“หมออ้อย” ปัดจูบปากคืนดี “กะเทยแชมป์” ยันบังเอิญเจอในงาน อีกฝ่ายเข้ามาสวัสดีก็ต้องรับไหว้ตามมารยาท เพราะไม่อยากสร้างศัตรูในวงการ แต่ถ้ายังเอาชื่อไปแอบอ้างให้เดือดร้อนอีกเจอฟ้องแน่
ก่อนหน้านี้เคยไปแจ้งความว่าถูก “แชมป์ รัฐริมธีรกุล” หรือรู้จักกันในนาม “กะเทยแชมป์” ใช้ชื่อไปแอบอ้างและฉ้อโกง แถมก่อนหน้านี้ “หมออ้อย จุฑารัตน์ เทียมสุวรรณ” ก็ไปมีชื่อเป็นผู้อยู่ในเหตุการณ์กรณีแชมป์ไปหลอกเงิน “ดุลย เหมปฐวี” วิศกรบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งเพื่อจะพาเข้าวงการบันเทิง ทำเอาหมออ้อยเดือดถึงกับต้องตั้งโต๊ะแถลงข่าวปฏิเสธว่าไม่มีส่วนรู้เห็นในเรื่องดังกล่าว ส่วนความสัมพันธ์กับแชมป์ก็แค่เด็กถือของเท่านั้น พร้อมประกาศตัดขาดความสัมพันธ์ไม่ขอร่วมงานใดๆ กับแชมป์อีกเด็ดขาด
แต่ปรากฎว่าวันก่อนในงานประกาศรางวัล Star’s Choice Awards 2011 และ 50 Sexy Awards 2011 ของหนังสือพิมพ์สยามบันเทิง ที่จัดขึ้น ณ ร้าน SNOP ย่านรัชดา กลับเห็นหมออ้อยเข้ามาในงานพร้อมกับแชมป์ ทำเอาหลายคนงงว่าทั้งคู่กลับไปญาติดีกันตั้งแต่เมื่อไหร่ ซึ่งกับเรื่องนี้หมออ้อยขอเคลียร์ว่า…
“กับกะเทยแชมป์ยอมรับว่าเราทะเลาะกันจริงค่ะ ไม่ได้คุยกันเลยตั้งแต่มีเรื่อง แล้วอีกอย่างเรามางานนี้ก็ไม่ได้ชวนเขาเลย แต่มาเจอกันในงาน และเราก็ไม่ได้เป็นคนแบบว่าเจอหน้าแล้วชี้หน้าด่าเลย เพราะเราไม่อยากสร้างศัตรูในวงการบันเทิง เราอยู่ตรงนี้ยังต้องเจอคนอีกเยอะแยะ แต่ถ้าเขามาแล้วไม่มาวุ่นวายกับเรามาก แค่แอบดูแล ถือรองเท้า ถือกระเป๋าให้เราก็คงไม่ว่า แต่ว่าถ้าให้ร่วมงานออกงานด้วยกันคงไม่เอาค่ะ”
“มาเจอกันตามงาน ถ้าเขาเข้ามาทักทาย เราก็ยินดีที่จะเป็นเพื่อน จริงๆ แล้วเขาก็ไม่ได้ทำอะไรกับหมออ้อยร้ายแรง ส่วนใหญ่จะไปทำคนอื่นและเอาชื่อเราไปอ้างนิดหน่อย หมออ้อยว่าถ้ามันไม่ได้เสียหายขนาดแบบว่าเสื่อมเสียจนไม่สามารถอยู่ในวงการบันเทิงได้ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเขาทำให้เดือดร้อนอีกเราก็อาจจะพูดจาต่อว่าเขา ถ้าร้ายแรงหรือว่าถ้าทำแบบนี้อีกทีก็จะฟ้อง แจ้งความ แจ้งตำรวจก็ว่ากันไป และตอนนี้เขาก็ไม่ได้ทำอะไรเรา”
ไม่กลัวคนเข้าใจผิดว่ากลืนน้ำลายตัวเอง ยันไม่ได้มาด้วยกันแต่ที่อีกฝ่ายมาสวัสดีก็ต้องรับไหว้ตามมารยาท
“คือเราไม่สามารถเลี่ยงได้ เขามีโมเดลิ่งของเขา ไม่ได้มากับเรา เขามาสวัสดีเรา เราเป็นผู้ใหญ่ก็ต้องรับไหว้ตามมารยาท มันเป็นเรื่องของสังคมมากกว่า เรื่องส่วนตัวค่อยว่ากันทีหลัง เขาเป็นแค่คนเคยรู้จักกันเฉยๆ ไม่เกี่ยวข้องกัน เราไม่ได้ไปไหนมาไหนด้วยกันแล้ว เวลาไปไหนหมออ้อยจะขับรถเอง ในเมื่อเขาทำไม่ถูกต้องก็ต้องลงโทษ และทำให้เสื่อมเสียในวงการบันเทิง ทำให้เราเสียชื่อ ก็ต้องเลิกยุ่ง เพราะเรายังต้องทำมาหากินในวงการบันเทิงอยู่”