ยุคนี้หากใครไม่รู้จัก “อินสตาแกรม” (Instagram) แอพพลิเคชั่นสุดฮิตซึ่งกำลังเป็นกระแสมาแรงในกลุ่มดารา เหล่าเซเลบริตี้ ที่นิยมอัพโหลดรูปตัวเองแชร์ผ่านอินสตาแกรม เรียกเรตติ้งให้ผู้คนมา “ฟอลโลว์” (Follow)ดูความเคลื่อนไหวแล้วละก็ขอบอกให้รีบทำความรู้จักก่อนจะถูกว่าเชยได้
ความพิเศษของ Instagram นอกจากได้รับรู้ความเคลื่อนไหวของทุกเรื่องราวบนโลกกลมใบนี้แล้ว หากรู้จักใช้ให้เป็นประโยชนมันยังสามารถหาเงินเข้ากระเป๋าได้อีกด้วย เฉกเช่นกราฟิกดีไซน์เนอร์หนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรง กันต์ รตนาภรณ์ ที่ Instagram ทำให้เขามีแบรนด์สินค้าเป็นของตัวเองและยังสร้างชื่อจนได้รับการยอมรับจากชาวต่างชาติอีกด้วย
หลายคนอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตาหนุ่มหน้าใสคนนี้เพราะเขาเป็นเซ็นเตอร์ให้สินค้าดังหลายยี่ห้อ อาทิ แบรนด์, canon, Nokia, Big C, แบงค์กรุงศรี, TOT นอกจากนี้ยังเป็นดาราละครดังหลายเรื่อง อย่าง บางรักซอย 9, บ้านนี้มีรัก ล่าสุดได้ร่วมเล่นละครดัง “รักเกิดที่ตลาดสด”
แต่ตอนนี้กันต์กำลังจะผันตัวเองมาทำแบรนด์สินค้าในชื่อ YOLO ซึ่งเป็นซึ่งเป็นเคสไอโฟนที่ทำจากเครื่องหนังที่เขาดีไซน์ลวดลายขึ้นเอง “กันต์” เล่าถึงจุดเริ่มต้นการเปิดแบรนด์ ของตัวเองว่า หลังจบจากอเมริกาเขาทำงานด้านอินทีเรียดีไซน์ให้กับโรงแรมต่างๆ การตกแต่งภายในส่วนใหญ่จะใช้หนังเป็นวัตถุดิบ และเขารู้ดีว่าหนังที่อยู่ในมือสามารถต่อยอดทำธุรกิจอย่างอื่นได้ จึงบ่มความคิดและมาลงตัวที่เคสไอโฟนเป็นอันดับแรก
“ผมใช้ไอโฟนเคสของคนอื่นมานาน ก็นึกอยากมีแบบที่เป็นของตัวเอง และเราก็ชอบหนังด้วยเลยคิดว่าจะทำยังไงให้มันแตกต่าง งานที่เป็นหนังแท้จะเป็นอะไรที่ดูแลยาก ลวดลายก็หายที่มีพอดียากมาก ผมมีหนังเหลือใช้ก็เลยเขียนออกแบบลายที่เรารู้สึกว่าชอบ แล้วสั่งทำ ไว้ใช้เอง 5 อัน แต่อีก 4 อัน ก็อยากลองดูว่าคนชอบไม๊ เลยถ่ายรูปลงอินสตาร์แกรมปรากฏว่า ภายในวันเดียวมีคนสั่งเข้ามา 20 กว่าอัน ”
เพียงแค่เริ่มก้าวเดินสู่เส้นทางธุรกิจของตัวเองก็ดูจะไปได้สวยเสียแล้ว กันต์วิเคราะห์ว่า “ผมมองว่าสินค้าที่เราทำอาจจะแตกต่างกับงานตลาดที่มีอยู่ในตอนนี้ ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าที่ฟอลโลว์ผม เห็นบางคนอยู่เชียงใหม่ อยู่เชียงราย จะโอนเงินมาให้ก่อนแต่ของเราหมดแล้ว เขาก็บอกอยากได้เลยตัดสินใจทำขายเปิดแบรนด์ตัวเองชื่อ YOLO ”
ที่มาของชื่อ YOLO มาจากอักษรหน้าของประโยคที่ว่า You Only Live Once หมายถึง คนเกิดชีวิตเดียวก็ต้องมีชีวิตที่เป็นตัวของตัวเอง ตั้งเป้าหมายผลิตสินค้าที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวัน เจาะกลุ่มเป้าหมายสำหรับคนที่ชอบงานดีไซน์ ดังนั้นสินค้าของกันต์จะออกเป็นแนวไลฟ์สไตล์ ที่จำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวัน แต่งาน YOLO จะต้องดูดีมีไลฟ์สไตล์ แตกต่างจากคนทั่วไปมากขึ้น
เมื่อถามถึงเรื่องการทำตลาด กันต์บอกว่า จะยังคงเลือกใช้ Instagram เพราะนอกจากสะดวก คือ ไม่ว่าจะเดินไปที่ไหนๆ ทั่วทุกมุมโลก ก็สามารถถ่ายรูปพร้อมแชร์ให้เพื่อนที่ติดตามคุณสามารถเห็นภาพถ่ายและยังคอมเมนต์ภาพของเขาได้อีกด้วยคือ ที่สำคัญคือยังใช้แชร์ภาพไปยัง Twitter, Facebook ได้อีกด้วย โดยเขาเชื่อว่าโลกออนไลน์ถ้าใช้เป็นมันไม่ได้น่ากลัว หรือไร้สาระเลย ทุกแอพพลิเคชั่นจะมีข้อดีแตกต่างกัน
แต่ความสำเร็จของกันต์ ยังเดินมาทักทายเขาไม่หยุดยั้ง แต่คาาวนี้ YOLO เดินทางไกลข้ามทวีปไปถึงอีกฝั่งหนึ่งของซีกโลกทีเดียว
“หลังออกคอลเลคชั่นแรกไป ก็มีคนต่างชาติเข้ามาด้วย หนึ่งในนั้นเป็นคนที่คัดเลือกสินค้าไปวางในห้าง Urban Outfitters ของอเมริกาเขา “ฟอลโลว์”มาเห็น ก็ติดต่อให้เราส่งตัวอย่างงานไปให้ดูก็ปรากฏว่าโอเค นาทีแรกที่เห็นคำตอบกลับมาดีใจมาก ..เฮ้ยงานเราถูกใจต่างชาติด้วยมันมีความสุขเพราะเป็นห้างที่ขายงานดีไซน์และเป็นห้างเท่ๆที่วัยรุ่นที่นั่นให้นิยม”
สำหรับห้าง Urban Outfitters เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 1970 นั้น ปัจจุบันมี 140 สาขาทั่วโลก ทั้ง อเมริกา แคนาดา ไอร์แลนด์ เดนมาร์ค สวีเดน และอังกฤษ “ตอนนี้ผมเสนองานไปอเมริกาเพิ่มอีก 2 แห่ง ที่ Urban Outfitters ถ้าเซ็นสัญญา ก็นำสินค้าไปวางขายได้เลย ที่เสนอไปใหม่คิดว่าไม่มีปัญหาเพราะเรื่องหนังของเราเป็นหนังเทียมที่พิมพ์ลาย คือพอออกแบบลายเสร็จแล้วก็สแกนลงคอมพิวเตอร์จัดเรียงตามสไตล์แล้วนำมาปั้มลายลงบนหนังเทียมตอนลงสีก็ไล่เรียงให้มีมิติ ส่งเข้าโรงงานอัดกรอบ”
ส่วนอนาคตของ YOLO นั้น กันต์บอกว่า หลังทำ เคสไอโฟน เสร็จแล้ว เขาเตรียมแตกยอดสินค้าออกไปอีกเรื่อยๆ โดยสินค้าชิ้นต่อไปของเขาจะเป็นแว่นตากันแดด เพราะเป็นของสิ่งหนึ่งที่กันต์เองก็ใช้เป็นประจำ ความพิเศษของแว่นตา เขาคือจะออกแบบเรียบง่ายสไตล์เรย์แบน จะใช้วัตถุดิบให้น้อยชิ้นที่สุด
“หากเราเน้นพัฒนาสินค้าให้ดีขึ้นเรื่อยๆ สร้างความแตกต่างและทำให้ดีขึ้น หรืออย่างน้อยแค่รักษามาตรฐานให้คงที่ ให้คนมั่นใจก็ไปได้แล้ว เพราะด้วยตัวเทคโนโลยีมันก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ กลุ่มคนก็จะหลากหลายมากขึ้น ผมอยากสร้างอะไรที่มันสามารถใช้จริงได้ในชีวิต มีดีเทลในนั้น ผมว่าคนเราถ้าไม่หยุดนิ่งมันสามารถทำอะไรเพื่อตัวเองได้มากมาย”
นี่คืออีกก้าวของชีวิตที่ไม่เคยหยุดนิ่งกับการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีอย่างต่อเนื่อง ชีวิตที่ออกแบบได้เองของกันต์ กำลังก้าวไปสู่มูลค่าเพิ่มในโลกธุกิจที่น่าจับตามอง กันต์ รตนาภรณ์ ไม่ใช่แค่นักออกแบบมือรางวัล แต่เขายังเป็นนักออกแบบชีวิตที่ชัดเจนกับเป้าหมาย นี่แหละคือคนรุ่นใหม่ที่สังคมไทยต้องการ
