xs
xsm
sm
md
lg

“ประวิทย์” รับอยากร่วมงาน “แดง สุรางค์” เผยปีนี้เน้นละครภาคต่อ กับเพิ่มรายการเด็กบ่น ”เบิร์ดแลนด์ฯ” แป้ก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ประวิทย์ มาลีนนท์” บอสช่อง 3 รับอยากร่วมงานกับ “คุณแดง สุรางค์” อดีตเจ้าแม่วิก 7 สี แต่ทั้งนี้เป็นเรื่องที่ยากเพราะอีกฝ่ายเคยมีตำแหน่งใหญ่โต แต่ตำแหน่งที่มีในช่อง 3 ตอนนี้ยังไม่สมศักดิ์ศรี เผยโปรเจ็กท์ช่อง 3 ต่อไปจะเน้นสร้างดาราใหม่ให้มากขึ้น ส่วนละครจะทำละครเป็นภาคต่อมากขึ้น และเพิ่มรายการเด็กบ่น “เบิร์ดแลนด์ แดนมหัศจรรย์” แป้ก ส่วน “ชิงร้อยฯ” อยู่ช่วงบ่ายเสาร์-อาทิตย์ดีแล้ว เพราะอยู่ 5 ทุ่มเรทติ้งก็คงไม่สูงเกิน 5

นานๆ จะมีเวลาว่างให้ผู้สื่อข่าวได้สัมภาษณ์ยาวๆ เสียที สำหรับ “ประวิทย์ มาลีนนท์” หัวเรือใหญ่แห่งช่อง 3 ที่ได้มาร่วมงานแถลงข่าว ละคร “น้องใหม่ ร้ายบริสุทธิ์” ตอนพิเศษ “เชิดชูครู ผู้สร้างคน” ค่าย “บรอดคาซท์ ไทยเทเลวิชั่น” ณ โรงแรมเรเนซองส์ งานนี้ก็เลยโดนผู้สื่อข่าวสอบถามถึงข่าวลือที่ว่า ช่อง 3 ได้ทาบทาม “แดง สุรางค์ เปรมปรีดิ์” อดีตผู้บริหารช่อง 7 ที่พึ่งจะโดนปลดเพราะสถานีไม่ต่อสัญญาจ้างไปเมื่อไม่นานมานี้

“ตอนทราบข่าวเรื่องคุณแดง สุรางค์ ครั้งแรกผมก็รู้สึกตกใจมากครับ เราเป็นคู่แข่งกันก็จริงแต่เราไม่มีความรู้สึกที่ไม่ดีต่อกัน เราเป็นพี่เป็นน้องกันด้วยซ้ำไป ผมก็นับถือคุณแดงก็เรียกพี่แดงๆ ตลอดเพราะเขาอาวุโสกว่า ส่วนข่าวว่าจะทาบทามพี่แดงมาร่วมงานเรื่องนี้ผมว่าต้องให้เกียรติกับพี่แดงด้วยครับ ท่านรุ่นใหญ่ในวงการแล้ว ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่จะไปเชิญพี่แดงมาร่วมงานได้ มันไม่ง่ายหรอกผมต้องเรียนแบบนี้ แต่ถ้าถามว่าอยากได้หรือเปล่าก็อยาก แต่ต้องเคารพในสถานะพี่แดงครับ แต่ส่วนตัวยังไม่ได้มีการติดต่อหาพี่แดงหรือคุยกันนอกรอบครับ”

“ส่วนตอนนี้หลายคนมองว่าช่อง 7 ยังไม่มั่นคง ทางช่อง 3 จะทำอะไรขึ้นมาเพื่อแย่งเรทติ้ง เรื่องนี้ผมยังไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงอะไรของช่อง 7 เลยนะ เขาก็ยังมีความมั่นคงอยู่ผมยังไม่เห็นว่าเขาจะไม่มั่นคงตรงไหนเลย (หัวเราะ) คือเราแข่งกันมาตลอดแหละแต่ทางเราก็อาจจะได้จังหวะ ซึ่งช่วงนี้มันอาจเป็นจังหวะของเรามากกว่า เราทำอะไรก็ดูดีขึ้น ดูง่ายขึ้นกว่าเมื่อก่อน แต่ผมไม่ได้พาดพิงใครนะ”

