หนัง “ขุนศึกตระกูลหญิงหยาง” ฉบับล่าสุด เพิ่งจะเข้าฉายในฮ่องกงไปเมื่อปลายปีก่อน ผลตอบรับเรียกว่าแย่ในทุกด้านครับ ทำเงินได้ไม่ค่อยสูง, นักวิจารณ์ก่นด่า ถึงมีชื่อของ "เฉินหลง" มาการันตีก็เหมือนว่าจะช่วยอะไรไม่ค่อยได้ ... เรียกเป็นหายนะจนจอภาพยนตร์ก็คงพอจะพูดได้
Legendary Amazons คือหนังขุนศึกตระกูลหญิงหยางเรื่องล่าสุดจากฮ่องกง เป็นฝีมือการกำกับของ เฉินเฟินฉี ดารา/นักร้อง/ผู้กำกับ ที่วนเวียนอยู่ในวงการบันเทิงฮ่องกงร่วม 40 ปีแล้ว พร้อมมีชื่อของยอดนักบู๊ เฉินหลง เป็นผู้อำนวยการสร้างด้วย แต่ไฮไลท์สำคัญทำให้ Legendary Amazons เป็นข่าวอยู่อย่างสม่ำเสมอก็เห็นจะเป็นดารานำอย่าง จางป๋อจือ ที่กลับมารับงานแสดงหลังพักไปนาน นอกจากนั้นหนังก็ยังเข้าฉายในช่วงที่ประเด็นการหย่าร้างแยกทางของเธอกับอดีตสามี เซียะถิงฟง กำลังเป็นเรื่องใหญ่เรื่องโตในวงการบันเทิงฮ่องกง ณ ขณะนั้นพอดีด้วย
แต่ก็ดูเหมือนว่าข่าวฉาวจะไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้เลย Legendary Amazons ล้มเหลวโดยสิ้นเชิงโดยเฉพาะในเชิงธุรกิจ หนังเปิดตัวในช่วงปลายปี 2011 อย่างอเนจอนาถทำเงินเป็นที่ 12 ประจำสัปดาห์กับรายได้ในช่วงสุดสัปดาห์เปิดตัวคิดเป็นเงินไทยแล้วประมาณ 8 แสนบาทเท่านั้น เรียกว่าเป็นการคืนจอเงินที่ "เสียฟอร์ม" แท้ ๆ จริงสำหรับ จางป๋อจือ
เรื่องราวใน ขุนศึกตระกูลหยาง นั้นมีจุดศูนย์กลางอยู่ที่ตระกูลนักรบผู้จงรักภักดีต่อราชวงศ์ซ้อง ต้องแต่ต้องถูกกลโกงของผู้ขายชาติ บีบบังคับให้สู้ศึกในสงครามที่ไม่เห็นทางชนะ จนแทบจะเสียชีวิตในสนามรบกับแบบสิ้นตระกูล ถึงแบบนั้นทางการก็ยังมีคำสั่งให้ หยางเหวินกว่าง ลูกชายของ หยางจงเป่า (เริ่นเสียนฉี) และหลานปู่ของ หยางลิ่วหลาง ทายาทคนสุดท้ายออกรบ เพื่อต้านทานผู้รุกรานจากทางฝั่งตะวันตก
แต่ด้วยความอ่อนด้อยประสบการณ์ ขาดความชำนาญในการรบ ทายาทคนสุดท้ายแห่งตระกูลจึงต้องอาศัยพึ่งพาเหล่าวีระสตรีแห่งหยางทั้ง เสอไท่จวิน และ มู่กุ้ยอิง (จางป๋อจือ) ผู้เป็นมารดา ในการต่อสู้ต้านศึกจากผู้รุกราน
การดำเนินเรื่องอันกระท่อนกระแท่น, การแสดงที่ขาดมิติ, บทภาพยนตร์ตื้นเขิน, ร่องรอยความไม่สมเหตุสมผลปรากฏอยู่แทบจะในทุกรายละเอียดของหนัง อาจจะพอพูดได้ว่า Legendary Amazons กลายเป็นตัวตลกแห่งวงการหนังจีนยุคใหม่ ที่ความ "อลังการงานสร้าง" คือจุดขายสำคัญก็ว่าได้ การใช้เทคนิคคอมพิวเตอร์ที่เห็นได้ชัดว่า "มาตรฐานต่ำ" มีแต่จะทำให้หนังดูย่ำแย่ลงเท่านั้น ส่วนชุดเกราะนักรบของตัวละครที่ดู "อลังการ" แบบเกินเหตุ ยิ่งทำให้ตัวละครในหนังเมื่อกับหยุดมาจากงานประเภท "คอสเพลย์" มากกว่าจะเป็นนักรบจีนในยุคโบราณ
