“โอ วรุฒ” ยันไม่ได้ไปบำบัดโรคติดเหล้าแต่เลิกด้วยตนเอง เผยพอเลิกแล้วสุขภาพดีขึ้น ยอมรับ 1 ปีที่ผ่านมาไม่มีงานในวงการบันเทิงทำให้ชีวิตลำบากเพราะต้องผ่อนบ้านและจิปาถะ ไม่มีรายรับมีแต่รายจ่าย วอนใครมีงานให้ทำยินดีทำทุกอย่างไม่เกี่ยงงาน ทำใจชีวิตตกต่ำแต่คงไม่ถึงกับอดไม่มีอะไรกิน ถ้าไม่มีอะไรทำจริงๆ ก็ไปเสิร์ฟหรือทำงานที่ปั๊มก็ได้
เมื่อวานนี้(18/ม.ค./54) “นีโน่ เมทนี บุรณศิริ” ได้ออกมาเปิดเผยขณะมาร่วมงานขอบคุณสื่อมวลชนของบริษัททีวีธันเดอร์ว่า “โอ วรุฒ วรธรรม” อดีตพระเอกและพิธีกรชื่อดัง กำลังลำบากเพราะไม่มีงานทำ และขณะนี้กำลังบำบัดพิษสุราเรื้อรังอาการดีขึ้นแล้ว พร้อมของานให้โอ วรุฒทำนั้น ผู้จัดการออนไลน์เลยสอบถามเรื่องนี้ไปยังโอ วรุฒ เจ้าตัวก็ยอมรับว่ากำลังลำบากจริง
“ตอนนี้ผมก็สบายดีครับ ไม่ได้เป็นอะไร สุขภาพร่างกายก็ดีขึ้นแข็งแรงปกติดี พร้อมที่จะกลับมาทำงานได้แล้วครับ ก็อยากจะกลับมาทำงานในวงการบันเทิงอีกครั้งถ้ามีโอกาส ส่วนที่ว่าผมได้ไปบำบัดเลิกเหล้านั้นผมไม่ได้ไปเลย ยอมรับว่าไม่ได้ทำอะไรเลย และตอนนี้ก็ไม่ได้ติดเหล้าอย่างที่เป็นข่าว ก็มีบ้างช่วงที่อยู่บ้านว่างๆ ไม่มีอะไรทำก็มีดื่มเหล้าบ้าง แต่ไม่บ่อย พอมาหลังปีใหม่ก็เลิกดื่มจริงจังครับ ทำแค่นั้นครับก็รู้สึกว่าร่างกายดีขึ้นแข็งแรงสดชื่นหลังจากเลิกดื่มมาได้ 2 สัปดาห์”
“ยอมรับว่าชีวิตช่วงนี้ก็ลำบากนิดนึง ก็เป็นเรื่องธรรมดาเพราะงานแสดงพิธีกรไม่มี เราไม่มีรายได้อะไรเลยมีแต่รายจ่ายทุกวันทั้งค่าบ้าน ค่าอาหาร อะไรจิปาถะ เงินที่มีอยู่ก็เริ่มร่อยหลอก็เลยลำบาก ผมอยากจะกลับเข้ามาทำงานในวงการอีกครั้ง ถ้าทางผู้ใหญ่ให้โอกาส แต่ก็ยังไม่มีใครติดต่อมาเลยครับ ตอนนี้งานอะไรจะพิธีกรงานแสดงบทไหนผมก็รับทำได้หมด ไม่เกี่ยงให้งานอะไรมาก็ทำทั้งนั้น (หัวเราะ) เพียงแค่ขอให้กลับมาอยู่ในวงการอีกครั้งหนึ่ง ผมพร้อมเต็มที่จะเริ่มทำงานทั้งร่างกายและจิตใจ”
“อย่างเจอหน้าใคร เราก็อ้อนของานเขา ทั้งพี่กอบสุข จารุจินดา พี่คิง(สมจริง ศรีสุภาพ ) พี่ไก่ วรายุทธ(วรายุทธ มิลินทจินดา) เราก็บอกว่าน้องไม่มีงานเลยนะ ช่วยหน่อยนะครับ อะไรประมาณ พี่ๆ เขาก็ใจดีบอกว่าจะช่วยดูๆ ให้”
“ก็พยายามไม่ทำตัวเหงาเศร้าซึมช่วงนี้อยู่ว่างๆ ก็พยายามหาโน่นหานี่ทำจะได้ไม่คิดฟุ้งซ่าน แต่ช่วงนี้ก็พอมีธุรกิจอื่นคือ ทำงานบริษัท HTP ประกอบติดตั้งป้าย LED บิลบอร์ด และ Hitech Parking มีงานเข้ามาเรื่อยๆ อย่างล่าสุดกำลังจะไปติดที่ Airport Link ครับ”’
“ใครอาจจะมองว่าเราหายไปไหน เก็บตัวหรือเปล่า ไม่ใช่อย่างนั้น คือในช่วงที่ปี 54 ที่ผ่านมามันไม่มีงานเลยจริงๆ เราเลยต้องจับงานตัวอื่นอย่างขายผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อช่วยประคองไปก่อน ไม่ใช่ว่ากลับไปทำงานในวงการแล้วจะทิ้งงานพวกนี้ ก็ไม่ทิ้งเหมือนกัน คือจะทำควบคู่กันไปครับ”
“อย่างว่าคนเราต้องมีล้มมีลุกกันทุกคน แต่เป็นช่วงที่เราล้ม เมื่อล้มเราก็ลุกขึ้นมา ก็สู้ต่อไปไม่มีทางสิ้นสุดนะ เพราะชีวิตต้องต่อสู้ไปเรื่อยๆ ถึงจะลำบากแค่ไหนก็ต้องมีข้าวกินมีอะไรกิน มันคงไม่ลำบากถึงขนาดไปเก็บเศษขยะกิน อย่างน้อยเราไปทำงานเสิร์ฟ ถ้าตกต่ำจริงๆ ทำงานอยู่ตามปั้มน้ำมัน หรือไม่ก็ตามร้านอาหาร”