xs
xsm
sm
md
lg

“อเดล” แสดงสด...สดจริง ของจริง “เอาอยู่”/บอน บอระเพ็ด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โดย : บอน บอระเพ็ด (skbon109@hotmail.com)

การกวาด 6 รางวัลแกรมมี่ครั้งที่ 54 ของ “อเดล” (Adele) ในอัลบั้ม “21” โดยเฉพาะกับ 3 รางวัลใหญ่ คือ อัลบั้มแห่งปี, บทเพลงแห่งปี, และรางวัลบันทึกเสียงแห่งปี ถือเป็นการตอกย้ำชื่อเสียง ผลงาน ความสำเร็จ คุณภาพ และศักยภาพของนักร้องสาวอวบคนนี้ในฐานะนักร้องหญิงเบอร์หนึ่งแห่งยุคได้เป็นอย่างดี

ในขณะที่ข่าวดีก็คือ วันนี้อเดลที่ประสบกับปัญหาเรื่องเสียงได้เข้ารับการรักษา ผ่าตัดหลอดเสียงจนสามารถกลับมาร้องเพลงได้อีกครั้ง โดยเธอได้โชว์พลังเสียงร้องสดๆหลังการกลับมาให้ฟังกันในงานแกรมมี่ครั้งนี้ด้วย ส่วนใครที่อยากฟังนักร้องสาวอวบคนนี้ร้องสด เล่นสด เมื่อไม่นานมานี้ทางค่าย “Warner Music” ได้ส่งอัลบั้มบันทึกการแสดงสดของอเดลออกมาในชื่อชุด “Live At The Royal Albert Hall

Live At The Royal Albert Hall เป็นอัลบั้มบันทึกการแสดงคอนเสิร์ตเมื่อวันที่ 22 กันยายน 2011 ช่วงที่อเดลกำลังพีคสุดๆ ก่อนที่เธอจะดวงแตกเกิดอาการเส้นเสียงอักเสบจนต้องยกเลิกการทัวร์คอนเสิร์ตเพื่อเข้าพักรักษาตัว หายหน้า หายตา หายตัว(อวบๆ) หายเสียงไปจากวงการเพลงพักใหญ่ก่อนจะกลับมาเหมือนเดิม โดยปรากฏในงานใหญ่ครั้งแรกในงานแกรมมี่ที่ผ่านมา

ผลงานบันทึกคอนเสิร์ตอัลบั้มนี้ทำออกมาในรูปแบบแพ็คเกจทั้ง CD และ DVD มีทั้งหมด 17 บทเพลง ทั้งจากอัลบั้ม 19 และ 21 รวมถึงบทเพลงของศิลปินคนอื่นอีก 2 เพลงที่มาเสริมสร้างสีสันใหม่ ซึ่งจะว่าไปนี่เป็นดังผลงานรวมเพลงฮิตของเธอกลายๆ โดยในดีวีดีจะมีความพิเศษเพิ่มมากับบทสัมภาษณ์พิเศษ ภาพเบื้องหลัง และภาพที่เธอพักผ่อนอยู่กับหมาของเธอ

นอกจากนี้ในดีวีดียังมีเรื่องของงานภาพที่ถือเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของอัลบั้มชุดนี้ กับผลการงานบันทึกภาพในโทนนัวร์ๆ ที่ถ่ายทำ เล่นกับแสงเงา ตัดต่อ ออกมาได้อย่างสวยงาม มีสีสัน มีมิติ จับอารมณ์ทั้งอเดล นักดนตรี และแฟนเพลงได้ดีมาก ซึ่งใครที่ซื้ออัลบั้มนี้ไปขอแนะนำให้ไปดูดีวีดีกันด้วย

Live At The Royal Albert Hall เปิดตัวกันด้วยเสียงเปียโนอลังการ นำส่งเข้าสู่เพลง “Hometown Glory” จากอัลบั้ม 19 ก่อนจะตามมาด้วยเสียงอันทรงพลังของอเดลที่เรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนเพลงได้สนั่นลั่นฮอลล์ จากนั้นอเดลได้เดินเครื่องเดินหน้านำบทเพลงต่างๆมาถ่ายทอดร่ายมนต์สะกดคนฟัง โดยมีบทเพลงเด่นๆ ไล่เรียงกันไปตั้งแต่ต้นจนจบ ได้แก่