ตัวผู้กำกับ เฉินเฟินฉี นั้นเติบโตขึ้นมาในยุค 80s ซึ่งเขาก็สร้าง Legendary Amazons ออกมาให้เหมือนราวกับเป็ฯหนังฮ่องกงที่ถ่ายทำกันในยุคนั้นกันเลยทีเดียว เป็นบทพิสูจน์ว่าความ “เชย” และ “คลาสสิก” มันไม่ใช่เรื่องเดียวกัน
หนังดำเนินเรื่องไปโดยมุ่งไปหาฉากสงครามใหญ่สุดท้ายอันเป็น "ไคลแม็กซ์" สำคัญของเรื่องราว เป็นฉากใหญ่ขมวดปมโศกนาฏกรรมของนักรบตระกูลหยาง ที่มีตัวละครตายกันเป็นเบือ เต็มไปได้ความตึงเครียด ก่อนจะคลี่คลายด้วยการต่อสู้เป็นครั้งสุดท้าย ... นั่นคือสิ่งที่ควรจะเป็น แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ฉากสงครามสุดท้ายของ Legendary Amazons นั้นออกมากระป๋องกระแป๋ง น่าเวทนา และไม่น่าเชื่อถือเอาเสียเลย
ดูเหมือนว่างานนี้นักแสดงจะเป็นคนที่รับเคราะห์ไป โดยเฉพาะนางเอกของเรื่องที่ "บารมี" เก่า ๆ ถูกทำลายไปไม่น้อยกับหนังเรื่องนี้
โดยพื้นฐานแล้วผมคิดว่า จางป๋อจือ เป็นนักแสดงที่ดีนะครับ ผลงานอย่าง Lost In Time หรือ Running On Karma คือตัวอย่างงานดี ๆ ของเธอ แต่ก็ใช่ว่าดาราหญิงคุณแม่ลูกสองคนนี้จะสามารถเนรมิตการแสดงเยี่ยม ๆ ออกมาได้อย่างไร้เงื่อนไข เธอเองก็ต้องการองค์ประกอบรอบตัวที่เอื้ออำนวยอยู่เหมือนกัน ถึงจะสามารถเปล่งประกายรัศมีความโดดเด่นออกมาได้ ซึ่งแน่นอนว่า Legendary Amazons ไม่ได้มอบองค์ประกอบที่จะเกื้อหนุนให้ จางป๋อจือ ได้โชว์เสน่ห์ความสง่างาม กับบทขุนพลหญิง มู่กุ้ยอิง ของเธอ ซ้ำร้ายการแสดงอารมณ์แบบเกินเหตุ ปั้นหน้าจนบูดเบี้ยว คิ้วขมวด หน้าแดงก่ำ ยังดูจะกลายเป็นเรื่องตลกขบขันแบบผิดที่ผิดทางไปเสียได้
นักแสดงคนอื่น ๆ ก็ดูเหมือนจะไม่มีใครสามารถเอาตัวรอดได้จากหายนะของ Legendary Amazons ไปได้เลย ตัวละครหญิงจำนวนมากในเรื่อง มีบุคลิกรายละเอียดที่เบาบางคนเราแทบจะแยกไม่ออกว่าใครเป็นใคร และใครจะตายก็ดูเหมือนจะไม่สามารถสร้างความสะเทือนใจใด ๆ ได้เลย นอกจากนั้นความไม่สมเหตุสมผลเรื่องลำดับอายุ ที่ทั้งรุ่นยาย, รุ่นลูก รุ่นหลาน ดูมีหน้าตาใกล้เคียงกันไปหมด ก็ยิ่งทำให้เรามีแต่จะสับสนขึ้น โดยเฉพาะตัวละครของ จางป๋อจือ ซึ่งในเรื่องมีลูกโตเป็นหนุ่มแล้ว แต่ผู้สร้างก็ไม่ได้สนใจที่จะทำให้เธอดูแก่กว่านี้ แต่อย่างใด แม่กับลูกจึงเหมือนพี่สาวน้องชาวเสียมากกว่า
