“ดี้ นิติพงษ์” แต่งเพลงเทิดพระเกียรติในหลวงเพื่อเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครบ 7 รอบ 84 พรรษา บอกถึงน้ำจะท่วมแต่คนไทยต้องไม่ลืมระลึกถึงและตอบแทนที่ทรงดูแลประชาชนมายาวนาน ปลื้มมีโอกาสได้ถวายงานพระองค์โสมฯ ทำให้ทราบเรื่องราวต่างๆ เผยในขณะที่รัฐเตรียมกู้เงินแสนล้าน แต่ในหลวงทรงซื้อพันธุ์ข้าวเปลือกเตรียมไว้ให้ชาวนาเพาะปลูกตอนน้ำแห้ง ดีใจรัฐยอมถอยพ.ร.ฎอภัยโทษเอื้อทักษิณไม่ทำให้สังคมแตกแยก
ในภาวะที่กระแสข่าวน้ำท่วมถูกโหมกระหน่ำบนหน้าจอทีวี สถานีต่างๆ พร้อมใจกันรายงานความเคลื่อนไหวอย่างบ้าคลั่งทุกแง่ทุกมุม มองในแง่ดีก็ครอบคลุมลึกซึ้งเป็นประโยชน์กับสังคม แต่ถ้าติดตามข่าวสารมากๆ ก็อาจจะเครียดจนความดันขึ้นได้เช่นกัน ท่ามกลางกระแสข่าวน้ำท่วมซึ่งปีนี้คนไทยอย่างเราๆ ต้องไม่ลืมว่าในเดือนหน้าวันที่ 5 ธันวาคม เป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครบ 7 รอบ 84 พรรษา
ก่อนหน้านี้ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี เคยประกาศจะจัดงานเฉลิมฉลองยิ่งใหญ่อลังการ แต่เมื่อบ้านเมืองเกิดภาวะน้ำท่วม ในหลวงก็ทรงรับสั่งไม่ให้จัดงานใหญ่โต อย่างไรก็ตามหลายๆ หน่วยงานไม่ว่าจะเป็นภาครัฐหรือเอกชนต่างก็พร้อมถวายความจงรักภักดีในรูปแบบต่างๆ ตามภาวะที่เหมาะสม สำหรับ “ดี้ นิติพงษ์ ห่อนาค” นักแต่งเพลงชื่อดังและผู้บริหารค่ายเพลงสหภาพดนตรี ก็เป็นหนึ่งในภาคเอกชนที่ประกาศเฉลิมฉลองปีมหามงคลตั้งแต่ต้นปีด้วยการเตรียมออกอัลบั้มเทิดพระเกียรติ “ทองผืนเดียวกัน” โดยรวบรวมเอาศิลปินหลายๆ ค่ายมาร่วมร้องเพลงในอัลบั้มชุดนี้ โดยรายได้ทั้งหมดไม่หักค่าใช้จ่ายจะนำขึ้นถวายในหลวงโดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย.....
งานนี้นักแต่งเพลงชื่อดังบอกว่า มีโอกาสได้ถวายงานพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ในส่วนประธานประชาสัมพันธ์มูลนิธิเพื่อนพึ่ง(ภา)ยามยาก ทำให้รับรู้เรื่องราวต่างๆ มากมาย จึงอยากจะเชิญชวนประชาชนร่วมกันเป็นแรงพระทัยให้กับในหลวงซึ่งกำลังประชวร และเป็นห่วงประชาชนที่กำลังน้ำท่วม และถึงแม้ปีนี้ในหลวงจะรับสั่งไม่ให้จัดงานใหญ่โต แต่ก็ควรระลึกถึงในหลวงให้มากยิ่งขึ้น ทำในสิ่งที่ดีเพื่อตอบแทนสิ่งที่ในหลวงทรงดูแลประชาชนมาอย่างยาวนาน อย่าสร้างเงื่อนไขที่จะทำให้สังคมแตกแยก และดีใจที่รัฐบาลถอยเรื่องพ.ร.ฎอภัยโทษเอื้อทักษิณ ชินวัตร
“สำหรับธุรกิจค่ายเพลงตอนนี้ก็ไปได้เรื่อยๆ ไม่ถึงกับรีบอะไรมากมันเหมือนการทำนาต้องใช้เวลา เพราะทุกอย่างของเราใหม่หมดคนทำงานมีประสบการณ์ก็จริง แต่เครื่องไม้เครื่องมือของเราสาธารณูปโภคทุกอย่างต้องเซ็ทใหม่หมดเริ่มต้นจากหนึ่งหมด เพราะฉะนั้นก็ต้องใช้เวลา เราไม่ได้ทำธุรกิจแบบเอาเป็นเอาตาย ทำให้มันดีต่อจิตใจเราดีต่ออาชีพเราดีต่อคนฟังดีต่อสังคมด้วย เพราะฉะนั้นช่วงแรกของการทำบริษัทก็จะเน้นไปทางงานทำเพื่อสังคมซะเยอะ อย่างเช่นอัลบั้มทองผืนเดียวกัน”
“ทองผืนเดียวกันเป็นโปรเจกต์ที่เราคิดไว้ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว คิดไว้ก่อนที่จะตั้งบริษัทซะด้วยซ้ำ เพราะคิดว่าในปีนี้คงจะไม่มีเรื่องอะไรที่ยิ่งใหญ่ไปกว่าในหลวงครบ 7 รอบ 84 พรรษา ก็คิดว่าทุกหน่วยทุกภาคจะมีการจัดกิจกรรมที่เฉลิมฉลองยิ่งใหญ่ ในฐานะที่เรามีอาชีพนี้เราก็อยากจะทำอะไรที่เป็นการแสดงความจงรักภักดีและเฉลิมฉลองในแบบของเรา นั่นคือสิ่งที่เราคิดไว้ตั้งแต่ปลายปี”
“ก็เลยคุยกับพี่โต๊ะพี่ป้อม(อัสนี โชติกุล) ว่าเรามาทำเพลงเทิดพระเกียรติกันเถอะ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ผมก็เคยทำมาแล้วไม่ว่าจะเป็นเพลงต้นไม้ของพ่อ รูปที่มีอยู่ทุกบ้าน เราก็เริ่มทำเพลงตั้งแต่ต้นปีเฉลิมฉลองกันตั้งแต่ต้นปีเมื่อวันที่ 6 เมษายน ซึ่งเป็นวันจักรี เพลงก็ถูกเผยแพร่ไปตามคลื่นต่างๆ ตามที่เราได้ขอความร่วมมือไปเพราะเป็นงานเพลงที่ไม่ได้ทำขึ้นเพื่อธุรกิจ”
“หลายๆ คนก็คงจะได้ฟังไปแล้วอย่างเพลงขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป ซึ่งเป็นเพลงที่ผมแต่งขึ้นมาและเพลงที่ผมแต่งให้ในหลวงส่วนใหญ่ผมจะไม่ได้พูดถึงท่านโดยตรง อย่างเพลงต้นไม้ของพ่อก็ ของขวัญก้อนดิน รูปที่มีทุกบ้าน จะไม่ได้ให้ท่านเป็นบุรุษที่สอง จะไม่ใช่แบบขอเดชะแต่จะเป็นการพูดกับคนไทยว่าพูดถึงท่านยังไงบ้าง”
