xs
xsm
sm
md
lg

“ชมพู่” จุก โดนจวกโอเวอร์ซื้อนาฬิกาเรือน 5 ล้านให้ “น็อต” สวนกลับแล้วไง!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ชมพู่” จุก โดนจวกโอเวอร์ซื้อนาฬิกาเรือน 5 ล้านให้ “น็อต” เป็นของขวัญวันเกิด ย้อนถ้าซื้อให้แล้วไง! แจงถ้าคนที่รวยกว่าคงไม่รู้สึกอะไร แต่สำหรับคนที่มีน้อยกว่าอาจมองว่าฟุ่มเฟือย ตอกตอนนี้คงไม่ใช่เวลามานั่งสนใจว่าดาราใช้เงินไปทำอะไร

ทำเอานางเอกสาว “ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เกต” ถึงกับเซ็ง หลังโดนชาวเน็ตจวกยับ กรณีที่เจ้าตัวควักเงินซื้อนาฬิกาเรือน 5 ล้านบาท เป็นของขวัญวันเกิดให้กับแฟนหนุ่มนักธุรกิจ “น็อต วิศรุต รังษีสิงห์พิพัฒน์” เพราะดูโอเวอร์ฟุ้งเฟ้อเกินไป งานนี้สาวชมขอเงียบปาก ไม่อยากพูดถึงให้เป็นประเด็นอีก ก่อนจะสวนกลับบ้างว่า ถ้าซื้อให้จริงแล้วไง!

“ไม่จริงค่ะ ถามว่ามีการซื้อนาฬิกาให้กันจริงมั้ย คือชมไม่อยากพูดเรื่องของขวัญแล้ว ตั้งแต่ตอนวันเกิดก็ไม่ได้พูดอะไร มันมีหลายกระแสเข้ามา แต่ตัวชมเองก็ไม่ได้พูดอะไรมากมาย แต่ก็ยังมีกระแสวิจารณ์อะไรต่างๆ มากมาย คือชมรู้สึกว่า ถ้าเราซื้อกันจริง แล้วไงอ่ะ คือคนที่เขามีมากกว่าเราเขาจะรู้สึกแล้วไงเหรอ แต่ถ้าคนมีน้อยกว่าเราอาจจะมองว่าฟุ่มเฟือย หรือเขาก็จะวิจารณ์เราอีกแบบหนึ่ง ทั้งนี้ทั้งนั้นเขาก็ไม่ได้บอกนะว่าซื้อหรือไม่ได้ซื้อ แล้วอีกอย่างตอนนี้ชมคิดว่าตอนนี้มันไม่ใช่เวลาที่เราจะมานั่งโฟกัสกันว่าดาราคนไหนใช้เงินกับเรื่องอะไร”

เผยโรงงานของ “น็อต” ยังไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม แต่อาจจะเจอน้ำระลอกใหม่ ซึ่งก็เตรียมความพร้อมไว้แล้ว

“ยังอยู่ค่ะ ตอนนี้โรงงานยังแห้งอยู่ ตอนนี้มี2อย่างคือเราเชื่อว่าน้ำได้ผ่านตรงนั้นมาแล้ว แต่ก็ยังกังวลว่าอาจจะมีอีกมวลหนึ่ง เพราะฉะนั้นมันยังแป็นไปได้ทั้ง2ทาง ยังไม่ได้หยุดสร้างคันกั้นน้ำ ยังสร้างเรื่อยๆ ทั้งด้านสูงและความกว้าง คุณน็อตช่วงนี้ก็เหนื่อยหน่อยน่ะค่ะ เพราะคนอื่นเขาก็เหนื่อยกันทั้งประเทศ ใครๆ ก็ต้องเผชิญกับเรื่องนี้ เพราะฉะนั้นยังถือว่าเรายังโชคดีกว่าหลายๆ คน ตอนนี้ทั้งน็อตและชมก็เครียด คนทั้งประเทศก็เครียด เพราะมันเป็นมานานแล้ว แต่ก็พยายามไม่เครียดเยอะ ต้องระมัดระวังและเตรียมรับมือมากกว่า”

เตรียมย้ายพ่อที่ป่วยเป็นโรคหัวใจไปอยู่ที่โรงพยาบาล หวั่นเป็นอะไรกะทันหันขึ้นมาจะได้ไม่ลำบาก

“ตอนนี้ก็มีสต๊อกอาหารบ้าง ล่าสุดก็คุยกับคุณพ่อคุณแม่คือถ้าไม่ดีจะเอาคุณพ่อมาแอดมิดที่โรงพยาบาลจะดีกว่า คุณพ่อสุขภาพโอเคค่ะ แต่สมมติว่าเกิดอะไรขึ้นจะเราอพยพไม่ทันลำบาก เพราะคุณพ่อเป็นคนตัวใหญ่ แล้วก็โดนน้ำไม่ได้ เป็นเบาหวานด้วย ตอนนี้กำลังเครียดอยู่ว่าจะให้อยู่โรงพยาบาลเมืองไทยดีกว่าเป็นห่วงคุณพ่อมาก เวลานี้ที่บ้านยังแห้งอยู่ แต่รู้สึกว่าน้ำมันเข้าใกล้เรามากขึ้นทุกที และชมไม่อยากไปแก้ไขอะไรตอนที่มันสายแล้ว เพราะอย่างที่บอกคนปกติยังอพยพกันลำบาก แล้วพ่อตัวใหญ่มีโรคประจำตัวด้วยเราเตรียมพร้อมไว้จะดีกว่า”

“ตอนนี้คงเป็นกันทั้งประเทศ ได้รับอิทธิพลเรื่องน้ำท่วมกันหมด ตอนนี้คนกรุงเทพก็เริ่มจะรู้ซึ้งแล้วว่าที่ผ่านมาคนจังหวัดอื่นต้องเผชิญกับความกดดันอย่างไง ยังไงสิ่งที่สำคัญคืออยากให้ทุกคนสามัคคีกัน บางทีเวลาที่เราลงไปช่วยเหลือ หรือมีหน่วยอะไรลงไปช่วย สิ่งที่ส่งไปมันอาจจะไม่เพียงพอ เพราะความยากลำบาก สิ่งจำกัดในการเข้าถึงพื้นที่มันลำบากมาก”

“ก็อยากให้ทุกคนสามัคคีกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก สภาพแวดล้อมมันไม่น่าอยู่อยู่แล้ว แต่คนที่อยู่ด้วยกันยิ่งต้องทำให้มันอยู่ได้ ไม่ใช่ว่าโหยน้ำก็ท่วมเริ่มเน่าอาหารก็มีน้อยคนก็ยังแย่งกินเกลียดกัน มันยิ่งทำให้มันไม่น่าอยู่และเพิ่มความตึงเครียด สิ่งสำคัญคือสามัคคีและแบ่งปันกันค่ะ”


กำลังโหลดความคิดเห็น