่ายคลิปวิดีโอเสกขณะเข้ารับการบำบัดออกมาเผยแพร่ให้สาธารณชนได้เห็นสภาพของเสก (ซึ่งกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมากว่าเหมาะสมหรือไม่) แต่ก็เท่ากับเป็นการตอกย้ำว่าเสกมีสภาพที่ย่ำแย่ขนาดไหน

แต่ทีมแพทย์กลับออกมาให้ข่าวว่าเสกมีอาการดีขึ้นตามลำดับและสามารถออกไปอยู่บ้านได้ตามปกติแล้ว ประกอบกับทางแกรมมี่ออกมาให้สัญญาณว่าพร้อมที่จะให้อภัยเสกและพร้อมที่จะให้เสกกลับมาทำงานเป็นศิลปินในสังกัดอีกครั้ง

เรื่องราวที่เริ่มตั้งแต่ความขัดแย้งอย่างรุนแรงระหว่างเสกกับกานต์ อดีตภรรยา ความบาดหมางอย่างรุนแรงระหว่างเสกกับแกรมมี่ มาจนถึงการที่เสกเข้ารับการบำบัด และมีสัญญาณของศึกครั้งใหม่ระหว่างกานต์กับครอบครัวของเสกและอ้อม ผู้จัดการส่วนตัว มาจนถึงตอนที่เสกอาการดีขึ้นราวปาฏิหาริย์จนสามารถกลับมาอยู่บ้านได้ และแกรมมี่ก็เตรียมที่จะให้เสกกลับมาทำอัลบั้มชุดใหม่แล้ว เรื่องทั้งหมดนี้ใช้เวลาแค่เพียง 4 เดือนเท่านั้น!!

ระยะเวลาที่สั้นเต่อของเรื่องราวที่น่าจะเป็นมหากาพย์ที่น่าจะใช้เวลายาวนานกว่านี้ของเสกมีมือที่เปี่ยมไปด้วยพลังอำนาจที่ชื่อ “แกรมมี่” คอยเข้ามาจัดการ เพราะหากปล่อยให้เรื่องของเสกดำเนินไปตามปกติ ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่แห่งนี้ก็คงจะต้องนั่งมองเม็ดเงินที่ค่อยๆ หลุดลอยออกไปเรื่อยๆ

คงไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเสกคือตัวเงินตัวทองคนสำคัญของแกรมมี่ เพราะขนาดทำเรื่องชั่วช้าขนาดนั้นแต่ก็ยังมีบรรดาสาวกคอยอุ้มชูสนับสนุน ลองคิดดูว่าถ้าแกรมมี่นำเสกมาปัดฝุ่นล้างคราบสกปรกออกจากตัว โดยชูความเป็นตัวอย่างของศิลปินที่เคยติดยาแต่กลับตัวกลับใจใหม่ อะไรจะเกิดขึ้น งานนี้มีแต่ได้กับได้ แฟนเก่าก็ยังอยู่ คนที่เคยด่าทอก็จะเทเข้ามาสนับสนุนอีกครั้ง

พลังของมือที่ชื่อ 'แกรมมี่' มีมากถึงขั้นที่สามารถเข้ามาประสานรอยร้าวระหว่างเสกกับกานต์ได้ ศึกระหว่างครอบครัวเสกที่มีหงส์กับอ้อมเป็นหัวหอก กับกานต์อดีตภรรยาของเสกก็ดูเหมือนว่าจะยุติลงได้อย่างง่ายดาย เพราะแกรมมี่เข้ามาไกล่เกลี่ยผลประโยชน์ในลักษณะที่หากตีเป็นคำพูดคงได้ประมาณว่า “ไม่ต้องกลัว งานนี้ได้กันถ้วนหน้า”

เสกจึงกลับเข้ามาอาศัยอยู่กับกานต์เสมือนว่าที่ผ่านมาไม่เคยเกิดอะไรขึ้น วันธรรมดาเสกจะเดินสายโชว์ตัวและแสดงคอนเสิร์ตตามสถานที่ต่างๆ โดยมีแกรมมี่คอยดูคิวให้เหมือนเดิม ส่วนวันว่างๆ เสกก็จะกลับมากินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากับกานต์ และลูกทั้งสามอย่าง ไทเกอร์ เดียร์ ลอนดอน ซึ่งล้วนแต่เคยยืนอยู่ข้างคุณแม่ของพวกเขาในวันที่กานต์เปิดศึกถล่มเสก

ที่ผ่านมาใช่ว่าจะไม่เคยเกิดกรณีในลักษณะนี้ เพราะกานต์ถูกเสกทำร้ายร่างกายลงไม้ลงมือมาตั้งแต่ช่วงปีแรกที่ทั้งสองคบหากัน การด่อทอ และทะเลาะเบาะแว้งถึงขั้นลงไม้ลงมือถือเป็นเรื่องปกติของเสกกับกานต์ แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งเมื่อประมาณ 10 กว่าปีที่แล้วที่กานต์อดรนทนไม่ไหวถึงขนาดไปแจ้งความเรื่องทำร้ายร่างกายที่ สน. คันนายาว จนกระทั่งเมื่อ 2 ปีก่อนกานต์ก็เดินเข้าไปแจ้งความที่สถานีตำรวจอีกครั้งด้วยเรื่องเดิมๆ ก็คือ “ถูกเสกทำร้ายร่างกาย”

จนกระทั่งเรื่องเดินมาถึงจุดที่ใครหลายคนเชื่อว่าน่าจะเป็น “ฟางเส้นสุดท้าย” ระหว่างกานต์กับเสก เพราะเสกเล่นเปิดเผยกับใครต่อใครว่ากำลังคบหาดูใจกับ “ป่าน ปรางค์ฉัตร พิพัฒน์วีรวัฒน์” นี่แหละที่ทำให้กานต์ปรี๊ดแตกทนไม่ไหวต้องขอหย่าขาดกับเสกไปเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว

แต่มาวันนี้เสกกลับไปนอนข้างๆ กานต์อีกครั้ง ทั้งพูดคุย กินข้าวด้วยกัน และพาลูกๆ ไปเที่ยวด้วยกัน ในเดือนนี้กานต์บอกว่าเสกจะพาเธอกับครอบครัวไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นด้วยกัน ซึ่งความหวานชื่น ณ ปัจจุบันระหว่างเธอกับเสกมีมากถึงขั้นที่เธอกับเสกคิดถึงเรื่องที่จะกลับมาจดทะเบียนสมรสรอบสองกันเลยทีเดียว

“ตอนนี้เรียกว่าครอบครัวเรากลับมาปกติแล้วค่ะ เพราะไม่ห่างกันเลย เสกเขาอยู่บ้านตลอด มีเวลาให้กันมากขึ้น ไปไหนมาไหนด้วยกันมากขึ้น เดือนหน้าก็แพลนไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วยกันทั้งครอบครัว เรื่องจดทะเบียนสมรสก็เป็นเรื่องที่คิดไว้ อย่างที่เคยบอกไปว่าให้เขาหายดีและก็อยู่ในช่วงปรับตัวกันอยู่ กับลูกตอนนี้ก็เป็นปกติ เขาน่ารักมาคุยกับลูกตลอด เป็นพ่อที่ดีของลูกๆ เป็นพ่อที่ดีของครอบครัว เขาไม่ไปไหนเลยค่ะ ก็มีแหย่ลูกเล่น ลูกก็จะเรียกพ่อตลอดเลยโดยเฉพาะคนเล็ก ลอนดอนน่ะค่ะ” กานต์พูดถึงชีวิตครอบครัวของเธอในปัจจุบันเอาไว้เช่นนั้น

เพราะเงินตัวเดียวที่ทำให้เกิดความขัดแย้งที่รุนแรงขึ้น แต่ก็เพราะเงินตัวเดิมนี่แหละที่ทำให้ความสมัครสมานสามัคคีคืนกลับมา วันนี้กานต์ระบุว่าเธอเป็นผู้จัดการส่วนตัวของเสกอย่างเป็นทางการแล้ว ส่วนตัวละครที่ชื่ออ้อมได้หายไป ภายใต้การเขียนบทของบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ชื่อ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ อะไรก็เป็นไปได้ ไม่ว่าจะเป็นการรวบรัดให้เรื่องสุดดรามาจบลงอย่างแฮปปี้ภายในเวลาแค่สี่เดือน หรือทำให้คู่สามีภรรยาที่เคยแตกหักกันไปแล้วคืนกลับมาจดทะเบียนสมรสรอบสองกันเช่นนี้
................................................

ที่มา นิตยสาร ASTV สุดสัปดาห์ ฉบับที่ 131 วันที่ 7-13 เมษายน 2555