“อย่างเพลงขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป จะไม่ได้พูดถึงภารกิจของท่านเพราะเป็นสิ่งที่คนไทยก็รู้กันอยู่แล้ว แต่จะบอกว่าเราควรจะสำนึกจะเกิดใหม่ตายใหม่อีกกี่ทีก็จะเป็นข้ารองบาททุกชาติไป ภาษาที่ใช้ก็จะสรุปง่ายๆ เพราะผมเป็นคนที่เขียนเพลงแบบนั้น เออแปลกดีนะ ประเทศโน้นประเทศนี้หรือในนิทานที่เราอ่านพระราชาจะสบายอยู่ในวัง แต่พระราชาของเราองค์นี้ไม่นั่งบัลลังก์เลย พระราชาของเราองค์นี้โปรดดินโปรดน้ำเป็นที่สุด นั่นแหละที่ทำให้เราอยากเป็นข้ารองบาททุกชาติไป”
“ส่วนเพลงอื่นๆ นั้นแต่ละค่ายเขาก็จะรับจัดการกันไป ผมทำหน้าที่เป็นเซ็นเตอร์แล้วก็บอกไปว่า ขอเนื้อหาเพลงที่เป็นโพสิทีฟคือไม่ใช่เป็นเพลงที่เทิดพระเกียรติอย่างเดียว เพราะมันจะดูเกร็งไป แต่เป็นเพลงที่ให้กำลังใจ เป็นเพลงรักก็ได้ แต่เป็นเพลงบวกๆ ไม่ใช่เพลงอกหักฟูมฟายเศร้าไม่เอา ผมก็จะช่วยประสานให้เขาซัพพอร์ทในส่วนต่างๆ ให้เขา”
“จากนั้นพอตั้งบริษัทสหภาพดนตรีขึ้นมาก็มีการสานโปรเจกต์นี้ต่อ ทีมงานก็ประสานงานไปยังศิลปินค่ายต่างๆ ให้มาร่วมร้องเพลงเทิดพระเกียรติในอัลบั้มชุดนี้ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่าภูมิใจเพราะทุกคนทุกค่ายมาด้วยใจไม่มีเรื่องเงินเรื่องทอง ในการทำงานครั้งนี้เรามีสปอนเซอร์ก็คือสิงห์ให้ทุนมาทำมาสเตอร์ นักร้องที่มาร้องเพลงตรงนี้ก็ได้แค่ค่ารถค่าเรือไม่ได้ค่าร้อง และไม่มีใครได้เงินค่ามาสเตอร์ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นนักร้องหรือผู้ลงทุนอย่างสิงห์ เพราะรายได้ทั้งหมดเรานำถวายให้ในหลวงหมดโดยไม่มีการหักค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น”
“แต่ด้วยความที่มารวมกันหลายค่ายกว่าคนนี้จะแต่งเพลง กว่าคนนั้นจะได้คิวก็เป็นเรื่องที่ต้องประสานคิวกันยุ่งยากพอสมควร ประกอบกับมาเจอภาวะน้ำท่วมมันก็เลยรวนไปหมด น้ำท่วมห้องอัดบ้าง นักร้องหนีน้ำบ้าง ก็เลยตั้งใจไว้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะต้องแล้วเสร็จเต็มอัลบั้มเดือนเมษายน ถึงอย่างไรก็ยังทัน 84 พรรษา แต่เป็น 84 พรรษากว่าๆ งานชิ้นนี้เป็นการแสดงพลังของคนในวงการดนตรี ถึงแม้จะมีการแข่งขันทางด้านธุรกิจ แต่เมื่อถึงวาระพิเศษเราไม่ใช่คู่แข่ง แต่เราคือคนไทยที่น้อมจะแสดงความจงรักภักดี โดยหลักก็คือถวายความสามัคคีนั่นเอง”
“กับการทำงานครั้งนี้ถึงจะยังไม่เสร็จสมบรูณ์ แต่ผมก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว เพราะศิลปินหลายๆ ค่ายมาร่วมกันทำอัลบั้ม ซึ่งเป็นครั้งแรกที่สามารถรวมตัวกันทำออกเป็นอัลบั้ม เพราะส่วนใหญ่จะแค่มาร้องร่วมกันกับหน่วยงานหนึ่ง แต่ไม่ได้ทำเป็นอัลบั้มออกมาแบบนี้ยังไม่เคยเห็น”
“แต่ถึงจะเลื่อนโปรเจกต์แต่เราก็จะไม่ลืมว่าปีนี้เป็นปีสำคัญ ที่เราต้องเฉลิมฉลองให้พระองค์ท่าน เพราะเป็นปีที่ใหญ่ที่สุดของคนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศของเรา และเป็นปีที่ครบรอบนักกษัตร 7 รอบ 84 พรรษาของพระองค์ท่าน เรียกว่าเป็นปีของพระองค์ท่าน ถ้าเราไม่ทำเพลงเทิดพระเกียรติเพื่อเฉลิมฉลองให้พระองค์ท่านในปีนี้ก็ต้องรอไปอีกหลายปีกว่าพระองค์ท่านจะ 8 รอบ ฉะนั้นปีนี้จึงเป็นปีที่ยิ่งใหญ่และเหมาะสมที่สุดสำหรับการทำงานชิ้นนี้ โดยรายได้ทั้งหมดไม่หักค่าใช้จ่ายจะถวายท่านโดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย”
“แต่ในภาวะตอนนี้มันมีแขกไม่ได้รับเชิญซึ่งก็คือน้ำเข้ามาพอดี เราก็คงต้องเฉลิมฉลองแบบเฉลียวฉลาด เพราะพระองค์ท่านก็รับสั่งมาแล้วว่า ไม่ต้องจัดงานยิ่งใหญ่ แต่นั่นแหละก็ยิ่งทำให้เรารู้สึกว่า ถึงจะไม่จัดยิ่งใหญ่แต่เราก็ต้องระลึกถึงให้มากขึ้น คือไม่ต้องไปทำอะไรที่ฟู่ฟ่าดูสนุกสนานรื่นเริงมันก็ดูไม่ดีกับสถานการณ์ พระองค์ท่านก็คงรู้สึกเช่นเดียวกัน แต่ตัวคนไทยต่างหากที่ต้องดำเนินเดินหน้าต่อไป ไม่ใช่ท่านรับสั่งแบบนี้ก็ไม่ทำเลย เราต้องระลึกถึงท่านและทำให้มากที่สุดเท่าที่ทำ เราต้องเฉลิมฉลองอย่างพอเพียงและระลึกถึงท่านให้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม”
“สิ่งที่ผมทำตอนนี้ก็คือการเผยแพร่ในเฟซบุ๊กซึ่งก็มีคนตามประมาณ 3 หมื่นคน ผมจะนับถอยหลังทุกวัน วันนี้วันที่เท่าไหร่เหลืออีกกี่วันจะถึงวันที่ 5 ธันวาคมแล้วนะ พวกเราน้ำไม่ได้ท่วมก็อย่าลืมนึกถึงท่านบ้าง ถึงแม้น้ำท่วมก็ต้องนึกถึงท่าน เพราะท่านก็ทุกข์เหมือนกันที่เห็นประชาชนน้ำท่วม พวกเราอย่าลืมปีที่สำคัญปีนี้ไป อย่ามัวแต่หงุดหงิดกับความเครียด”
“ผมอยากจะให้ทุกคนช่วยกัน กับเรื่องบางเรื่องที่ไม่ควรนำเสนอก็เอาไว้ก่อนได้ไหม อย่าเพิ่งหาเรื่องทะเลาะกันได้ไหม ให้มันเลยช่วงนี้ไปก่อนได้ไหม ผมเข้าใจว่าอภัยโทษวันที่ 5 ธันวาคมมีทุกปี แต่ไม่ต้องเอาอะไรไปใส่หรือเปลี่ยนแปลงให้เกิดความเครียดในสังคม ถ้าคุณทำตามปกติและไม่ได้มีการแทรกบันทึกอะไรลงไปด้วยมันก็ไม่มีปัญหาในสังคม ถ้าทำให้มันปกติเหมือนทุกปีก็จะไม่มีปัญหา แต่ก็โอเคตอนนี้เขาถอยอะไรไปบ้างแล้วก็ดี ก็คงไม่น่าจะมีอะไรในบรรยากาศที่เป็นปีและเป็นวันที่คนไทยควรจะทำจิตใจให้สดชื่นให้กำลังพระทัยในหลวง เพราะตอนนี้ท่านก็ทรงประชวรด้วย เชื่อว่าท่านก็ทรงไม่ได้มีความสุขมากนักในภาวะที่น้ำท่วมประชาชนเดือดร้อน”
“ผมเองก็มีโอกาสได้ถวายงานทางอ้อม ผมเป็นประธานประชาสัมพันธ์มูลนิธิเพื่อนพึ่ง(ภา)ยามยาก ซึ่งมูลนิธินี้ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นว่าพอเหตุการณ์อะไรจะเป็นหน่วยงานแรกที่เข้าไปถึงเร็วที่สุด ผมก็ได้ทำงานถวายพระองค์โสมฯ ก็ค่อนข้างได้ใกล้ชิดและทำให้ได้รับรู้เรื่องราวต่างๆ ทำให้รู้ว่าเจ้านายเขาดูแลประชาชนยังไงก็เลยอินมากกว่าปกติ ผมก็เลยรู้สึกว่าเจ้านายท่านดูแลเรามานาน เราน่าจะนึกถึงบ้างว่าเราจะดูแลท่านอย่างไรบ้าง ให้กำลังใจพระองค์ท่านบ้าง ท่านทำทุกอย่างไม่ได้ต้องการอะไรตอบแทนจากประชาชน เพราะท่านไม่จำเป็นต้องไปหาเสียงอะไร เพราะฉะนั้นเราทำอะไรก็ควรทำ”
“อย่างผมแต่งเพลงประจำมูลนิธิเพื่อนพึ่ง(ภา)ยามยาก เราจะไปช่วยเวลาที่ท่านเดือดร้อน แต่ฉันเองก็ได้กำไรจากเธอเวลาที่มองตาเธอ เวลาตาเธอขอบคุณฉันด้วยเหมือนกัน คนไทยที่ได้รับการดูแลจากพระองค์ท่านมายาวนานควรได้ขอบพระคุณท่านบ้าง พูดจาภาษาบ้านๆ คือควรเกรงใจท่านบ้าง ระลึกถึงท่านบ้าง ให้กำลังใจท่านบ้าง”
“ท่านทรงเป็นห่วงประชาชนมากไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรกับประชาชน อย่างน้ำท่วมนี่ท่านทรงเปิดทีวีเต็มห้องเลย ห้องประทับควรจะเป็นห้องคนไข้ แต่ท่านก็เป็นห่วงประชาชนเปิดทีวีเต็มไปหมด เสพข่าวสารจนเครียดอย่างที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรงบอก ขนาดผมเองร่างกายแข็งแรงน้ำก็ไม่ได้ท่วมบ้าน แต่ก็เครียดแล้วพระองค์ท่านจะขนาดไหน นี่คือสิ่งที่พวกเราควรระลึกถึงท่านบ้าง”
เผยในขณะที่รัฐบาลเตรียมทำเมกกะโปรเจกต์กู้เงินมหาศาล แต่ในหลวงทรงเตรียมซื้อเมล็ดพันธ์ข้าวให้ชาวนาเพราะรู้ว่าน้ำท่วมแบบนี้ในฤดูกาลทำนาครั้งหน้าเมล็ดพันธ์จะหายากและมีราคาแพง
“ในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมก็เหมือนกัน มันควรจะเป็นระบบที่ทั่วถึง ฟังบางเรื่องแล้วมันหงุดหงิดเดี๋ยวนิคมอุตสาหกรรมจะเสียหายเป็นหมื่นล้านแสนล้าน ก็ไปกั้นให้คนเขาน้ำท่วมเป็นเดือนเป็นปีแล้วก็ไปสร้างบิ๊กบงบิ๊กแบ๊ก แล้วทำไมคุณไม่เจียดเงินให้ไปเลยบ้านและกี่แสน แล้วก็เชิญเขาออกจากบ้านไปอยู่ที่สบายๆ ติดแอร์ให้เย็นๆ ช่วยเหลือให้เหมาะสมกับความเสียหาย เพราะบางพื้นที่มันไม่ใช่จุดน้ำท่วม แต่คุณไปกั้นให้เขาเสียหาย เขาเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่ป้องกันให้คุณ ป้องกันให้คุณไม่เสียแสนล้าน คุณก็ต้องช่วยเหลือเขาดูแลเขาให้ดีๆ พาไปอยู่ที่สบายๆ จ่ายค่าชดใช้ให้เหมาะสมหรือจะปลูกบ้านให้ใหม่ แค่นี้มันก็จบใครมันจะไปมีปัญหา”
“อย่างซอยแจ้งวัฒนะ 14 พอถึงถนนแจ้งวัฒนะแห้ง แต่พอเข้าไปในซอยครึ่งเอว และเขาอยู่อย่างนั้นมาเป็นเดือนและไม่รู้จะอยู่แบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน ไม่มีการชี้แจงบอกกล่าวอะไรเลย เพราะกูกั้นกูปิดซอยมึงเลย น้ำจากซอยมึงจะได้ไม่ออกมาถนน แถมพอน้ำปริ่มถนนปุ๊บสูบกลับเข้าไปในซอยเขาอีก ใครมันจะไม่โกรธวะ แล้วไปบอกเขาว่า อดทนหน่อยเพื่อส่วนรวมบ้าหรือเปล่า นี่คือการบริหารจัดการที่แบบ.............”
“สำหรับรายได้ในการทำอัลบั้มเทิดพระเกียรติครั้งนี้เป็นการถวายพระองค์ท่านโดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย ซึ่งทราบว่าเงินที่ถวายโดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย พระองค์ท่านจะนำเข้ามูลนิธิชัยพัฒนา..ซื้อพันธุ์ข้าวเปลือก ตอนนี้ท่านซื้อเก็บไว้เป็นโกดังๆ ไว้ในห้องทรงงานเต็มไปหมด เพราะเตรียมไว้เวลาน้ำแห้งจะได้พระราชทานให้กับประชาชน ซึ่งไม่รู้ตรงนี้รัฐบาลได้คิดเตรียมอะไรไว้บ้างหรือยัง (ก็เตรียมกู้แสนล้านไง?) แสนล้านบ้าอะไรก็ไม่รู้ ผมว่าตอนนี้น้ำกำลังแช่อยู่ จะไปพูดเรื่องไปเล่นบอลโลกทำไม”
“นี่ก็ใกล้จะถึงวันที่ 5 ธันวาคมแล้ว อย่างที่บอกว่าปีนี้เป็นปีของท่าน ถึงแม้จะมีเรื่องน้ำเข้ามาแทรก แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเราจะต้องละเลยหรือลืมๆ ไป แต่อย่างน้อยๆ ผมว่าในกระแสโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คก็ค่อนข้างตื่นตัวกับวันเฉลิมปีนี้ ซึ่งน่าชื่นใจเพราะส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ การเฉลิมฉลองไม่ได้อยู่ที่พลุดอกไม้แสงสีเสียง อย่างที่พระองค์รับสั่งไม่ให้จัดอะไรใหญ่โต เพราะการเฉลิมฉลองมันไม่ได้อยู่ที่สิ่งเหล่านั้น ไม่ได้อยู่ที่มายืนจุดเทียนถวาย การเฉลิมฉลองควรจะเฉลียวฉลาดนั่นคือการระลึกถึงท่านตลอดเวลา ใครทำอะไรได้ทำเพื่อในหลวง หรือจะเขียนการ์ดซักใบหนึ่งถวายพระองค์ท่านก็โอเคแล้ว”
“อย่าไปยุ่งในสิ่งที่มันไม่ดี ไม่ต้องไปตอบโต้คนที่มันคิดไม่ดี เพราะพวกนั้นมันคือโมหะเพราะอะไรเพราะความสุขของพระองค์ท่านคือการเห็นคนไทยไม่ทะเลาะกัน และคนไทยมีความสุข มีกิน มีอยู่ จิตใจสบาย ความสุขของประชาชนคือความสุขของพระองค์ท่าน นี่คือการเฉลิมฉลองไม่ใช่ยิงพลุแสงสีเสียง 30 ล้าน มันคือความสุขทางใจจะทำให้ประเทศชาติมีความสุข”
“ยิ่งคนที่ทำงานให้ประเทศชาติมีสำนึกในเรื่องนี้ประเทศชาติจะยิ่งเจริญมากกว่านี้ แต่ตอนนี้มันน้อยไป ประเทศเรามันมีแต่คนที่โลภและคนโลภทำเรื่องดียาก คนโลภมันไม่มีทางไปจ่ายอะไรใครหรอก ไม่จ่ายเพื่อช่วยเหลือใครหรอกเพราะไม่มีใจให้ใคร มีเงิน 50 ล้านจ่ายมา 3 ล้านเพื่อสังคม บางคนมีหมื่นล้านจ่ายแสนเดียว จะว่าไปแล้วน้ำท่วมนี่วัดผู้คนได้เยอะเหมือนกันนะ วัดกึ๋นด้วย วัดใจด้วย”