“Don't You Remember” บัลลาดช้าๆชวนฟัง แล้วตามต่ออารมณ์เหงาเศร้ากันด้วย “Turning Tables” เพลงนี้มีเปียโนที่เป็นพระเอกของภาคดนตรีเล่นยืนพื้นเป็นหลัก มีไลน์เครื่องสายแน่นๆเล่นคลอเคล้า

ส่วน “If It Hadn't Been For Love” เพลงเก่าของเดอะ สตีลไดรเวอร์ส ที่อเดลนำมาขับร้องใหม่เป็นพิเศษเฉพาะงานนี้ มาในอารมณ์คันทรีสนุกๆ มีเสียงแบนโจเด่นได้ใจ อเดลแม้จะร้องเพลงนี้ในแบบคันทรีแต่ก็ยังเจือไว้ด้วยน้ำเสียงเค้นเศร้าติดกลิ่นบลูส์อยู่ในที

“My Same” เป็นอีกหนึ่งเพลงสนุกในกลิ่นบลูส์แจ๊ซ “Take It All” เพลงนี้อเดลเปล่งพลังเสียงดวลเดี่ยวกับเปียโนตัวเดียวได้อย่างจับอารมณ์บาดลึกกินใจ ฟังแล้วชวนให้เคลิ้มเศร้าตาม

“Rumour Has It” เพลงสนุกๆสลับอารมณ์ มีคอรัสมาเปล่งเสียงชื่อเพลงร้องสอดประสาน ท้ายเพลงมีเสียงหัวเราะที่ฟังแล้วชวนให้ขำตามมาเรียกรอยยิ้มและอารมณ์ขันกัน

“Lovesong” เพลงช้ากลิ่นสมูธแจ๊ซ มีเสียงกีตาร์เล่นเด่นนำมา ตั้งแต่ท่อนกลางเรื่อยมามีไลน์เครื่องสายสวยๆเข้ามาเติมเต็ม อเดลร้องเพลงนี้แบบสบายไม่บีบเค้น แต่ยังเข้มได้อารมณ์อยู่ดี

ในช่วงท้ายของคอนเสิร์ตเป็นการจัดเต็มกับบทเพลงดังๆ นำโดย “Chasing Pavements” บทเพลงฮอตฮิตจากชุด 19 โทนของเพลงเป็นป็อบเพราะๆ เน้นพลังเสียงที่เธอสามารถสะกดคนฟังได้อยู่หมัด

จากนั้นต่ออารมณ์เพราะๆช้าๆกันด้วย “I Can't Make You Love Me” ของ บอนนี่ เรทท์ หนึ่งในสองบทเพลงของคนอื่นที่นำมาร้องใหม่ในงานนี้

ส่วน “Make You Feel My Love” เป็นเพลงเก่าของปู่ บ็อบ ดีแล่น ที่อเดลนำมาคัฟเวอร์ใหม่ไว้จนโด่งดังในอัลบั้ม 19 ซึ่งให้อารมณ์เศร้าเหงา แตกต่างไปต้นฉบับบ่นๆจากของปู่บ็อบอยู่พอตัว

จากนั้นปิดท้ายกันด้วย 2 เพลงดังแห่งยุค คือ “Someone Like You” เพลงนี้สามารถดึงอารมณ์ให้คนดูต่างร่วมร้องตามอย่างคึกคัก ในขณะที่ตัวอเดลเองก็แสดงความสุดยอดให้เห็นด้วยการร้องดวลเดี่ยวกับเปียโนด้วยน้ำเสียงบาดลึกไม่มีแกว่ง นอกจากนี้เธอยังแสดงให้เห็นถึงการร้องเพลงแบบเข้าถึงก้นบึ้งของอารมณ์จนต่อมน้ำตาแตก ร่ำไห้ออกมาหลังจบเพลง สะกดให้แฟนเพลงลุกขึ้นยืนปรบมือกันลั่นฮอลล์ หลายคนถึงกับกลั้นไม่อยู่ ต่อมน้ำตาแตกตามไปด้วย

