xs
xsm
sm
md
lg

“ผู้กำกับเป็นต่อ” ดิ้น ประกาศเอาซิทคอมไปลงช่องอื่นแทนช่อง 3

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ชาคริต” เศร้าซิทคอม “เป็นต่อ” ลาจอ หลังอยู่มานานถึง 7 ปีครึ่ง มองเป็นเรื่องสัจธรรมงานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา ด้านผู้กำกับ “นก” รับยังมีหวังให้เป็นต่อคืนจออีกครั้ง โวสุดภูมิใจสร้างละครแล้วสามารถให้กำลังใจประชาชนลุกขึ้นสู้ชีวิตได้ บอกปลื้มยิ่งกว่าได้ถ้วยรางวัลใด

สร้างความสนุกสนานสอดแทรกแง่คิดดีๆ ให้กับแฟนๆ มา 7 ปีครึ่งสำหรับซิทคอม “เป็นต่อ” ซึ่งออกอากาศทางช่อง 3 แต่ในที่สุดซิทคอมชื่อดังก็มีอันต้องลาจอตามนโยบายของผู้บริหารสถานีที่ต้องการสร้างความแปลกใหม่ โดยมีกำหนดออกอากาศเทปสุดท้ายในวันที่ 9 กุมภาพันธ์นี้ วานนี้ (16/ม.ค/54) ทางทีมงานกองละครเป็นต่อได้เปิดให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปเยี่ยมชมบรรยากาศการถ่ายทำตอนสุดท้ายของเป็นต่อ โดยมีผู้กำกับ “นก จิรศักดิ์ โย้จิ้ว” นำทีมนักแสดงอาทิ ชาคริต แย้มนาม , พิมพ์ พิมพ์มาดา บริรักษ์ศุภกร, กิ๊ก มยุริญ ผ่องผุดพันธ์ , ปุ๊ย ผอูญ จันทร์ศิริ ฯลฯ มาร่วมเปิดใจถึงการลาจอของซิทคอมเป็นต่อ

ชาคริต : “ก็ใจหายนะ 7 ปีครึ่งเราก็เหมือนเป็นครอบครัวกันไปแล้ว แต่จะทำไงได้มันก็เป็นการตัดสินใจของผู้ใหญ่ เรานักแสดงและทีมงานทุกคนก็ตั้งใจกันอย่างเต็มที่แล้ว 7 ปีครึ่งที่ผ่านมาเราคิดว่ามันคุ้มค่าแล้ว เรามีความสุขกับตรงนี้มากๆ รวมไปถึงพลังที่คนดูเขาให้เรา เรียกได้ว่ามันเป็นความมหัศจรรย์อย่างหนึ่ง แต่งานเสี้ยงมันก็ต้องมีวันสิ้นสุด”

พิมพ์ : “ใจหายค่ะเพราะมันเป็นงานชิ้นแรกที่พิมพ์ทำแล้วรู้สึกว่าเราผูกพนธ์กันเหลือเกินทั้งทีมงานและนักแสดง ไม่น่าเชื่อว่าเราจะสร้างคาแรกเตอร์ตัวละครให้ผูกพันกับนักแสดงได้ขนาดนี้ เราเองก็ไม่อยากให้มันจบลง แต่พิมก็ยังเชื่อว่าวันหนึ่งมันอาจะมีโอกาสกลับมาอีกก็ได้ พิมพ์เองก็ยังคาดหวังอยู่”
กิ๊ก : “แม่ชีก็เห็นว่ามันเป็นธรรมชาติเช่นนี้ค่ะ ก็ได้ธรรมมะจากเรื่องนี้”

ผู้กำกับเผยหวังลึกๆ จะได้กลับร่วมงานเป็นต่อด้วยกันอีก ลั่นเอาซิทคอมไปเสนอกับทางช่องอื่นไว้หลายช่อง ขอลุ้นความชัดเจน
นก : “ตอนนี้เป็นต่อจบแบบไม่จบ โดยเนื้อเรื่องที่ดำเนินไปมันยังไม่จบ อยู่ที่ว่าจะไปอยู่ตรงไหนเท่านั้นเอง กำลังหาช่องทางกันอยู่ว่าเราจะเอาเป็นต่อไปอยู่ตรงไหน ถ้ามีที่ไหนอยากได้โปรดติดต่อกลับมาเลยนะครับ เราเองรวมกันงานมาแล้วผมรู้สึกได้เลยว่าหานักแสดงที่รวมกลุ่มกันแล้วขนาดนี้ได้ยากมาก เราทำงานกันได้ดีแบบรู้ใจกัน ไม่ต้องพูดอะไรกันมาก กว่าเราจะโตมาพร้อมกันเข้าใจกันมองตาก็รู้กันขนาดนี้มันยาก ในชีวิตการกำกับละครของผมหาแบบนี้ได้ยากมาก กว่าจะกำกับให้นักแสดงได้ความรู้สึกหรือถ่ายทอดออกมาได้อย่างรักกันจริงๆ อย่างนี้ เพราะเรารักกันเป็นครอบครัวจริงๆ มันไม่ใช่แค่ละคร”

“อย่างทหารภาคใต้เองที่เขาดูเราจากทางบ้าน หรือครอบครัวที่พ่อแม่เขาทะเลาะกันแล้วเขาได้มีโอกาสดูละครเราก็กลับมาคืนดีกัน เราได้รับผลสะท้อนแบบนี้จากหลายๆ เรื่องหลายๆ ตอน หรืออีกเรื่องที่โดนกับแม่ของชาคริตที่แม่เขาเป็นมะเร็งป่วยอยู่ไม่ยอมออกมาเจอผู้คน อยู่ในโรคซึมเศร้าไม่ยอมคุยกับใคร จนวันหนึ่งที่เขาได้ดูพวกเราแล้วทำให้เขารู้สึกพร้อมที่จะออกมาพบเจอใครๆ กลับมาทำงานได้เหมือนเดิม”

ชาคริต : “เรารู้สึกภูมิใจมากที่ได้มีส่วนในการให้กำลังใจชีวิตคนอื่น เรียกว่าเราประสบความสำเร็จอย่างหนึ่งเหมือนที่พวกเราได้ตั้งใจเอาไว้ว่าเราจะเป็นกลุ่มเพื่อนกลุ่มหนึ่งให้กับประชาชนที่เขาดูผลงานของเรา ไม่ใช่แค่มาเล่นละครให้ดูเฉยๆ เราอยากจะเข้าไปอยู่ในใจเขา ให้ข้อคิดเขาก็ถือว่ามันเป็นยิ่งกว่ารางวัลถ้วยไหนๆ แล้ว”

นก : “ผมยอมรับครับว่าตัวผมหวังมากที่จะให้เป็นต่อได้กลับมาอีก เราเองไม่อยากจะให้มีวันนี้เลย หวังลึกๆ ว่าจะมีที่สักที่นึงที่เห็นคุณค่าเป็นต่อ แต่ก็ไม่รู้จะเป็นที่ไหน เชื่อครับว่ามันต้องมีที่หนึ่งที่เป็นต่อได้อยู่ แต่ก็ยังไม่มีที่ไหนตอบรับมาชัดเจนแต่ยังไม่สรุปแน่ชัดว่าเราจะไปช่องไหน”






กำลังโหลดความคิดเห็น