xs
xsm
sm
md
lg

สะเทือนวงการสื่อผู้ดี "ฮิวจ์ แกรนต์" ให้ปากคำประเด็นหนังสือพิมพ์ดักฟังโทรศัพท์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


"ฮิวจ์ แกรนต์" ได้ขึ้นให้ปากคำในคดีอื้อฉาวของวงการสื่อมวลชนเมืองผู้ดี เพื่อเปิดเผยถึงด้านมืดของชีวิตแห่งการเป็นคนดัง ที่ต้องถูกรุกล้ำล่วงละเมิดความเป็นส่วนตัว ทั้งถูกบุกรุกบ้าน, ลักลอบเปิดเผยข้อมูลทางการแพทย์ และแฮคข้อความทางโทรศัพท์ โดยเขาไม่ได้กล่าวโทษเพียงแต่หนังสือพิมพ์ News of the World ที่ต้องปิดตัวไป แต่รวมถึงวงการสื่อแนวแท็บลอยด์ของอังกฤษทั้งหมด

การขึ้นให้การของ ฮิวจ์ แกรนต์ เมื่อวันที่ 21 พ.ย. ได้รับการจับตามองเป็นอย่างมาก นับเป็นจุดที่วงการสื่อสารมวลชนในอังกฤษต้องเผชิญกับการถูกสังคมทั้งคำถามถึงการทำงานและจรรยาบรรณอย่างหนักหน่วงแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ซึ่ง แกรนต์ กล่าวในการให้การว่าเขาเชื่อว่าโทรศัพท์ของตนเองถูกดักฟังโดยหนังสือพิมพ์ Britain's Mail on Sunday นับเป็นครั้งแรกที่เขากล่าวถึงพฤติกรรมการลับลอบขโมยข้อมูลส่วนตัว ของหนังสือพิมพ์อื่น ๆ นอกเหนือจากที่มี รูเพิร์ต เมอร์ด็อก เป็นเจ้าของ

แกรนต์ ได้หยิบยกถึงคราวที่หนังสือพิมพ์นำเสนอเรื่องความรักของเขา ว่าคิดไม่ออกเหมือนกันว่าจะมีทางใดที่หนังสือพิมพ์จะได้เรื่องราวที่ว่าความสัมพันธ์ของเขากับ เจไมมา คาห์น แฟนสาวในขณะนั้นกำลังสั่นคลอน นอกจากข้อความที่เพื่อนสนิทที่เป็นผู้ช่วยผู้อำนวยการสร้างคนหนึ่งส่งมาให้กับเขา

ซึ่งแกรนต์ได้ทำการฟ้องร้องหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นไป และชนะคดีในที่สุด อย่างไรก็ตามข้อกล่าวหาของดาราชื่อดังชาวอังกฤษ ก็ถือว่ายากที่จะหาหลักฐานมายืนยัน แต่เขาก็เชื่อว่ามันเกิดขึ้นจริง "แต่ผมเองก็อยากจะฟังว่า Daily Mail หรือ Britain's Mail on Sunday จะอธิบายถึงเรื่องแหล่งข่าวว่ายังไง ถ้าไมได้บอกว่าเอามาจากการดักฟังทางโทรศัพท์"

ในการให้ปากคำที่กินเวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง พระเอกชื่อดังวัย 51 ปี ยังเล่าเรื่องราวการถูกล่วงล้ำชีวิตส่วนตัวตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยมีจุดเริ่มต้นหลังจากเขาแจ้งเกิดมีชื่อเสียงในระดับโลกจากหนังฮิต Four Weddings and a Funeral ในปี 1994 ในเหตุการณ์ที่มีบุคคลลึกลับบุกรุกเข้าไปในอพาร์ทเมนต์ของเขา แม้จะไม่ได้มีอะไรสูญหายไป แต่ไม่นานหลังจากนั้นหนังสือพิมพ์แท็บลอยด์ฉบับหนึ่ง กลับบรรยายรายละเอียดถึงอพาร์ทเมนต์ของเขาได้อย่างละเอียดและถูกต้อง

แกรนต์ ยังพูดถึงกรณีล่าสุด เรื่องลูกของเขาที่เกิดจาก หงถิงหลัน แฟนสาวเชื้อสายจีน ซึ่งเป็นที่สนอกสนใจของบรรดาสื่อมวลชนทุกสำนัก จนเขาต้องขออำนาจของศาลเพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวเอาไว้ "ผมคิดว่าคงไม่มีใครอยากจะให้ประวัติทางการแพทย์ของตัวเองถูกเผยแพร่ในสื่อสาธารณะ หรือตกไปอยู่ในมือหนังสือพิมพ์เพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจหรอกนะครับ มันคือพื้นฐานของความถูกตามทำนองคลองธรรม สำหรับสังคมสหราชอาณาจักรของเรา" นักแสดงชื่อดังยอมรับว่า เพื่อการรักษาความเป็นส่วนตัว เขาไม่สามารถเดินทางไปในวันที่ลูกลืมตาดูโลกเมื่อปลายเดือน ก.ย. ได้แต่ต้องรอไปอีก 1 วันจึงจะได้เดินทางไปที่โรงพยาบาล

แต่สุดท้ายข้อมูลเกี่ยวกับทายาทของเขาก็หลุดไปถึงสื่อจนได้ "รู้สึกว่ามันจะหลุดไปจากทางโรงพยาบาลครับ พวกเขารู้กระทั่งว่าเธอ (หงถิงหลัน) ใช้ชื่อปลอมอะไรในการเข้าโรงพยาบาลครั้งนี้"

นายกรัฐมนตรี "เดวิด แคเมอรอน" ได้สั่งให้มีการสอบสวนขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาจรรยาบรรณของสื่อในอังกฤษ หลังจาก "รูเพิร์ต เมอร์ด็อก" เจ้าพ่อสื่อคนดังต้องตัดสินใจปิดหนังสือพิมพ์ News of the World เมื่อมีหลักฐานชัดเจนว่า ทีมงานของหนังสือพิมพ์ดังอายุยืนกว่า 100 ปีเล่มนี้มีพฤติกรรมดักฟังโทรศัพท์ บุคคลสาธารณะ, ดารา หรือกระทั่งเหยื่อของอาชญากรรมเพื่อเป็นข้อมูลในการเขียนข่าว

โดยคณะกรรมการสอบที่มีผู้พิพากษา ไบรอัน เลเวสัน เป็นผู้ดำเนินการมีแผนจะนำเสนอรายงานในช่วงปีหน้า และว่ากันว่าจะทำให้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมสื่อสารมวลชนอังกฤษ โดยเฉพาะประเด็นระเบียบข้อบังคับในการทำข่าว

ซึ่ง ฮิวจ์ แกรนต์ คือหนึ่งในตัวตั้งตัวตีจากวงการบันเทิงในการรณรงค์ต่อต้านการล่วงละเมิดสิทธิส่วนตัวของสื่อมวลชน เขายังเรียกร้องให้องค์กรวิชาชีพกำหนดกฎระเบียบที่เข้มงวดมากกว่านี้ "มีส่วนในหนังสือพิมพ์ของเรา ที่เหมือนเป็นพิษร้ายในสื่อมามากกว่า 20 - 30 ปีมาแล้ว" นักแสดงชื่อดังกล่าวอย่างหนักแน่น พร้อมกระตุ้นให้อังกฤษต้องลุกขึ้นยืนเพื่อต่อสู้กับสื่อแท็บลอยด์จอม "อันธพาล" พวกนี้ได้แล้ว

นอกจาก แกรนต์ แล้วยังมีพยานเป็นคนดังในวงการบันเทิงอีกหลายรายที่เตรียมขึ้นให้การไม่ว่าจะเป็นดาราสาว เซียนน่า มิลเลอร์ และนักเขียนชื่อดัง เจ.เค. โรวลิ่ง ซึ่งพร้อมจะให้ข้อมูลว่าพวกเธอถูกละเมิดความเป็นส่วนตัวอย่างไร ทั้งจากการสะกดรอยตาม, แอบถ่ายภาพ, ข่มขู่ โดยนักข่าวของสื่อแนวแท็บลอยด์ที่แต่ละเล่มมียอดขายระดับหลายล้านฉบับต่อวัน

อย่างไรก็ตามไม่ใช่เพียงคนดังเท่านั้น แต่ผู้ปกครองของเด็กสาววัย 13 ปี "มิลลี่ โดว์เลอร์" ที่หายตัวไป ก็กลายเป็นเหยื่อของการดักฟังโทรศัพท์ด้วย และพวกเขาก็ได้ขึ้นให้การเช่นเดียวกัน

พ่อแม่ของ มิลลี่ ดาวเลอร์ ต้องทนทุกข์อยู่กับการหายตัวไปของลูกสาวตั้งแต่เมื่อปี 2002 แต่พวกเขากลับมีความหวังขึ้นอีกครั้งว่าลูกสาวอาจจะยังมีชีวิตอยู่ เมื่อวันหนึ่งสามารถส่งข้อความไปยังโทรศัพท์มือถือของลูกได้ ทั้ง ๆ ที่ Mailbox ในโทรศัพท์ควรจะเต็มไปแล้ว

แต่สุดท้ายพ่อและแม่ของ ดาวเลอร์ จึงต้องหัวใจแตกสลายอีกครั้ง เมื่อความหวังพังทลายลงหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า มิลลี่ โดว์เลอร์ ได้เสียชีวิตไปแล้ว และกลายเป็นว่าคนที่คอยลบข้อความในโทรศัพท์ก็คือคนในหนังสือพิมพ์ News of the World ที่ได้แฮคเข้าไปในกล้องข้อความเสียงของโทรศัพท์ที่สาวน้อยซึ่งหายตัวไปเป็นเจ้าของนั่นเอง ...

ซึ่ง บ๊อบ และเซลลี่ โดว์เลอร์ คือพยานรายแรกที่ขึ้นให้ปากคำในช่วงวันจันทร์ที่ผ่านมา และตอบคำถามกินเวลาไปประมาณ 30 นาที ซึ่งทั้งสองกล่าวว่าไม่ได้มีแค่เพียงเรื่องการถูกแฮคข้อความเสียงทางโทรศัพท์เท่านั้น แต่ตนเองยังถูกช่างภาพแอบถ่ายรูปขณะกำลังพยายามตามหาลูกสาวด้วย "มันเหมือนกับว่าเราถูกรุกล้ำ เข้าไปในความเศร้าโศกที่เป็นส่วนตัวมาก ๆ"

เรื่องอื้อฉาวครั้งนั้นทำให้มีการตั้งข้อหานักข่าว และกองบรรณาธิการของ News of the World มากกว่า 10 คน นอกจากนั้นผู้บริหารที่ระดับสูงหลายคนยังต้องลาออก ยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงของตำรวจลอนดอนอีก 2 รายที่ตกงาน เช่นเดียวกับที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีแคเมอรอน และหนังสือพิมพ์ที่ตีพิมพ์ครั้งแรกตั้งแต่ปี 1843 ก็ต้องปิดตัวลงในที่สุด

ในสัปดาห์นี้ยังจะมีคนดังอย่าง "เจ.เค. โรวลิ่ง", ดาวตลก "สตีฟ คูแกน" และ "แม็กซ์ มอสลีย์" อดีตประธานสหพันธ์ยานยนต์นานาชาติ ที่เคยถูกสื่อมวลชนเปิดเผยรสนิยมทางเพศประเภทเซ็กซ์วิตถาร จะขึ้นให้ปากคำด้วย

ซึ่ง AP ให้ความเห็นว่าตามปกติคดีความที่มีคนดังเกี่ยวข้องมากมายเช่นนี้ น่าจะเป็นที่สนอกสนใจของบรรดาสื่อแท็บลอยด์ของอังกฤษ หากพวกเขาจะไม่ต้องมาเกี่ยวข้องด้วยโดยตรงเช่นนี้

เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ ""ซ้อ 7"ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย
ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540
ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก
ระบบ True Move และ Hutch - เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000
*ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก

ฮิวจ์ แกรนต์




News of the World ต้นตอของเรื่องนี้
บ๊อบ และ เซลลี่ โดว์เลอร์

กำลังโหลดความคิดเห็น