งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา...
หลังออกอากาศมานานหลายปี ก็ได้เวลาที่จะลาจอเป็นที่แน่นอนแล้วสำหรับซิทคอมชื่อดังของค่ายเอ็กแซ็กท์ "บางรักซอยเก้า" โดยถือเอาฤกษ์ดีวันเสาร์ที่ 28 เมษายน 255 นี้ออกอากาศเทปสุดท้าย
หากนับวันออกอากาศครั้งแรกเมื่อ 5 เมษายน พ.ศ.2546 จนถึงวันสุดท้ายวันเสาร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2555 นี้ บางรักซอยเก้า ก็จะมีอายุครบ 9 ปีพอดี โดยจะเฉือนเอาชนะซิทคอมจากค่ายเดียวกันอย่าง "สามหนุ่ม สามมุม" ที่มีระยะเวลาในการออกอากาศนาน 8 ปี และเป็นรองก็แต่เพียง "ระเบิดเถิดเทิง" ของค่ายเวิร์คพอยท์ฯ ซึ่งออกอากาศมาตั้งแต่ปี 2539 และปัจจุบันยังคงออกอากาศอยู่ในชื่อ "ระเบิดเถิดเทิงลั่นทุ่ง" เท่านั้น
9 ปีต้องถือว่าไม่ใช่เวลาที่น้อยๆ ทีเดียวสำหรับซิทคอมเรื่องหนึ่ง และนั่นเองที่ทำให้ในงานแถลงข่าวอำลาซิทคอมเรื่องนี้เหล่าบรรดานักแสดงหลายต่อหลายคนต่างพากันอดที่จะรู้สึก "ใจหาย" ไม่ได้
ผมเองอย่างที่เคยเขียนเรียนไปแล้วว่าแม้จะไม่ถึงขนาดเป็นแฟนพันธุ์แท้ของบางรักซอยเก้า แต่ก็ถือว่าติดตามมาอย่างต่อเนื่องโดยตลอด เคยได้สนุกกับตัวละคร(ที่หายไปนานแล้ว) ทั้ง "เหมียว" (สุวัจนี ไชยมุสิก) เจ้าของประโยค "ว้าย...โง่นิ", "เดือน" (สะแกวัลย์ ยงใจยุทธ) เพื่อนแป้งที่ปัจจุบันแต่งงานไปกับชาวเขา , "ชายเหวง" (เกริก ชิลเลอร์) รวมถึงได้เห็นตัวละครอย่าง "ก๊วยเจ๋ง" (ภาสกร ฉิมเจริญ) มาตั้งแต่เด็กๆ กระทั่งวันนี้เติบโตกลายเป็นหนุ่มน้อยรูปหล่อไปแล้วก็อดที่จะเสียดายซิทคอมที่ต้องบอกว่าดูกันได้อย่างไม่มีพิษมีภัยทั้งเด็กและผู้ใหญ่เรื่องนี้ไม่ได้เช่นกัน
แต่ทั้งนี้ก็ต้องบอกว่ามีหลายปัจจัยที่ต้องบอกว่าสมควรแก่เวลาแล้วครับที่ซิทคอมเรื่องนี้จะได้เวลาจากไปเสียที
เพราะถ้าหากพิจารณากัน บางรักซอยเก้านั้นโดยแกนหลักของเรื่องอยู่ที่พัฒนาการความสัมพันและความผูกพันธ์ของตัวละครคู่พระคู่นางสถาปนิกหนุ่มกับลูกสาวเจ้าของบ้านเช่าอย่าง "ชัดเจน" กับ "คุณแป้ง" (แท่ง ศักดิ์สิทธิ์ - อ้อม พิยดา) ซึ่งช่วงระยะเวลาดังกล่าวถ้าเป็นชีวิตคนเราจริงๆ การที่คนสองคนจีบกัน เป็นแฟนกัน ผ่านอุปสรรคอะไรต่างๆ นานามาด้วยกัน ก่อนจะจบลงด้วยการเดินเข้าสู่ประตูวิวาห์นั้นมันน่าจะเป็นอะไรที่แฮปปี้เอนดิ้งและชวนประทับใจสุดๆ ไปแล้ว
