“จอร์จ คลูนีย์” โดนจับใส่กุญแจมือหลังประท้วงรัฐบาลซูดาน

เอเอฟพี - เมื่อวันที่ 16 มี.ค. ตามเวลาท้องถิ่น “จอร์จ คลูนีย์” และสมาชิกสภาคองเกรสอีกจำนวนหนึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวบริเวณนอกสถานทูตซูดานในกรุงวอชิงตัน หลังจากพวกเขาพยายามประท้วงเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลซูดาน หยุดปฏิบัติการณ์โจมตีในเขตกอร์โดฟานใต้ ที่ทำให้ประชาชนมากมายล้มตาย ทั้งจากอาวุธ และความอดอยาก

ก่อนจะถูกควบคุมตัว เจ้าหน้าที่ได้เตือนให้นักแสดงซูเปอร์สตาร์และกลุ่มนักเคลื่อนไหวซึ่งทำงานกับเขาให้ออกจากบริเวณดังกล่าวไป แต่ จอร์จ คลูนีย์ ปฏิเสธ จึงถูกจับกุมใส่กุญแจมือพลาสติก และนำตัวขึ้นรถแวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจออกจากสถานที่นั่นไป

คลูนีย์ มีส่วนร่วมในกิจกรรมเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนในซูดานมานานแล้ว เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา เขาก็เพิ่งจะมีโอกาสได้เข้าพบประธานาธิบดีบารัค โอบามา หลังจากฝ่ายของนักแสดงชื่อดัง ได้ไปเยือนซูดาน ในเขตกอร์โดฟานใต้ อย่างไม่เปิดเผย และพบว่าที่นั่นมีผู้คนจำนวนมากถึง 250,000 คนที่เสี่ยงต่อการขาดอาหาร

“เราต้องการให้มีการอนุญาตให้ความช่วยเหลือทางมนุษยชนส่งไปถึงยังซูดานได้โดยทันที ก่อนที่ที่นั่นจะเกิดหายนะทางมนุษยธรรมอันร้ายแรงที่สุดในโลกขึ้น” คลูนีย์ กล่าว “ประการที่สอง เรามาที่นี่เพื่อเรียกร้องในสิ่งขั้นพื้นฐาน นั่นก็คือรัฐบาลในคาร์ทูม (ประเทศซูดาน) ต้องหยุดเข่นฆ่าผู้คน ที่รวมถึง ชาย, หญิง และเด็ก ผู้บริสุทธิ์”

“หยุดย่ำยีประชาชน, หยุดทำให้พวกเขาต้องอดตาย นั่นคือสิ่งที่เราเรียกร้อง” เขากล่าวในการประท้วง ขณะที่ก่อนหน้านี้นักแสดงดังยังมีโอกาสได้พูดต่อหน้าสภาคองเกรสว่าเขาได้เห็นภาพที่คนนับร้อยหลบหนีอย่างหวาดกลัวเข้าไปในหุบเขา และถ้ำในกอร์โดฟานใต้ ระหว่างที่มีการทิ้งระเบิดจากเครื่องบินลงมา

ยังมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอีก 4 ท่านที่ร่วมอยู่ในกลุ่มผู้ประท้วงครั้งนี้ ได้แก่ อัล กรีน, จิม แม็คโกเวิร์น, จิม มอร์แรน และ จอห์น โอลเวอร์ ซึ่งทั้งหมดถูกควบคุมตัวพร้อม ๆ กับ นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชน และผู้นำทางศาสนา

ประเทศซูดานใต้ หรือมีชื่ออย่างเป็นทางการคือ สาธารณรัฐซูดานใต้ ได้สิทธิปกครองตัวเองในเดือน ก.ค. ปี 2011 จากข้อตกลงสันติภาพ เป็นการยุติสงครามที่กินเวลาสองทศวรรษได้ในที่สุด ทำให้มีความหวังว่าอาจจะเกิดความสงบสุขในประเทศที่เต็มไปความขัดแย้งยาวนานแห่งนี้ขึ้นมาได้

แต่สุดท้ายก็เกิดความรุนแรงขึ้นมาอีก ในเขตกอร์โดฟานใต้ เมื่อรัฐบาลของซูดานได้เปิดฉากต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้าย ซึ่งเป็นพวกเดียวกับอดีตกลุ่มก่อกบฏ ที่ปัจจุบันนี้ปกครองประเทศซูดานใต้อยู่