ซีรีส์เรื่อง Mad Men กลายเป็นผู้ชนะในสาขาซีรีส์ประเภทดราม่ายอดเยี่ยมถึง 4 ปีติดต่อกันแล้ว ขณะที่ซีรีส์ตลก Modern Family คือผลงานที่กวาดรางวัลไปมากที่สุดในงานประจำปี 2011 ของ "เอมมี่" ที่ถือว่าเป็นการแจกรางวัลในครั้งที่ 63 กันแล้ว
ซีรีส์ย้อนยุค Mad Men ที่เล่าเรื่องช่วงปี 60s ของนักโฆษณาผู้ประสบความสำเร็จ ยังคงเป็นขวัญใจของนักวิจารณ์และคณะกรรมการผู้แจกรางวัลเอมมี่ เมื่อผลงานของ Lionsgate Television เรื่องนี้ สามารถคว้ารางวัลซีรีส์ดราม่ายอดเยี่ยมไปครองได้อีกครั้ง และนับเป็นปีที่ 4 ติดต่อกันแล้ว โดยเป็นการเอาชนะคู่แข่งแข็งอย่าง ๆ Boardwalk Empire และ Friday Night Lights ไปได้ด้วย
ส่วนรางวัลในสาขานักแสดงนำชายถือเป็นเรื่องพลิกความคาดหมายเล็กน้อย เมื่อผู้ชนะกลายเป็น ไคล์ แชนด์เลอร์ จาก Friday Night Lights แม้จะต้องแข่งขันกับนักแสดงยอดฝีมือที่มีชื่อเสียงโด่งดังกว่าเขาเป็นส่วนใหญ่ อาทิ สตีฟ บุสเชมี (Boardwalk Empire), ไมเคิล ซี. ฮอลล์ (Dexter), จอน แฮม (Mad Men) และ ฮิวจ์ ลอรี (House) ก็ตาม
"ผมคิดว่าตัวเองคงไม่ได้มายืนอยู่ตรงนี้ เลยไม่ได้เขียนอะไรเตรียมไว้เลย และเริ่มกังวลขึ้นมาหน่อย ๆ แล้วครับ" แชนด์เลอร์ กล่าวระหว่างขึ้นรับรางวัล โดยก่อนหน้านี้ นักแสดงวัย 45 ปี อาจจะเคยเป็นที่จดจำได้จากผลงานอย่าง Early Edition หรือภาพยนตร์เรื่อง King Kong แต่นับว่า Friday Night Lights คืองานที่ทำให้เขาโด่งดังมากที่สุด กับซีรีส์ที่มีเนื้อหาว่าด้วยความเข้มข้นของการแข่งขันอเมริกันฟุตบอลในระดับมัธยม
ด้านรางวัลนักแสดงนำหญิงตกเป็นของ จูเลียน่า มาร์กูลี่ส์ จาก The Good Wife หลังจากก่อนหน้านี้เธอเคยคว้ารางวัลสาขานักแสดงสมทบหญิงจาก ER เมื่อปี 1995 มาแล้ว
มาดูรางวัลกลุ่มซีรีส์ประเภทตลกกันบ้าง เมลิสซา แม็คคาร์ธีย์ แห่ง Mike & Molly คว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงไปครอง ส่วน จิม พาร์สันส์ หรือ "ดร. เชลดอน คูเปอร์" แห่งซีรีส์ที่ว่าด้วยกลุ่มนักวิทยาศาสตร์สุดเนิร์ด The Big Bang Theory ก็คว้ารางวัลนักแสดงนำชายเป็นปีที่ 2 ติดต่อกันแล้ว ... "ถือเป็นเรื่องประหลาดด้วยหลาย ๆ เหตุผลนะครับ เพราะเคยมีหลาย ๆ คนเคยมั่นใจว่าเรื่องแบบนี้ไม่มีทางเกิดขึ้นกับชีวิตของผมหรอก" พาร์สันส์ กล่าวระหว่างขึ้นรับรางวัล
อย่างไรก็ตามผู้ชนะตัวจริงในงานสำหรับสาขาซีรีส์ตลก คงจะเป็น Modern Family ที่กวาดรางวัลไปถึง 5 ตัว ทั้งซีรีส์ตลกยอดเยี่ยม, นักแสดงสมทบชายและหญิง, การกำกับ รวมถึงรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมด้วย