แล้วมาถึงบทปิดท้ายกับ บทเพลงยอดเยี่ยมแห่งปีและบันทึกเสียงยอดเยี่ยมแห่งปี คือ “Rolling In The Deep” มาในจังหวะสนุก ที่นอกจากจะเพราะ เนี๊ยบ แล้วยังมีอารมณ์ร่วมจากคนดูที่ร่วมกันร้องสั่งลากันอย่างประทับใจ

สำหรับอัลบั้มบันทึกการแสดงคอนเสิร์ต Live At The Royal Albert Hall แม้บทเพลงส่วนใหญ่จะหนักไปทางจังหวะเนิบช้าถึงปานกลาง แต่ว่าเมื่อฟังแล้ว ดูแล้ว กลับไม่รู้สึกน่าเบื่อ หรือง่วงหาว ชวนงีบหลับแต่อย่างใด เพราะทีมงานสามารถไล่เรียงจัดลำดับเพลงได้เป็นอย่างดี ทำให้ฟังไหลรื่นในอารมณ์ มีการเพลงนำเพลงเร็ว เพลงสนุกๆ มาเล่นสลับอารมณ์

ส่วนอีกสิ่งหนึ่งที่ถือเป็นตัวสร้างอารมณ์เพลงให้ชวนฟังมากๆ ก็คือทีมวงดนตรีแบ็คอัพที่มีการสับเปลี่ยนหมุนเวียนเข้ากันออกมาเล่นตามสไตล์ของเพลง ไม่ว่าจะเป็น ทีมแบ็คอัพหลัก 5 คน(+คอรัส) หรือทีมวงใหญ่ที่มาแบบจัดเต็มมีทั้งทีมเครื่องสาย เครื่องเป่า หรือจะมาเดี่ยวกับเปียโนตัวเดียวโดดๆ ดวลกันตัวต่อตัวกับเสียงร้องอันสุดยอดของอเดล

อย่างไรก็ตามแม้ในภาคดนตรีที่ได้ทีมวงดนตรีฝีมือดี เล่นแน่นปึ๊ก ซาวนด์เนี้ยบเนียน ซึ่งสามารถเล่นออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม กลมกลืนสอดรับ สามารถขับส่งเสียงร้องของอเดลให้ออกมาได้อย่างโดดเด่นชวนฟัง แต่ทางทีมงานกลับนำเสนอออกมาอย่างเรียบง่าย เน้นเสียงร้องและฝีมือทางดนตรีเพียวๆ ไม่มุ่งเน้นสีสันแสงสีความโอ่โถงอลังการ อย่างที่นักร้องร่วมสมัยหลายๆคนยุคนี้นิยมทำกัน

ขณะที่สิ่งที่สำคัญที่สุดในอัลบั้มบันทึกการแสดงคอนเสิร์ตครั้งนี้ก็คือตัวของอเดลเอง ซึ่งงานนี้เป็นบทพิสูจน์ชัดว่าเธอ “เอาอยู่” ทั้งจากลีลาการร้องเพลง การถ่ายทอดพลังเสียงร้องอันสุดยอด และทั้งจากลีลาการพูดคุย ที่ไม่น่าเชื่อว่าอเดลเธอจะเป็นเอนเตอร์เทนเมนต์ที่เก่งทีเดียว สามารถเล่าเรื่องพูดคุยได้อย่างสนุกสนาน เปี่ยมไปด้วยอารมณ์ขัน

โดยเฉพาะยามที่เธอหัวเราะนั้น มันแสดงให้เห็นถึงความจริงใจแบบไม่มีกั๊ก ไม่ห่วงสวย ชนิดที่ตุ๊กกี้ก็ตุ๊กกี้เหอะ ถ้ามาเจอเสียงหัวเราะของอเดลยังต้องชิดซ้าย
*****************************************