กระนั้นการยืดเรื่องหลังชีวิตการแต่งงานออกมาเพื่อให้สิ้นสุดลงเอยด้วยการมีทายาทเพราะอยากจะให้เรื่องจบลงในปีที่ 9 จะได้เข้ากับชื่อเรื่องนั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่ถือว่าเสียหายหรือควรตำหนิอะไรมากมายอะไรนะครับ ตรงกันข้ามบางอย่างก็น่าชื่นชมเสียด้วยซ้ำ อย่างเช่นการเอาตัวละครจากซิทคอม "บ้านนี้มีรัก" เข้ามาแสดงร่วมกันและเป็นจุดที่ทำให้เรื่องยืดออกมาได้อีกนานเลยเพราะเป็นต้นเหตุทำให้พระเอกของเราเกิดอุบัติเหตุความจำเสื่อม ซึ่งบางคนอาจจะมองว่าตรงนี้เป็นเพราะทีมผู้จัด "หมดมุก" แต่ผมกลับมองว่าเป็น "กำไร" ของคนดูมากกว่า
อย่างไรก็ตาม ก็คงจะต้องยอมรับกันจริงๆ ครับว่าปีหลังๆ มานี้ซิทคอมบางรักซอยเก้านั้นส่วนใหญ่จะดูไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่จริงๆ
ส่วนหนึ่งก็อย่างที่บอกไปแล้วคือเรื่องที่ถูกยืดออกมาจากเดิมที่มีการวางโครงเอาไว้ สองก็คือปัญหาเดิมๆ จากเรื่องของโฆษณาที่ถูกแฝงเข้ามา ที่หลังๆ ไม่แฝงกันแล้วแต่เผยให้เห็นกันโต้งๆ ซ้ำร้ายถึงขนาดเล่นเปิดท้ายขายของกันเอากันในตอนสุดท้ายในการออกอากาศของแต่ละวันเสาร์กันอีกต่างหาก
และอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้บางรักซอยเก้ากร่อยลงไปอย่างเห็นได้ชัดโดยส่วนตัวผมมองว่าเป็นเพราะการขาดหายไปของตัวละครอย่าง "อาตุ๊" ที่แสดงโดยคุณ "ศรีหนุ่ม เชิญยิ้ม" นั่นเอง
หากจะนับเอาตลกที่เล่นตลกได้อย่างเป็นธรรมชาติ และหัวไวมากที่สุดของบ้านเรา ที่เล่นได้ทั้งฮาทั้งซึ้ง ผมว่าหนึ่งในนั้นจะต้องมีคุณศรีหนุ่มคนนี้รวมอยู่ด้วยอย่างไม่ต้องสงสัย
การหายไปของคุณศรีหนุ่มนับตั้งแต่นับตั้งแต่ที่ตลกชื่อดังล้มป่วยด้วยอาการเส้นเลือดในสมองแตกตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายนปี พ.ศ. 2551 ขณะที่ในละครก็หาทางออกอย่างให้เกียรตินักแสดงและด้วยความหวังว่าเจ้าตัวจะกลับมาคืนจอโดยให้อาตุ๊ไปใช้ชีวิตตามความฝันยังประเทศอังกฤษนี้นอกจากจะทำให้สีสันและความตลกโปกฮาของบางรักซอยเก้าลดลงไปอย่างเห็นได้ชัดแล้ว มันยังทำให้เนื้อหาของเรื่องที่ต้องดำเนินไปดูไม่เนียนเอาเสียเลยเนื่องเพราะบทบาทของอาตุ๊นั้นถือได้ว่ามีความสำคัญมากๆ ในฐานะพ่อของนางเอกนั่นเอง
กรณีนี้ผมว่าทางทีมผู้สร้างเองก็คงจะมองเห็นจุดโหว่จากการขาดหายไปของอาตุ๊พอสมควรแหละครับ และก็คงจะพยายามที่จะเติมเต็มช่องที่ว่า หนึ่งในนั้นก็คือการเข้ามาแบบไม่เนียนไม่ค่อยจะมีปี่มีขลุ่ยสักเท่าไหร่นักของตัวละคร "ยี้" โดยคุณ "เป็ด เชิญยิ้ม" ในฐานะน้องชายจอมกวนของ "น้าเยาว์" (พิมแข กุญชร ณ อยุธยา) ภรรยาอาตุ๊ในช่วงราวๆ เดือนเมษายนของปี 2554
แต่แทนที่จะทดแทนหรืออุดช่องโหว่ ผมกลับมองว่ามันยิ่งเป็นการเพิ่มช่องโหว่ให้มากยิ่งขึ้นไปอีกต่างหาก ทั้งความไม่สมจริงสมจัง เพราะตัวละครตัวนี้ถ้าผมจำไม่ผิดในเรื่องไม่เคยถูกพูดถึงมาก่อนเลย ประการที่สองที่สำคัญก็คือคาแรกเตอร์ของตัว ยี้ นั้นต้องบอกว่าดูแล้วมันไร้สาระ สุดแสนจะน่าจะรำคาญ และไม่มีความเป็นผู้เป็นคนเอาเสียเลย
คือถ้ายังคงดันให้ ยี้ กับท่าทางติ๊งต๊องประกอบกับกับเสียงแหลมๆ กวนประสาทเป็นตัวหลักต่อไปก็ไม่รู้เหมือนกันนะครับว่าเรื่องราวมันจะเละเทะไปถึงไหน?
เพราะฉะนั้นการจบลงด้วยการให้ ชัดเจน กับ แป้ง มีทายาทด้วยกัน ขณะที่ตัวของนักแสดงอย่างคุณอ้อม พิยดาเองก็กำลังมีทายาทในท้องจริงๆ ผมเชื่อว่าเป็นอะไรที่เหมาะสมและน่าจะทำให้แฟนๆ ของ "บางรักซอยเก้า" มีอารมณ์ร่วมต่อการอำลาจอของซิทคอมเรื่องนี้ด้วยความประทับใจอย่างแน่นอน
หลังออกอากาศมานานหลายปี ก็ได้เวลาที่จะลาจอเป็นที่แน่นอนแล้วสำหรับซิทคอมชื่อดังของค่ายเอ็กแซ็กท์ "บางรักซอยเก้า" โดยถือเอาฤกษ์ดีวันเสาร์ที่ 28 เมษายน 255 นี้ออกอากาศเทปสุดท้าย
หากนับวันออกอากาศครั้งแรกเมื่อ 5 เมษายน พ.ศ.2546 จนถึงวันสุดท้ายวันเสาร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2555 นี้ บางรักซอยเก้า ก็จะมีอายุครบ 9 ปีพอดี โดยจะเฉือนเอาชนะซิทคอมจากค่ายเดียวกันอย่าง "สามหนุ่ม สามมุม" ที่มีระยะเวลาในการออกอากาศนาน 8 ปี และเป็นรองก็แต่เพียง "ระเบิดเถิดเทิง" ของค่ายเวิร์คพอยท์ฯ ซึ่งออกอากาศมาตั้งแต่ปี 2539 และปัจจุบันยังคงออกอากาศอยู่ในชื่อ "ระเบิดเถิดเทิงลั่นทุ่ง" เท่านั้น
9 ปีต้องถือว่าไม่ใช่เวลาที่น้อยๆ ทีเดียวสำหรับซิทคอมเรื่องหนึ่ง และนั่นเองที่ทำให้ในงานแถลงข่าวอำลาซิทคอมเรื่องนี้เหล่าบรรดานักแสดงหลายต่อหลายคนต่างพากันอดที่จะรู้สึก "ใจหาย" ไม่ได้
ผมเองอย่างที่เคยเขียนเรียนไปแล้วว่าแม้จะไม่ถึงขนาดเป็นแฟนพันธุ์แท้ของบางรักซอยเก้า แต่ก็ถือว่าติดตามมาอย่างต่อเนื่องโดยตลอด เคยได้สนุกกับตัวละคร(ที่หายไปนานแล้ว) ทั้ง "เหมียว" (สุวัจนี ไชยมุสิก) เจ้าของประโยค "ว้าย...โง่นิ", "เดือน" (สะแกวัลย์ ยงใจยุทธ) เพื่อนแป้งที่ปัจจุบันแต่งงานไปกับชาวเขา , "ชายเหวง" (เกริก ชิลเลอร์) รวมถึงได้เห็นตัวละครอย่าง "ก๊วยเจ๋ง" (ภาสกร ฉิมเจริญ) มาตั้งแต่เด็กๆ กระทั่งวันนี้เติบโตกลายเป็นหนุ่มน้อยรูปหล่อไปแล้วก็อดที่จะเสียดายซิทคอมที่ต้องบอกว่าดูกันได้อย่างไม่มีพิษมีภัยทั้งเด็กและผู้ใหญ่เรื่องนี้ไม่ได้เช่นกัน
แต่ทั้งนี้ก็ต้องบอกว่ามีหลายปัจจัยที่ต้องบอกว่าสมควรแก่เวลาแล้วครับที่ซิทคอมเรื่องนี้จะได้เวลาจากไปเสียที
เพราะถ้าหากพิจารณากัน บางรักซอยเก้านั้นโดยแกนหลักของเรื่องอยู่ที่พัฒนาการความสัมพันและความผูกพันธ์ของตัวละครคู่พระคู่นางสถาปนิกหนุ่มกับลูกสาวเจ้าของบ้านเช่าอย่าง "ชัดเจน" กับ "คุณแป้ง" (แท่ง ศักดิ์สิทธิ์ - อ้อม พิยดา) ซึ่งช่วงระยะเวลาดังกล่าวถ้าเป็นชีวิตคนเราจริงๆ การที่คนสองคนจีบกัน เป็นแฟนกัน ผ่านอุปสรรคอะไรต่างๆ นานามาด้วยกัน ก่อนจะจบลงด้วยการเดินเข้าสู่ประตูวิวาห์นั้นมันน่าจะเป็นอะไรที่แฮปปี้เอนดิ้งและชวนประทับใจสุดๆ ไปแล้ว
กระนั้นการยืดเรื่องหลังชีวิตการแต่งงานออกมาเพื่อให้สิ้นสุดลงเอยด้วยการมีทายาทเพราะอยากจะให้เรื่องจบลงในปีที่ 9 จะได้เข้ากับชื่อเรื่องนั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่ถือว่าเสียหายหรือควรตำหนิอะไรมากมายอะไรนะครับ ตรงกันข้ามบางอย่างก็น่าชื่นชมเสียด้วยซ้ำ อย่างเช่นการเอาตัวละครจากซิทคอม "บ้านนี้มีรัก" เข้ามาแสดงร่วมกันและเป็นจุดที่ทำให้เรื่องยืดออกมาได้อีกนานเลยเพราะเป็นต้นเหตุทำให้พระเอกของเราเกิดอุบัติเหตุความจำเสื่อม ซึ่งบางคนอาจจะมองว่าตรงนี้เป็นเพราะทีมผู้จัด "หมดมุก" แต่ผมกลับมองว่าเป็น "กำไร" ของคนดูมากกว่า
อย่างไรก็ตาม ก็คงจะต้องยอมรับกันจริงๆ ครับว่าปีหลังๆ มานี้ซิทคอมบางรักซอยเก้านั้นส่วนใหญ่จะดูไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่จริงๆ
ส่วนหนึ่งก็อย่างที่บอกไปแล้วคือเรื่องที่ถูกยืดออกมาจากเดิมที่มีการวางโครงเอาไว้ สองก็คือปัญหาเดิมๆ จากเรื่องของโฆษณาที่ถูกแฝงเข้ามา ที่หลังๆ ไม่แฝงกันแล้วแต่เผยให้เห็นกันโต้งๆ ซ้ำร้ายถึงขนาดเล่นเปิดท้ายขายของกันเอากันในตอนสุดท้ายในการออกอากาศของแต่ละวันเสาร์กันอีกต่างหาก
และอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้บางรักซอยเก้ากร่อยลงไปอย่างเห็นได้ชัดโดยส่วนตัวผมมองว่าเป็นเพราะการขาดหายไปของตัวละครอย่าง "อาตุ๊" ที่แสดงโดยคุณ "ศรีหนุ่ม เชิญยิ้ม" นั่นเอง
หากจะนับเอาตลกที่เล่นตลกได้อย่างเป็นธรรมชาติ และหัวไวมากที่สุดของบ้านเรา ที่เล่นได้ทั้งฮาทั้งซึ้ง ผมว่าหนึ่งในนั้นจะต้องมีคุณศรีหนุ่มคนนี้รวมอยู่ด้วยอย่างไม่ต้องสงสัย
การหายไปของคุณศรีหนุ่มนับตั้งแต่นับตั้งแต่ที่ตลกชื่อดังล้มป่วยด้วยอาการเส้นเลือดในสมองแตกตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายนปี พ.ศ. 2551 ขณะที่ในละครก็หาทางออกอย่างให้เกียรตินักแสดงและด้วยความหวังว่าเจ้าตัวจะกลับมาคืนจอโดยให้อาตุ๊ไปใช้ชีวิตตามความฝันยังประเทศอังกฤษนี้นอกจากจะทำให้สีสันและความตลกโปกฮาของบางรักซอยเก้าลดลงไปอย่างเห็นได้ชัดแล้ว มันยังทำให้เนื้อหาของเรื่องที่ต้องดำเนินไปดูไม่เนียนเอาเสียเลยเนื่องเพราะบทบาทของอาตุ๊นั้นถือได้ว่ามีความสำคัญมากๆ ในฐานะพ่อของนางเอกนั่นเอง
กรณีนี้ผมว่าทางทีมผู้สร้างเองก็คงจะมองเห็นจุดโหว่จากการขาดหายไปของอาตุ๊พอสมควรแหละครับ และก็คงจะพยายามที่จะเติมเต็มช่องที่ว่า หนึ่งในนั้นก็คือการเข้ามาแบบไม่เนียนไม่ค่อยจะมีปี่มีขลุ่ยสักเท่าไหร่นักของตัวละคร "ยี้" โดยคุณ "เป็ด เชิญยิ้ม" ในฐานะน้องชายจอมกวนของ "น้าเยาว์" (พิมแข กุญชร ณ อยุธยา) ภรรยาอาตุ๊ในช่วงราวๆ เดือนเมษายนของปี 2554
แต่แทนที่จะทดแทนหรืออุดช่องโหว่ ผมกลับมองว่ามันยิ่งเป็นการเพิ่มช่องโหว่ให้มากยิ่งขึ้นไปอีกต่างหาก ทั้งความไม่สมจริงสมจัง เพราะตัวละครตัวนี้ถ้าผมจำไม่ผิดในเรื่องไม่เคยถูกพูดถึงมาก่อนเลย ประการที่สองที่สำคัญก็คือคาแรกเตอร์ของตัว ยี้ นั้นต้องบอกว่าดูแล้วมันไร้สาระ สุดแสนจะน่าจะรำคาญ และไม่มีความเป็นผู้เป็นคนเอาเสียเลย
คือถ้ายังคงดันให้ ยี้ กับท่าทางติ๊งต๊องประกอบกับกับเสียงแหลมๆ กวนประสาทเป็นตัวหลักต่อไปก็ไม่รู้เหมือนกันนะครับว่าเรื่องราวมันจะเละเทะไปถึงไหน?
เพราะฉะนั้นการจบลงด้วยการให้ ชัดเจน กับ แป้ง มีทายาทด้วยกัน ขณะที่ตัวของนักแสดงอย่างคุณอ้อม พิยดาเองก็กำลังมีทายาทในท้องจริงๆ ผมเชื่อว่าเป็นอะไรที่เหมาะสมและน่าจะทำให้แฟนๆ ของ "บางรักซอยเก้า" มีอารมณ์ร่วมต่อการอำลาจอของซิทคอมเรื่องนี้ด้วยความประทับใจอย่างแน่นอน