“หลายคนก็จับตามองว่าคุณแดงจะมาร่วมงานกับช่อง 3 แน่ๆ ผมว่าพี่แดงเขายิ่งใหญ่ขนาดนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย ผมร่วมงานกันได้อยู่แล้วแต่จะไปลดสถานะพี่แดงเพื่อให้มาร่วมงานกับช่อง 3 มันไม่ได้หรอก ถ้าจะมาจริงท่านต้องยิ่งใหญ่กว่าตำแหน่งที่เรามีอยู่ อนาคตก็อาจจะไม่แน่อาจจะมีร่วมงานกันได้ หรืออยากจะเชิญมารับตำแหน่ง แต่คงเป็นไปไม่ได้เพราะพี่แดงคงไม่รับแน่ ส่วนกระแสว่าจะทาบพี่แดงมาดูเคเบิ้ลให้กับช่อง 3 เรื่องนี้ไม่จริงครับ เพราะช่อง 3 ไม่ได้ทำเคเบิ้ล (หัวเราะ) หรือจะเป็นแพลนทำเคเบิ้ลช่อง 3 ก็ไม่มีเหมือนกัน หรือแม้กระทั่งตำแหน่งที่ปรึกษาด้านละครเองก็คงยาก พี่แดงเขาเคยมีอำนาจเต็มอยู่จะให้มาเป็นแค่ที่ปรึกษาก็คงยาก มันน้อยไป แต่อนาคตข้างหน้าก็ยังไม่รู้ครับ”

เผย “บอย ถกลเกียรติ วีรวรรณ” ยังเดินหน้าทำละครซิทคอมต่อ ซึ่งจะมาแทนซิทคอมเป็นต่อ ที่กำลังจะหลุดผัง แย้มกลยุทธ์ต่อไปจะสร้างเด็กในสังกัดจากรายการขึ้นมาแทน มากกว่าเสียคิวดาราตัวหลักไปทำงานรอง
“ส่วนซิทคอมเป็นต่อจริงๆ ผมเพิ่งได้คุยกับคุณบอยเมื่อเช้าเองครับ ตกลงว่าช่วงเวลาของเป็นต่อยังอยู่ที่คุณบอย แต่ไม่รู้ว่าคุณบอยจะเอาไปลงที่อื่นหรือเปล่า แต่เราก็เปิดกว้างเพียงแต่ว่าเราอยากได้รายการใหม่เข้ามาให้กับช่อง 3 บ้างไม่งั้นโครงการใหม่ๆ จะไปอยู่ช่องอื่นหมดเลย ช่อง 3 ก็จะมีแต่รายการเก่าๆ ผมไม่ได้รังเกียจรายการนี้ แต่เท่าที่ได้ฟังคุณบอยก็จะทำซิทคอมต่อก็คิดว่าจะตอบสนองเราได้ดีขึ้น”

คือการสร้างคน เราต้องการ 2 อย่างคืออยากให้มีอะไรใหม่ๆ และขอโอกาสให้เราได้มีโอกาสสร้างคนขึ้นมา ที่ผ่านมาเราสร้างคนจากละครแล้วคนอื่นก็นำไปใช้ ลักษณะกลับกันถ้าเรามีรายการใหม่ๆ มา เราก็จะหยิบตรงนั้นไปใช้ในละคร ตอนนี้กลายเป็นว่าดาราจากในละครป่วนไปหมดเลยแทนที่จะได้คิวเต็มที่ เหมือนกับว่าเอาคนงานหลักไปช่วยงานรอง”

“ถามว่าซิทคอมเรื่องใหม่จะใช้นักแสดงใหม่ของเราทั้งหมดหรือเปล่า อันนี้มันคือความฝันของเรา ถ้าเป็นต่างประเทศเขาก็มักจะใช้ดาราใหม่หมดเลย แต่เราจะกระโดดไปถึงขั้นนั้นได้ช่วงนี้ใครสามารถทำอะไรไปก่อนก็ทำไปแล้วค่อยๆ เติม หรือค่อยๆ สร้างคนใหม่ สมมติว่าละครของคุณบอยอาจจะมีนักแสดงใหม่ของเราเข้าไปแจมด้วยคนหนึ่ง ใส่เข้าไปให้ไปที่รู้จัก หรือถ้ามีโครงการใหม่เราก็อาจจะให้เป็นแต่ดาราใหม่ๆ หมดเลย หรือไม่ก็หาคนน้อยหน่อย หรือแม้กระทั่งละครซิทคอมของหน่อง อรุโณชา เราจะใช้โป๊บ ธนวรรธ แต่ก็ต้องเสียเวลาไปกับซิทคอมวิ้งเจ้าเสน่ห์ไปวันหนึ่งเลย”

“เราก็ไม่ได้ว่าหากเขาจะทำซิทคอมเหมือนเดิมแค่เราอยากต้องการอะไรๆ ใหม่ๆ บ้าง เพราะเราไม่เคยเปลี่ยนรายการแบบนี้เลยนะและก็ไม่จำเป็นต้องทำรายการประกวดแข่งขันอะไรเลย แต่เราแค่อยากได้คนใหม่ๆ แบบเดอะสตาร์บ้าง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าต้องเป็นรูปแบบรายการนั้นสร้างวิธีอื่นก็ได้”

ปัดเขี่ยเวลาไม่ดีให้ “รายการชิงร้อยชิงล้าน” กระเด็นไปอยู่ช่วงบ่าย ทั้งที่เมื่อตอนที่ออกอากาศช่อง 7 ได้เวลาไพร์มไทม์ห้าทุ่ม บอกเป็นช่วงเวลาที่ดีและสามารถทำเรทติ้งให้สูงขึ้นได้มากกว่าช่วงเวลาเดิม
“ส่วนเรื่องรายการของเวิร์คพ้อยท์ที่ได้มาลงที่ช่องภาพรวมก็น่าจะดีนะครับ เรามีแนวคิดมาตลอดว่าวันเสาร์-อาทิตย์น่าจะเป็นวันพักผ่อน ต้องเอารายการที่เข็มแข็งที่สุดลงเพื่อสร้างให้เกิดเป็นวันครอบครัวขึ้น ส่วนรายการชิงร้อยชิงล้านฯที่ได้ออกอากาศไปก็น่าจะดีที่ได้เลือกลงในช่วงเวลานั้น”

คือเราคิดแบบนี้ถ้าเอาไปลงตอน 5 ทุ่ม โอกาสที่เรทติ้งจะเพิ่มขึ้นสูงมันไม่มีแล้ว คือมันดึกคนยิ่งดูก็ยิ่งน้อยลง แต่วันอาทิตย์ตลอด 2 ชั่วโมงเวลาดีหมด และก็ไม่มีข้อจำกัดด้วย ชิงร้อยชิงล้านอยู่ดึกก็น่าจะได้แค่ 5 แต่เราทำก็อตทาเล้นท์ปีที่แล้วเรทติ้ง 8 ตาเขาอาจจะทำเป็น 10 กว่าก็ได้ไม่มีใครรู้ และมันจะเป็นการดึงคนดูให้กลับมาดูเสาร์อาทิตย์มากขึ้น มันก็เป็นผลให้รายการอื่นๆ อีกด้วย ก็จะไม่มีการให้ไปอยู่เวลา 5 ทุ่มอีกแน่นอน 4 ทุ่มยังโอเค และตา ปัญญาเขาก็จะปรับให้ดูเป็นครอบครัวมากขึ้น มุกหรืออะไรให้เหมาะสม เสาร์หรืออาทิตย์เป็นเวลาที่ดีที่สุด ดีกว่าช่วง 2 ทุ่มด้วยซ้ำไป”

แย้มแพลนปีนี้จ่อรุกรายการเด็กมากขึ้น ยอมรับรายการ “เบิร์ด แลนด์แดนมหัศจรรย์”ของซุปเปอร์สตาร์เมืองไทย “เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย ” เด็กกลับไม่ดูถึงขนาดยอมตัดชิ้นเนื้อซึ่งเป็นเวลาที่ดีที่สุดให้แล้ว
“แพลนในปีนี้มีอีกเยอะแยะเลยครับ เราคุยมาแล้วหลายปีว่าเราจะสร้างครอบครัวเกี่ยวกับเด็กให้เข็มแข็ง เราคุยกันมานานแต่ไม่เคยถึงสักทีมันยากมากเพราะเด็กไม่ดูรายการเด็ก เราให้ความสำคัญเด็กมาตลอดแต่ไม่เคยเข้าถึง เหมือนเบิร์ดแลนด์ที่ทำไปเด็กก็ไม่ดูมันก็กลายเป็นปัญหา เราคิดว่าเด็กจะดูแต่ก็ไม่คิดขยับเวลา ผมตัดใจเฉือนเนื้อที่ดีที่สุดให้เลยนะนั่นน่ะ(หัวเราะ) เราต้องหาวิธีไปเรื่อยๆ ก็ไม่รู้เมื่อไหร่จะคลิก ต้องลองแล้วลองอีกจนกว่าเราจะเข้าถึงเด็ก”

จากนั้นประวิทย์ ยังได้เปิดเผยถึงโครงการต่างๆ ในปีนี้อีกว่าต้องการที่จะเร่งละครดอกส้มสีทองภาค 3 ของ “หน่อง อรุโณชา ภานุพันธ์” ออกมาให้ได้ทันฉายปีนี้ และหมายมั่นจะทำละครภาคต่อ
“อย่างบรอดคาซท์ปล่อยละครเรื่องต้มยำลำซิ่งออกมาตอนนี้ผมคิดว่ายังเป็นแค่น้ำจิ้ม ที่เร่งหน่องทุกวันนี้คือดอกส้มสีทองภาค 3 ต้องรีบเอาออกมารู้สึกมีปัญหาเรื่องบท แต่จากกระแสของผู้ชมคิดว่าบทต่อไปก็น่าจะดีขึ้น แต่เราก็ต้องระวังมากขึ้น เพราะเหนื่อยที่จะมีปัญหากับกระทรวงนั้นกระทรวงนี้ แต่ถ้าเราระวังมากไปมันก็จะกลายเป็นปิดหูปิดตาเราเป็นประเทศเดียวในโลกที่ต้องเซ็นเซอร์บุหรี่ บังขวด บังอาวุธ สังคมเราดีกว่าคนอื่นหรือเปล่ามันก็ไม่ใช่มันอยู่ที่เราจะสอนเด็กยังไง เราเป็นประเทศเดียวที่เคารพธงชาติแต่ก็ยังตีกันอยู่ ที่อื่นเขาไม่มีที่ต้องเคารพธงชาติวันละ 2 เวลา เราเน้นรูปแบบมากเกินไป ซึ่งถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้มีภายในปีนี้ก็ฝากให้ละครทุกเรื่องตอนนี้เหมือนทำภาคต่อ ประมาณว่ามีลูกนำแต่ไม่มีลูกตาม จบแล้วจบเลยไม่มีต่อเนื่อง ต่อไปนี้แนวคิดจะแตกต่าง ซึ่งมันคงยากแต่เราก็ต้องเผื่อไว้”









กำลังโหลดความคิดเห็น