สำหรับแฟนหนังรุ่นเก่า อาจจะพอมีโบนัสพิเศษ กับการปรากฏตัวของดาราหญิงยุค 80s อย่างสาวหน้าเศร้า โจวไห่เหม่ย ที่รุ่นเก่าอาจจะคุ้นเคยกับงานสมัยเป็นนักแสดงสังกัดทีวีบี ส่วนแฟนหนังจีนชุดรุ่นกลาง ก็น่าจะจำเธอได้จากหนังชุด “ดาบมังกรหยก” ที่มี หม่าจิ่งเทา นักแสดง
อีกคนที่มาปรากฏตัวในหนังก็คือ สาวบู๊แดนปลาดิบ ยูคาริ โอชิม่า ซึ่งก็ที่ไม่รู้ผู้สร้างนึกยังไงไปขุดเอากลับมาแสดงในหนังเรื่องนี้ เด็กรุ่นเก่าอาจจะเฉย ๆ แต่ถ้าเกิดทันก็ถือว่าเหมือนได้เจอแฟนเก่าที่ไม่ได้เห็นหน้ากันมาหลายปีน่ะครับ แต่บทของพวกเธอก็ไม่ได้เรียกว่าโดดเด่นน่าจดจำอะไร
ไม่ใช่ว่า Legendary Amazons จะดูได้ไม่สนุกเอาเสียเลยนะครับ คิวบู๊ของเหล่านักแสดงสาวน้อยสาวใหญ่ที่ระดมใส่กันเข้ามา ก็พอจะทำให้เราเพลิดเพลินกับหนังไปได้แบบ "ขำ ๆ" โดยเฉพาะใครชอบหนังบู๊แบบเก่า ๆ โดยเฉพาะหนังทีวียุคทีวีบีรุ่งเรือง ก็พอจะหาบันเทิงกับขุนศึกตระกูลหยางฉบับนี้ได้อยู่บ้าง แต่ก็ไม่ใช่ว่าคิวบู๊ของหนังจะดิบดีอะไร เป็นฉากต่อสู้แบบเหาะเหินด้วยสลิงค์ และการเร่งสปีดภาพเอาเสียมากกว่า
เห็นเนื้องานย่ำแย่แบบนี้ ก็ไม่ต้องแปลกใจที่ผู้อำนวยการสร้างใหญ่อย่าง เฉินหลง ที่ตามปกติแล้วโดดเด่นทั้งการสร้างหนังตลาดมีระดับ หรือหนังอาร์ทคุณภาพเยี่ยม กลับต้องมาเกี่ยวข้องกับหนังที่ "ตกมาตรฐาน" แบบนี้ เข้าใจว่าเพราะมิตรภาพความเป็นเพื่อนของเขากับผู้กำกับ ที่เข้าวงการมาพร้อม ๆ กัน และร่วมงานกันมาร่วม 20 - 30 ปี แล้วนั่นเองที่เป็นเหตุผลเบื้องหลัง
เพื่อให้สมกับเป็นหนังของ เฉินหลง Legendary Amazons ยังใส่ฉากประเภท "ผิดคิว" เอาไว้ท้ายเรื่องระหว่างขึ้นเครดิตด้วย กับภาพฉากผิดพลาด ซึ่งหลาย ๆ ครั้งก็ถึงกับทำให้นักแสดงสาว ๆ ในเรื่องบาดเจ็บกันไปคนละเล็กละน้อย แสดงออกถึงความทุ่มเทของเหล่านักแสดง ที่สุดท้ายแล้วผลลัพธ์ที่ออกมานั้นไม่ได้คุ้มค่าเอาเสียเลย
เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ ""ซ้อ 7"ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540 ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก ระบบ True Move และ Hutch - เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก |