“แพนเค้ก” เอาไม่อยู่ เลือกครอบครัว ยอมตัด “เป้”

แรกรักน้ำต้มผักก็ว่าหวาน รักไปนานๆ จืดจางกันไปเอง ด้วยเหตุผลของการไปกันไม่ได้ คู่รักพระนาง อาเปาและแป้งร่ำ จากละครเธอกับเขาและรักของเรา "เป้ อารักษ์ อมรศุภศิริ" กับ "แพนเค้ก เขมนิจ จามิกรณ์" เป็นอันต้องปิดฉากลง เมื่อหลายอย่างไม่เป็นอย่างที่คิด หนุ่มติสท์เจอกับสาวมั่น เลยเป็นเหตุผลให้ยื้อต่อไปไม่ไหว
 ชัดเจนกันไปว่าต่างคนต่างเดิน ส่วน "เวียร์ ศุกลวัฒน์ คณารศ" กิ๊กเก่า ไม่รีเทิร์นแน่เพราะออกตัวชัดเจนว่าศึกษาคนอื่นไปแล้ว ส่วนกรณีแม่นางเอกสาว “หน่อย นวลนง จามิกรณ์” ไม่ปรากฏเด่นชัด เอาเป็นว่าแพนเค้กแคร์ครอบครัวจนแทบไม่มีเวลาส่วนตัว ยากที่หนุ่มใหม่อย่างเป้จะรับได้ เมื่อเปลี่ยนแปลงไม่ได้ ยื้อไม่ไหว แพนเค้กต้องเลือกตัดสินใจต่างคนต่างไปก็แค่นั้น

ตอนคบกันก็ว่าฮือฮาแล้ว แต่พอเลิกกันฮือฮายิ่งกว่า สำหรับความรักของพระเอกนางเอกอย่าง “เป้ อารักษ์ อมรศุภศิริ” กับนางเอกช่อง 7 สี อย่าง “แพนเค้ก เขมนิจ จามิกรณ์” ที่รักกันได้แค่ 7 เดือนเศษก็มีอันต้องจบความรักครั้งนี้เสียแล้ว กระชากใจแฟนคลับชนิดที่เรียกว่ารักฟ้าแลบ แต่เลิกฟ้าผ่า ยิ่งกว่าเสียอีก แต่ทว่าแพนเค้กออกมาพูดชัดเจนว่าความรักครั้งนี้ของเธอไปกันไม่ได้เพราะเวลาที่ไม่ตรงกันบวกกับการจูนที่ผ่านการยื้อมาได้ระยะหนึ่งแล้ว ท่ามกลางข่าวเมาท์ว่าทั้งคู่ระหองระแหงกันมาก่อนปีใหม่ หมอดูทุกสำนักต่างทำนายออกมาตรงกันว่าคู่นี้ไม่ใช่คู่แท้อย่างไรเสียต้องเลิกกันแน่ๆ ข้ามปี
ไม่ทันสัปดาห์ แพนเค้กออกมาให้ข่าวว่าเลิกรากับเป้แล้วจริง แต่ยังคงไว้ซึ่งมิตรภาพในคำว่าพี่น้อง สามารถร่วมงานกันได้เช่นเคย ส่วนสาเหตุนั้นเธอบอกเพียงว่าการไม่ได้พบเจอกันต่างคนต่างทำงานทำให้เวลาไม่ตรงกัน ไม่มีเวลาให้กันจึงต้องเลิกเรากันไปหาแนวทางที่ดีที่สุดของตนเอง นำมาซึ่งความกังขา ในหลายๆ สาเหตุที่ทำให้เป้และแพนเค้กตัดสินใจจบความรักครั้งนี้ท่ามกลางเหตุผลที่เป็นพระเอกนางเอก เพราะเป้บอกว่าแค่ได้รู้จักและคบกันก็ถือว่าดีมากแล้ว ทำเอางงกันเป็นไก่ตาแตกว่าตอนแรกรักกันหวานปานจะกลืนกินแล้วเหตุไฉนไปกันไม่ได้ ซึ่งเขาและเธอก็พยายามยื้อแต่ก็ไม่สำเร็จ

จริงหรือ!? “แพนเค้ก” ติดครอบครัวจนไม่มีเวลาส่วนตัวให้ “เป้”

สาเหตุหนึ่งของการเลิกราครั้งนี้ว่ากันว่ามีสาเหตุหลักมาจากการที่การดำรงชีวิตที่ติดครอบครัวและแคร์ครอบครัวเป็นที่ 1 ของแพนเค้กนั่นเอง ที่ทำให้คนนอกที่เข้ามาใหม่อย่างเป้พยายามปรับตัว แต่การปรับตัวของเป้ในบางครั้งคนอาจฝืนใจและยังไม่ชินกับการไปไหนมาไหนทั้งครอบครัวของแพนเค้ก รวมทั้งการมีกิจกรรมร่วมกันทั้งพ่อแม่พี่น้อง ครอบครัวจามิกรณ์ แต่ทว่าทั้งแพนเค้กและเป้ได้พยายามปรับและจูน หากแต่การทำงานของคนทั้งคู่เนื่องด้วยเวลาที่หาว่างตรงกันยากอยู่แล้ว และทุกครั้งที่ว่างทั้งคู่ก็แทบไม่มีเวลาส่วนตัวที่จะได้ไปไหนมาไหนด้วยกันตามลำพัง
 
จนกระทั่งระยะหนึ่งมีข่าวออกมาว่าพ่อแพนเค้กไม่ปลื้มเป้ แต่ทั้งแพนเค้กและเป้ก็ออกมาปฏิเสธตรงกันว่าไม่เป็นความจริง ส่วนเป้ก็โบ้ยให้ไปถามพ่อแฟนสาวดูว่าไม่ชอบจริงหรือเปล่า ซึ่งขณะนั้นทั้งคู่มีข่าวระหองระแหงกันแล้ว และอยู่ในช่วงปรับจูนเข้าหากันและกัน ซึ่งในทางกลับกันสมัยคบกับเวียร์ ศุกลวัฒน์ นั้น เวียร์มีบ้านใกล้กับแพนเค้ก ถ่ายละครด้วยกัน จึงไม่มีปัญหาเรื่องเวลาและการปรับจูนในหลายๆ เรื่อง แต่สำหรับเป้นั้นไม่ใช่

เป้มีความหวังว่าความสัมพันธ์จะดีขึ้น จึงพาแพนเค้กเข้าไปรับประทานอาหารกับแม่เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ที่ดีกับครอบครัว บรรยากาศเป็นไปด้วยดี และแน่นอนว่าการต้อนรับว่าที่ลูกสะใภ้ของบ้านนี้ดีเลิศ และตามใจลูก อีกทั้งเป้อยากให้ความรู้สึกของตัวเองและแพนเค้กดีขึ้นเพราะแทบไม่มีเวลาได้คุยกัน และการรับประทานอาหารในวันนั้นเป็นที่น่าแปลกว่าแม่และครอบครัวของแพนเค้กไม่ได้ไปด้วย แพนเค้กไปเพียงลำพังโดยบอกว่าแม่ติดธุระ ซึ่งปกติแม่และแพนเค้กตัวติดกันเป็นตังเม
 
แต่รักครั้งนี้ แพนเค้กเลือกมาเองตั้งแต่แรก และประกาศคบหากันเปิดเผยกับเป้ตั้งแต่เลิกรากับเวียร์ แต่เป็นการศึกษากันจริงจังนอกเหนือจากการสปาร์กกันกลางกองถ่ายฯ ที่จูบกันฉากเว้นฉาก 2-3 เดือนหลังมานี้ทั้งแพนเค้กและเป้พยายามยื้อสถานการณ์ให้ดีขึ้น แต่ดูเหมือนเป้จะไม่ได้ปรับ อีกทั้งการใช้ชีวิตของเป้ต่างจากแพนเค้ก ซึ่งมีอิสระและมีแนวความคิดเป็นของตัวเองโดยที่แม่และครอบครัวไม่ได้เข้ามาเกี่ยวข้องเช่นเดียวกับครอบครัวของนางเอกช่อง 7 สี คนนี้ ความดื้อรั้นและติสท์ เอาแต่ใจของเป้ทำให้เกิดความขัดแย้งเล็กๆ ที่ก่อตัวขึ้นเรื่อยๆ เกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ของคนทั้งคู่



ไม่มีมือที่สาม แต่มีมือที่มองไม่เห็น

สมัยคบกับ “เวียร์ ศุกลวัฒน์” มีโอกาสได้เล่นละครกับ “เป้ อารักษ์” ในบทที่ถึงพริกถึงขิง จูบจริงกันตลอดเวลาทำให้เกิดรักกลางกองถ่ายฯ พอกลับมาเล่นละครกับพระเอกอดีตคนเคยคุ้นก็มีข่าวตลอดว่าจะรีเทิร์นกันได้หรือไม่แต่ก็เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าไม่รีเทิร์นแน่นอน เพราะทันทีที่โดนพาดพิงเวียร์ก็ออกมาพูดทันทีว่าตนควงสาวหมวยไปเดต และมีคนดูใจแล้วเพียงแต่รอจังหวะและเวลาที่แน่นอนก็พร้อมเปิดตัวเช่นกัน เพราะชีวิตคงต้องเดินต่อไปข้างหน้า และระยะหลังมานี้ไม่มีโอกาสแม้จะได้พูดคุยกับแพนเค้กด้วยซ้ำ

กรณีเวียร์ตัดทิ้งไปได้ แต่กรณีของเป้ และสาวนอกวงการ ที่ชอบมีข่าวเห็นเป้กับสาวๆ คนนั้นคนนี้มากมาย กระทั่งสาวผู้จัดการส่วนตัวที่ตกเป็นข่าวกับเป้ตลอด อีกทั้งมีข่าวว่าผู้จัดการส่วนตัวคนนี้คือคนที่มีข่าวก่อนหน้านี้ว่าไม่ปลื้มแพนเค้กเท่าใดนัก เมื่อแพนเค้กไม่มีเวลาให้ สาวข้างกายเป้ก็เห็นจะมีแต่ผู้จัดการส่วนตัวและแก๊งปีนเขาที่อยู่ใกล้ตัวเป้เท่านั้น และแทบจะตามติดเป็นเงาตามตัวกันเลยทีเดียว ระยะหลังมีข่าวกับเป้มากกว่าแพนเค้กเสียอีก เรื่องราวมือที่สามจึงไม่เป็นภาพเด่นชัด แต่ทว่ามือที่มองไม่เห็นที่ว่ากันว่าเป้มีเวลาว่างอยู่กับสาวคนอื่นๆ มากกว่าแฟนตัวเอง และมีคนเห็นไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยกว่าแพนเค้กเสียอีก ที่ว่าไม่คิดมากถ้าลองแฟนเดินกับสาวอื่นบ่อยๆ มีหรือดาราระดับนางเอกจะไม่น้อยใจ เมื่อว่างไม่ตรงกัน อีกฝ่ายว่าง อีกข้างมีครอบครัวตามไปด้วย เรื่องความรักไม่เป็นเรื่องของคนสองคน เมื่อไปกันไม่ได้ รักครั้งนี้แพนเค้กจึงไม่ยื้อนานเหมือนครั้งก่อน ตัดสินใจเลิกรา ถอยหลังความสัมพันธ์ที่สานกันมาได้ 7 เดือนเศษๆ ด้วยตัวเอง ปิดฉากรักไป แม้ว่าเป้จะบอกว่ายังรอ แต่ดูเหมือนว่าแพนเค้กออกตัวก่อนว่าต่างคนต่างไปก่อนแล้วค่อยว่ากันเรื่องอนาคต แต่เดินหน้าแล้วไม่ถอยหลัง และยังไม่มีตำรวจมาจีบอย่างที่เป็นข่าวแน่นอน

ความรักของพระเอกนางเอก รักหน้าหนึ่งเลิกก็หน้าหนึ่ง จบลงง่ายดาย แต่ทว่าความรักของเป้-แพนเค้กครั้งนี้ มาจากการตัดสินใจของตัวฝ่ายหญิงเอง ที่เธอพูดเสมอว่าเธอเลือกครอบครัว เป็นอันดับหนึ่ง แต่ทว่าเป้ก็มีเส้นศิลปินที่ยากแท้หยั่งถึง เมื่อความสุขเดินไปคนละทาง แพนเค้กต้องการมีครอบครัวเคียงข้าง ส่วนเป้ อยากมีเวลาว่างส่วนตัวกับแพนเค้กบ้างจึงหาได้ยากเลยกลายเป็นว่าความรักของเขาและเธอสวนทางกัน เมื่อศึกษากันไประยะหนึ่งแล้วไม่ใช่ เธอจึงตัดสนใจแยกย้ายไปหาทางที่ดีกว่า หมดเวลารักโปรโมต มนต์รักพระเอกของเธอจบไปแล้วเป็นคนที่ 2 ก็ไม่รู้ว่ารายต่อไปจะใช่พระเอกอีกหรือไม่ ขนาดยอมและคิดว่าเข้าใจกันทุกอย่าง ตัวติดกันอย่างเวียร์ยังไปไม่รอด แล้วไม่ค่อยได้เจอกัน ติสท์ แถมมึน จะรอดมั้ย อันนี้ไม่เหนือความคาดหมายเมื่อความสัมพันธ์ของทั้งคู่จบลงอย่างรวดเร็ว
...................................................

ที่มานิตยสาร ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ ฉบับ 119 วันที่ 14-20 มกราคม 2555