ไท เบอร์เรล ผู้คว้ารางวัลนักแสดงสมทบชายจาก Modern Family กล่าวระหว่างขึ้นรับรางวัลถึงพ่อผู้ล่วงลับของเขาว่า "ความจริงแล้วผมเริ่มต้นอาชีพนักแสดงค่อนข้างช้านะครับ พ่อเสียชีวิตไปก่อนที่จะเห็นการแสดงของผม จนอดคิดไม่ได้จริง ๆ ว่าท่านจะคิดว่ายังไงบ้าง ... ที่ลูกชายไปทำงานที่ต้องแต่งหน้าแต่งตาแบบนี้"
ส่วนในสาขามินิซีรีส์ หรือหนังที่สร้างสำหรับฉายทางโทรทัศน์โดยเฉพาะนั้น มีผลงานเด่น ๆ เข้าชิงหลายเรื่อง ทั้ง The Pillars of the Earth ที่ดัดแปลงมาจากนิยายดังของ เคน ฟอลเล็ต, Too Big to Fail ซึ่งเล่าถึงเรื่องวิกฤติเศรษฐกิจในปี 2008, Mildred Pierce หนังที่พูดถึงชีวิตของแม่คนหนึ่งในช่วงยุคเศรษฐกิจตกต่ำ, Cinema Verite กับเรื่องราวเบื้องหลังทีมงานถ่ายทำสารคดีในยุค 1970s และ The Kennedys หนังประวัติศาสตร์เกี่ยวกับครอบครัวนักการเมืองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตระกูลหนึ่งของประเทศ
ซึ่งสุดท้ายกลายเป็น Downton Abbey ซีรีส์ย้อนยุคจากอังกฤษที่เล่าถึงชีวิตของผู้คนในแวดวงชั้นสูงที่ผลิตโดย Carnival Films สำหรับฉายทาง ITV ของอังกฤษ ที่คว้ารางวัลสูงสุดไปครอง ส่วน เคท วินสเลต จาก Mildred Pierce รับรางวัลนักแสดงนำหญิง และ แบร์รี เปปเปอร์ ที่สวมบทบาทเป็น โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนอดี ใน The Kennedys รับรางวัลนำแสดงชาย
ในสาขารายการประเภทเรียลลิตี้ The Amazing Race กลับมาคว้ารางวัลไปครองอีกครั้ง หลังจากปีก่อนต้องพ่ายแพ้ให้กับ Top Chef โดยนับแต่มีการริเริ่มรางวัลสาขานี้ขึ้นมาเมื่อปี 2003 ก็นับว่า The Amazing Race ที่มีผู้อำนวยการสร้างคนดัง เจอรี บรัคไฮเมอร์ เป็นเจ้าของสามารถคว้ารางวัลไปครองได้ถึง 8 ครั้ง จากการแจกรางวัลสาขานี้มาถึง 9 ครั้งกันเลยทีเดียว
สำหรับเรื่องราวนอกเหนือจากผลรางวัล ประเด็นที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุดเห็นจะเป็น การตัดมุขตลกของดารารุ่นใหญ่ อเล็ค บัลด์วิน ที่เขาพูดแซวถึงเหตุการณ์ที่บริษัทสื่อยักษ์ใหญ่ News Corp. ที่ต้องตกเป็นประเด็นฉาวเรื่องการดักฟังโทรศัพท์ออกจากการถ่ายทอด
ซึ่งตัวของ บัลด์วิน กล่าวผ่านทวิตเตอร์ว่าการที่มุขตลกเกี่ยวกับเรื่องของหนังสือพิมพ์ News of the World แห่งอังกฤษของเขาถูกตัดทิ้ง ก็เพราะสถานีช่อง FOX ผู้ดำเนินการถ่ายทอดสด ก็คือส่วนหนึ่งของ News Corp. ด้วยเหมือนกัน แต่ตัวแทนของ Fox กลับให้ความเห็นในด้านตรงกันข้าม ว่าทางสถานีตัดมุขตลกที่ว่าทิ้ง เพราะไม่ต้องการให้มีการนำประเด็นที่รุนแรงอย่างการดักฟังโทรศัพท์ มาทำให้เป็นเรื่องตลกเล่น ๆ แบบนั้นต่างหาก
นอกจากนั้นการขึ้นเวทีเอมมี่ เพื่อประกาศรางวัลสาขานักแสดงนำชายโดย ชาร์ลี ชีน ก็ได้รับการจับตามองเป็นอย่างมาก จากเหตุที่นักแสดงวัย 45 ปีสร้างเรื่องอื้อฉาวมากมาย จนถูกผู้ผลิตซีรีส์ Two and a Half Men ไล่ออกจากงานเมื่อหลายเดือนก่อน และลงเอยที่มีการดึงตัวดาราหนุ่ม แอชตัน คุตเชอร์ เข้ามารับบทนำแทน
อย่างไรก็ตามบนเวทีเอมมี่ครั้งนี้ ชาร์ลี ชีน ไม่ได้สร้างปัญหาอะไรใหม่ขึ้นมาอีก นอกจากกล่าวแสดงความหวังดีไปถึงทีมนักแสดง และเบื้องหลังของ Two and a Half Men ที่ฤดูกาลใหม่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น ... "จากก้นบึ้งของหัวใจ ผมขออวยพรสำหรับซีรีส์ในฤดูกาลต่อไป ผมรู้ครับว่าพวกคุณจะสามารถทำรายการโทรทัศน์เยี่ยม ๆ ต่อไปได้แน่นอน" ชีน กล่าว
สาขาดราม่าซีรีส์
ดราม่ายอดเยี่ยม: "Mad Men"
นักแสดงนำหญิง: จูเลียน่า มาร์กูลี่ส์ -"The Good Wife"
นักแสดงนำช่าย: ไคล์ แชนด์เลอร์ -"Friday Night Lights"
นักแสดงสมทบชาย: ปีเตอร์ ดิงค์เลจ -"Game of Thrones"
นักแสดงสมทบหญิง: มาร์โก มาร์ตินเดล -"Justified"
สาขาซีรีส์ตลก
ซีรีส์ตลกยอดเยี่ยม: "Modern Family"
นักแสดงนำหญิง: เมลิสซา แม็คคาร์ธีย์ -"Mike & Molly"
นักแสดงนำชาย: จิม พาร์สันส์ -"The Big Bang Theory"
นักแสดงสมทบชาย: ไท เบอร์เรล -"Modern Family"
นักแสดงสมทบหญิง: จูลี โบเวน -"Modern Family"
สาขามินิซีรีส์ หรือหนังที่สร้างสำหรับฉายทางโทรทัศน์
มินิซีรีส์ หรือหนังที่สร้างสำหรับฉายทางโทรทัศน์ยอดเยี่ยม: "Downton Abbey"
นักแสดงนำชาย: แบร์รี เปปเปอร์ -"The Kennedys"
นักแสดงหญิง: เคท วินสเลต -"Mildred Pierce"
นักแสดงสมทบหญิง: แม็คกี้ สมิธ - "Downton Abbey "
นักแสดงสมทบชาย: กาย เพียซ - "Mildred Pierce"
รางวัลสาขารายการโทรทัศน์ และเรียลลิตี้โชว์
พิธีกรรายการเรียลลิตี้: เจฟฟ์ พรอบ์สต์ -"Survivor"
รายการประเภทเรียลลิตี้: "The Amazing Race "
รายการวาไรตี้โชว์, เพลง หรือรายการตลก: "The Kennedy Center Honors "
เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ ""ซ้อ 7"ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540 ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก ระบบ True Move และ Hutch - เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก |