“พีท ทองเจือ” ชวนก๊วนเพื่อนจัดดริฟท์รถเปิดหมวกรับบริจาคช่วยน้ำท่วม ลั่นรายได้ทั้งหมดไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆ จะนำไปช่วยซ่อมแซมเขื่อน-ถนน-สะพานและซื้อเรือเป็นหลัก โดยเน้นพื้นที่ห่างไกลที่ความช่วยเหลือยังเข้าไม่ถึง
ช่วงนี้ดารา-ศิลปินในวงการบันเทิง หรือแม้แต่บุคคลสาธารณะต่างรวมใจมีจิตอาสาออกมาช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมตามจังหวัดต่างๆ ในประเทศไทย ล่าสุดหนุ่ม “พีท ทองเจือ” เองก็ลุกขึ้นมาจัดกิจกรรมสุดเก๋ดริฟท์รถเปิดหมวกรับบริจาคขึ้นในวันที่ 9 ตุลาคม ที่จะถึงนี้ ณ สนามBRC หลังห้างสรรพสินค้าซีคอนสแควร์ ถนนศรีนครินทร์ โดยเจ้าตัวตั้งใจจะนำเงินที่ได้ไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆ นำไปซ่อมแซม เขื่อน ถนน สะพาน และซื้อเรือเป็นหลัก
“ที่ทำให้อยากมาทำเพราะวันก่อนดูทีวีแล้วเห็นมีแต่น้ำไปหมดเลย คนไปอยู่บนหลังคาบ้าน ทุกคนเดือดร้อนกันหมดเลย แต่เราสิขณะที่เราขับรถอยู่ถนนที่วิ่งก็ไม่มีน้ำ แอร์ก็เย็นก็มาคิดว่าทำไมชีวิตเราถึงเป็นแบบนี้ ในขณะเดียวกันชีวิตของเพื่อนมนุษย์หลายๆ คนถึงไม่เป็นแบบเดียวกัน ผมก็เลยบอกกับภรรยาผมว่าเราคงต้องลุกขึ้นมาอะไรสักอย่าง”
“โดยผมเริ่มต้นจากการใช้เฟซบุ๊คขึ้นสถานะว่าคนเขาลำบากกันขนาดนี้ ผมคงไม่มาอยู่เฉยๆ วันอาทิตย์ผมจะเอารถออกไปพื้นที่ตรงนี้นะ จะเอารถไปวิ่งดริฟท์โชว์ขอรับบริจาค น้องๆ ที่ทราบข่าวก็มีขอตามไปอีก 6 คัน คนอื่นที่เขาได้ยินก็ตามมาช่วยกันก็ต้องขอบคุณโซเชียลเน็ตเวิร์คด้วยที่มันทำให้การทำงานตรงนี้ได้ผม เป็นการใช้ที่ได้บุญและได้ประโยชน์ที่สุดตั้งแต่เคยใช้มา”
“เรามีความถนัดในการขับรถ ก็ไม่ทราบว่าจะใช้วิธีไหนดี นอกจากการขับรถโชว์แล้วก็รับบริจาคไปด้วย อย่างที่ผ่านมา ตอนที่ไปดริฟท์เปิดหมวกครั้งที่ 1 เราไปทำกันริมถนน หน้าตลาดสดได้รับเสียงตอบรับที่ดีมาก เราใช้เวลากันประมาณ 4 ชั่วโมงกว่าได้เงินมาประมาณ 5.5 หมื่น ก็รู้สึกว่าการที่เราจริงใจและตั้งใจทำแล้วมันดี ผู้ใหญ่ก็เล็งเห็นความความจริงใจที่เราพยายามทำ ก็เลยเป็นที่มาของการบอกบุญที่ใหญ่ขึ้น เลยมีการปิดสนามแข่งอย่างเป็นทางการ มีการตกแต่งสนามแข่งใหม่อลังการเลย แล้วก็มีสื่อต่างๆ มาช่วย คือถ้าผมเล่นดนตรีเป็นผมก็จะเอากีต้าร์ไปเล่นที่สยามสแควร์เพื่อที่จะขอเงินบริจาค แต่เผอิญผมถนัดขับรถก็เลยใช้วิธีนี้ ก็นึกไม่ถึงว่าจะมีเสียงตอบรับมากมายขนาดนี้ ต้องขอขอบคุณมากๆ ครับ”
“ดริฟท์เปิดหมวกนี่ถือเป็นสิ่งแปลกใหม่ของโลกเลย ปกติคนจะเห็นแต่นักดนตรีที่ทำงานกันในลักษณะนี้ จริงๆ แล้วความคุ้มค่านักแข่งที่มาทำงานนี้แทบจะไม่มีเลย ยางเส้นละ 5 พันบาท คู่หลังอย่างเดียวก็ 1 หมื่นแล้ว เวลาดริฟท์จริงๆ วิ่งไม่ถึงชั่วโมงก็หมดแล้ว น้ำมันที่ใช้ลิตรละ 80 บาท ความสึกหรออะไรหลายๆ อย่างยังมีอีกเยอะ แต่เราไม่ได้มองเรื่องนั้น เราคิดแค่ว่าอยากจะทำยังไงก็ได้ให้มีเงินเยอะๆ มาช่วยเหลือคนที่เขากำลังลำบากมากกว่าเรา ตรงนี้เป็นประเด็นที่ผมอยากลุกขึ้นมาทำ”
เผยรายได้จากการรับบริจาคจะนำไปซื้อเรือให้พื้นที่ห่างไกลที่หลายองค์กรยังเข้าไม่ถึง ทำถนนใหม่ และซ่อมแซมเขื่อน
“วันนั้นเขาก็ได้เห็นนักแข่งไปดริฟท์รถแล้วถอดหมวกมารับบริจาค ผมว่ามันเป็นภาพที่ไม่มีที่ไหนมาก่อน เพราะคนที่ขับแข่งรถดูแล้วไม่น่าจะมาเกี่ยวข้องกับสิ่งเหล่านี้ได้เลย ผมว่ามันเป็นไปได้ถ้ามีคนลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่าง ก็หวังว่าวันที่ 9 ตุลาคม ที่จะถึงนี้ จะได้รับการตอบรับที่ดีเข้ามาช่วยกัน นี่ก็เป็นหนทางเล็กๆ อีกหนทางนึงที่เราพอจะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันได้ แล้วผมก็จะไปลงพื้นที่ด้วยตัวเองด้วย เพราะผมอยากให้มีความโปร่งใสในการรับบริจาค ซึ่งเราจะไปลงพื้นที่ในที่ที่หลายๆ ที่เข้าไม่ถึง เราจะพยายามออกไปให้ได้ไกลที่สุด ตอนนี้เราพยายามหาเรือ พวกอาหารต่างๆ คนบริจาคเยอะแล้ว สิ่งที่เราต้องการต่อจากยาและอาหารคือเรือ”
“ทุกพื้นที่มันกลายเป็นทะเลไปแล้ว เพื่อนมนุษย์คนอื่นๆ ต้องไปอาศัยอยู่ตามต้นไม้ หลังคาบ้านเพราะไม่มีเรือ ผมก็อยากจะไปช่วยตรงนี้ แล้วเราเองก็ตั้งใจที่จะทำถนนที่ตัดขาดไป คิดว่าคงจะเป็นแถวอุทัยธานีและพิจิตร และอีกหลายๆ จังหวัดถ้าเรามีกำลังพอ แล้วเราก็จะไปซ่อมเขื่อนด้วย แล้วก็มีเรื่องของเรือ ขึ้นอยู่ว่าวันอาทิตย์นี้เราจะทำตัวเลขกันได้มากน้อยแค่ไหน”