แกะกล่อง

ศิลปิน : โอ๋ ชุติมา
อัลบั้ม : นิทานความรัก

“โอ๋ : ชุติมา แก้วเนียม” นักร้องสาวคุณภาพเสียงหวานคมผสมความสดใส ที่มีน้ำเสียงเป็นตัวของตัวเอง ร้องเพลงด้วยเสียงธรรมชาติ ฟังต่างไปจากเสียงร้องร่วมสมัยที่มักจะร้องเพลงกันในแบบพิมพ์นิยม ที่หลายๆคนเน้นการดัดเสียง ดัดสำเนียง(ไทยเป็นฝรั่ง) และดัดจริตมากไปจนเกินงาม

อัลบั้ม“นิทานความรัก” มีทั้งหมด 13 เพลง แต่งขึ้นจากคำบอกเล่าของโอ๋โดย “บรรณ สุวรรณโณชิน” หรือ “บรรณ ใบชา” ที่มารับเหมาเป็นทั้งคนแต่งเนื้อร้อง ทำนอง โปรดิวเซอร์ ดูแลการผลิต รวมถึงร่วมร้องด้วย 1 เพลง

สำหรับบทเพลงเด่นๆชวนฟังในอัลบั้มนี้ก็มี “รักเอยอยู่ที่ไหน” เป็นสมู้ทแจ๊ซหวานนุ่ม โอ๋ร้องถ่ายทอดได้อย่างหวานและเย็นในอารมณ์

“ของดี” เป็นสวิงสนุกๆ เสียงแซ็กโซโฟนโดดเด่น เนื้อหาสนุกว่าด้วยสาวไร้คู่ใกล้ขึ้นคานที่ยังคงมองโลกในแง่ดี ว่าจะต้องพบ“เธอ”(ใครคนที่ใช่)เข้าในสักวันหนึ่ง

“สองดวงใจ” เพลงนี้มีเท่ห์ อุเทน พรหมมินทร์ มาร่วมร้องคู่ ให้อารมณ์ลูกกรุงหวานละมุนละไม

“ไม่อยากมาทะเล” อารมณ์เศร้าเหงากับเนื้อหาสวนกระแส เพราะส่วนใหญ่ผู้หญิงในกระแสยุคนี้ยามเหงา เศร้า นิยมไปทะเล แต่นี่เธอกลับไม่อยากมาเที่ยวทะเลเพราะมาแล้วคิดถึงเธอ เพลงนี้บรรณเขียนได้โดนใจสาวขี้เหงาได้ดีทีเดียว

ส่วน“จากกันด้วยดี” มีเสียงกีตาร์ใสปิ๊งไลน์สวยๆจากชีพชนก ศรียามาตย์มาช่วยสร้างสีสันเสียงหวานๆ

“เธอ” บทเพลงร้องคู่กับบรรณในกลิ่นอารมณ์ย้อนยุค ละเมียด “งานประจำ”บทเพลงสนุกๆซิงเกิ้ลแรกของเธอที่ปล่อยออกมาในอารมณ์ทะเล(ที่อยากมา) มีอูคูเลเล่มาร่วมเล่นเพื่อเติมความอินเทรนด์

“รักเธอเท่าเขา” บทเพลงความรักสนุกๆที่นำไปเปรียบกับความรักษ์โลกได้อย่างชวนฟัง
บทเพลง ภาษาดี ไม่เวอร์ ไม่คร่ำครวญ

และนั่นคือบทเพลงเด่นๆจาก “นิทานความรัก” อัลบั้มที่มาในแนวดนตรีหลากหลาย ทั้งอารมณ์ทะเล,บอสซาโนวา,แจ๊ซ,ลูกกรุง และเพลงในสไตล์จีนๆ ซึ่งโอ๋สามารถร้องถ่ายทอดออกมาได้เป็นอย่างดี เข้าถึงอารมณ์

ขณะที่ภาคดนตรี แม้เน้นความเรียบง่ายในซุ่มเสียงอะคูสติก แต่ฟังลึกมีมิติ มีสีสัน ทำให้งานเพลงชุดนี้ที่โทนโดยรวมแม้จะออกมาในแนวหวานซึ้งปนเศร้า แต่เป็นความหวานที่ไม่เลี่ยน ฟังอบอุ่น สบายหู

นับเป็นอีกหนึ่งในผลงานเพลงชวนฟังของค่าย“ใบชาsong” ที่แม้จะเล็ก แต่แน่นในคุณภาพ
กำลังโหลดความคิดเห็น