ลากไส้ “วู้ดดี้” แยงแทงยับถล่ม “จ๊ะ คันหู”

โดนด่าเละไม่เป็นท่าอีกครั้งแล้วสำหรับวู้ดดี้ วุฒิธร มิลินทจินดา กับรายการ “วู้ดดี้เกิดมาคุย “ตอนล่าสุดที่ตั้งใจโหนกระแสจากอินเทอร์เน็ตด้วยการเชิญ ไผ่และจ๊ะ วงเทอร์โบ เจ้าของการแสดงบนเวทีอันร้องแรงในเพลงคันหู รายการวู้ดดี้จงใจเลือกยืนอยู่ฝั่งเสียงคนส่วนมากที่เข้าไปด่าแหลกคลิปวิดีโอดังกล่าวในเว็บไซต์ยูทูบ โดยหวังว่าจะเซฟตัวเองเพราะเลือกยืนอยู่ข้างคนส่วนใหญ่ที่ดูเหมือนจะไม่ชอบการแสดงคันหูและเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์ในทำนองเสียๆ หายๆ แต่การณ์กลับตาลปัตร เนื่องจากวู้ดดี้จงใจใช้น้ำเสียงและกิริยาท่าทางไปในทางหยามเหยียด ดูถูก ดูหมิ่นนักร้องสาวอย่างชัดเจน

“วู้ดดี้” เชือด “จ๊ะ คันหู” เพื่อเรตติ้ง!!
สมชื่อ วู้ดดี้เกิดมาขายจริงๆ เพราะอะไรที่ปั่นเป็นเงินได้คุณเธอทำหมด กับเทปรายการเกิดมาคุยที่เพิ่งผ่านพ้นไป วู้ดดี้ตั้งใจขายอีกครั้งด้วยการเกาะกระแสที่โด่งดังจากโลกอินเทอร์เน็ต นั่นคือคลิปเพลงคันหูซึ่งเป็นการแสดงบนเวทีด้วยลีลาเร่าร้อนของสาวจ๊ะ และวงเทอร์โบ ซึ่งเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ที่ดุเด็ดเผ็ดร้อนหลังจากที่มันถูกนำมาโพสต์ลงในเว็บไซต์ยูทูบและถูกส่งต่อๆ กันไปมารวมทั้งแชร์บนหน้าเว็บไซต์โซเชียลมีเดียตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา

อาจจะช้าไปหน่อยแต่วู้ดดี้ก็ขอเล่นกับกระแสนี้ด้วยคนซึ่งตลอดทั้งรายการวู้ดดี้ได้นำคำด่าที่เขาโพสต์กันในอินเทอร์เน็ตโดยจงใจคัดเฉพาะถ้อยคำแรงๆ มายิงใส่จ๊ะ นักร้องสาวต่างจังหวัดวัยเพียง 20 ปี แบบไม่ยั้ง เล่นเอาสาวเจ้าอึ้งและไปไม่เป็น โดยเฉพาะคำถามที่ถามว่าตัวตนจริงๆ ของคุณเป็นเหมือนที่แสดงออกบนเวทีนั่นหรือเปล่า? และคุณรู้สึกยังไงที่ถูกกล่าวหาว่า “หน้าด้าน”? โดยวู้ดดี้จะอ้างว่านำคำถามจากคนเล่นอินเทอร์เน็ตบ้าง เอาคำถามจากแม่ๆ หรือผู้ปกครองมาถามว่า “มีผู้หญิงที่กล้าทำแบบนี้อยู่ด้วยเหรอ”? และคำถามในทำนองเหยียดหยามดูถูกอีกมากมายตลอดทั้งรายการ

จ๊ะ เทอร์โบบอกว่าที่เธอทำไปก็เป็นแค่การแสดงออกบนเวทีที่ทำเพื่อความสนุกสนาน โดยไผ่บอกว่าวงเทอร์โบก็เหมือนวงดนตรีลูกทุ่งสตริงคอมโบตามต่างจังหวัดทั่วๆ ไปที่มีการแสดงหลากหลายรสชาติ ทั้งเพลงมันๆ โจ๊ะๆ เพลงช้าๆ ซึ้งๆ ตลกขบขัน ไปจนถึงเพลงที่มีเนื้อหาและการโชว์ในลักษณะเซ็กซี่เรียกน้ำลายจากบรรดาเสือสิงห์กระทิงแรดที่ยืนติดขอบเวทีด้านล่าง

ซึ่งสิ่งที่คนวิพากษ์วิจารณ์มากที่สุดก็คือเสื้อผ้าและลีลาอันร้อนแรงของจ๊ะ ที่เธอเต้นประกอบเพลงคันหูแต่กลับไม่เกาให้ตรงกับเนื้อเพลงที่ร้องไป ดันเอามือลงมาทำท่าเกาบริเวณจุดสงวนของสตรี นี่แหละคือสิ่งที่หลายคนรับไม่ได้ แต่ก็มีอีกหลายคนที่บอกว่าการแสดงในลักษณะดังกล่าวเป็นเรื่องธรรมดาสามัญที่พบเห็นได้ทั่วไปในงานลักษณะนี้ตามต่างจังหวัด เป็นความบันเทิงของคอสุราและชาวบ้านที่เล่นล้อไปกับวัฒนธรรมเพลงลูกทุ่งที่มักจะมีเพลงที่มีเนื้อหาสองแง่สองง่ามชวนให้คิดไปถึงไหนต่อไหนร่วมอยู่ด้วยมานานตั้งแต่รุ่นปู่รุ่นย่าแล้ว
เพียงแต่ว่าที่ผ่านมาการแสดงดังกล่าวเกิดขึ้นและดำรงอยู่ในพื้นที่หนึ่งของสังคมไทย ไม่ได้มีการนำมาบอกเล่าด้วยภาพและเสียงอย่างโจ่งครึ่มในโลกอินเทอร์เน็ตที่ส่วนใหญ่เป็นสังคมของคนเมือง เมื่อบางคนที่ไม่เคยเห็นไม่เคยสัมผัสการแสดงดังกล่าวได้เห็นแบบจะจะตาขึ้นจึงทำให้เกิดอาการตกใจและคิดไม่ถึงว่ามีการแสดงแบบนี้อยู่ในประเทศที่เขาอาศัยด้วยเหรอ อีกทั้งโลกไซเบอร์ก็เป็นพื้นที่สาธารณะที่การจำกัดการเข้าถึงของคนในวัยเยาว์ทำได้ยากมาก การนำคลิปมาลงเว็บไซต์ยูทูบเพื่อประชาสัมพันธ์วงของหัวหน้าวงอย่างไผ่จึงเป็นการกระทำที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ว่าชื่อเสียงการงานจะควบคู่มากับการวิพากษ์วิจารณ์ในทางเสื่อมเสียเช่นนี้

แต่เหยื่อที่ถูกสับเละที่สุดก็คือ จ๊ะ หลังจากที่ถูกถล่มแหลกลาญมาแล้วจากโลกอินเทอร์เน็ต คราวนี้เธอถูกนำมานั่งให้โจมตีในพื้นที่เปิดโล่งยิ่งกว่าเดิม ในรายการทีวีอันแสนจะโด่งดังของวู้ดดี้ แม้ว่าพิธีกรชื่อดังจะพยายามสร้างภาพให้ดูว่ารายการตอนนี้จะช่วยกันเสนอทางออกให้แก่สังคมไทยที่มีการแสดงในลักษณะนี้เกิดขึ้นอยู่ตามมุมต่างๆ ของประเทศ แต่ก็ดูเหมือนว่าความจริงใจที่จะหาทางออกของวู้ดดี้กลับไม่ปรากฏออกมาเลยแม้แต่น้อย

เพราะหลังจากที่เขาพยายามดึงเนื้อหารายการให้ไปในทางสร้างสรรค์สังคม เขาก็เปิดตัวแขกรับเชิญอีกสองคนซึ่งก็คือครูเทียม ชุติเดช ทองอยู่ และ สมศักดิ์ อ่อนศรี เจ้าของธุรกิจบันเทิงกลางคืนชื่อดัง ผู้บุกเบิกคำว่า “โคโยตี้” ในเมืองไทยซึ่งไปๆ มาๆ ก็ไม่ได้มีอะไรสร้างสรรค์มากไปกว่าการเพิ่มตัวละครในการ พิพากษาลงทัณฑ์(ตามถ้อยคำที่วู้ดดี้ใช้ตลอดทั้งรายการ) จ๊ะและวงเทอร์โบขึ้นมาอีกสองตัวเท่านั้น

ครูเทียมเองก็ใช้ความเป็นโครโรกราฟออกแบบท่าเต้นจวกท่าเต้นที่จ๊ะยอมรับว่าไม่ได้มีการฝึกซ้อมหรือนัดแนะกับทางวง แต่เป็นไปตามสถานการณ์ที่สื่อสะท้อนมาจากผู้ชมซึ่งล้วนเป็นหนุ่มกลัดมันหื่นกระหายด้านล่าง จนทำให้จ๊ะซึ่งเป็นเพียงเด็กสาวต่างจังหวัดอายุ 20 เต้นท่าทางที่ไม่เหมาะสมบนเวทีการแสดงนั้นออกมา

การออกมาวิพากษ์วิจารณ์จ๊ะของครูเทียมซึ่งเต็มไปด้วยท่าทางหยามเหยียดไม่ต่างจากวู้ดดี้ทำให้กระแสต่อต้านไมได้เกิดเฉพาะกับวู้ดดี้แต่ยังลามมาถึงครูเทียมซึ่งไปๆมาๆ ก็ไม่ต่างอะไรจากเหยื่ออีกคนของวู้ดดี้ที่ถูกเรียกมาเพื่อให้รายการ “แรงส์”ไว้ก่อน ซึ่งจนถึงปัจจุบันนี้ครูเทียมเองก็คงจะต้องกลับไปนั่งคิดนอนคิดใหม่แล้วว่าการไปออกรายการวู้ดดี้เกิดมาคุยตอนล่าสุดจนทำให้เกิดกระแสแอนตี้ตัวเองขึ้นมานั้นคุ้มค่าตัวหรือไม่

หลังเกิดกระแสตีกลับจากการออกรายการในวันนั้น หนังสือพิมพ์บันเทิงฉบับหนึ่งได้ต่อสายตรงไปยังครูเทียมซึ่งเจ้าตัวบอกว่าการไปออกรายการวันนั้นเขาได้ใช้สิทธิในฐานะครูผู้ออกแบบท่าเต้นซึ่งคลุกคลีอยู่ในวงการเพลงลูกทุ่งมาช้านานในการวิพากษ์วิจารณ์ ซึ่งถ้าเป็นแวดวงอื่นๆ ที่มีเรื่องวาบหวิวรุนแรงกว่านั้นเขาก็ไม่สามารถจะเสนอหน้าออกมาวิจารณ์ได้เพราะอยู่คนละวงการกัน ซึ่งลึกๆ แล้วเขาไม่ได้พุ่งเป้าต่อว่าที่ตัวของจ๊ะ เพียงแต่พยายามเสนอทางออกว่าท่าเต้นแม้จะยั่งยวนแต่ก็สามารถนำเสนอออกมาอย่างมีศิลปะได้ ซึ่งตอนท้ายครูเทียมย้ำว่าโดยส่วนตัวกับน้องจ๊ะไม่ได้ติดค้างขุ่นเคืองอะไรกัน อีกทั้งหลังบันทึกเทปรายการน้องจ๊ะก็มาขอถ่ายรูปคู่กับเขาด้วยซ้ำ

สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากเทปรายการวู้ดดี้เกิดมาคุยตอนนี้ออกไปก็คือกระแสถล่มวู้ดดี้แบบเละเทะไม่เป็นท่า โดยเฉพาะกรณีการไม่ให้เกียรติแขกรับเชิญ เพราะตลอดทั้งรายการวู้ดดี้ในชุดสูทขาวนั่งไขว่ห้างใช้คำถามและท่าทางในการถามและพูดคุยกับแขกรับเชิญฝั่งขวามือของเขาซึ่งประกอบไปด้วยจ๊ะและไผ่วงเทอร์โบด้วยกิริยาที่ไม่ต่างจากพลเมืองชั้นสอง ดังนั้นแม้จะเป็นคนที่ไม่เห็นด้วยกับการแสดงของจ๊ะและวงเทอร์โบก็ยากที่จะเห็นด้วยกับการกระทำที่หยามเหยียดแขกรับเชิญของวู้ดดี้

กระทู้แนะนำซึ่งเป็นกระทู้ที่มีคนเข้าไปร่วมพูดคุยเกินหลักร้อยและมีคนเข้าไปเยี่ยมชมในหลักแสนของเว็บไซต์พันทิปมีแต่เรื่องของรายการวู้ดดี้เกิดมาคุยในตอนที่พูดถึงเรื่องการแสดงของวงเทอร์โบนี้ ส่วนกระแสในโซเชียลเน็ตเวิร์กก็แรงไม่แพ้กันเพราะเพียงไม่นานหลังจากที่รายการออกอากาศก็มีการตั้งหน้าเพจ “มั่นใจคนไทยยิ่งกว่า 10 ล้านไม่พอใจรายการวู้ดกระดี่สัมภาษณ์จ๊ะ” ส่วนครูเทียมก็ถูกโจมตีไม่น้อยไปกว่ากันเพราะมีหน้าเพจ “มั่นใจคนไทยไม่พอใจครูเทียมด่าจ๊ะ คันหู” ตามติดออกมา ซึ่งหน้าเพจที่ไม่พอใจวู้ดดี้มีคนเข้าไปกดถูกใจถึง 16,000 คนแล้ว

ซึ่งหลังจากเทปรายการดังกล่าวออกไป นอกจากจะเกิดกระแสถล่มเละวู้ดดี้มากมายมหาศาลแล้วนั้น ในทางกลับกันกลับมีกระแสให้กำลังใจและเห็นใจจ๊ะ เทอร์โบเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว โดยหน้าแฟนเพจของจ๊ะ เทอร์โบหรือ จ๊ะ คันหู (TURBO MUSIC FC)มีคนเข้าไปคลิกถูกใจเป็นจำนวนถึง 85,000 คน
จะว่าไปแล้ววู้ดดี้พารายการเกิดมาคุยของตัวเองเป๋ไปเป๋มาในช่วงตั้งแต่เริ่มต้นปีนี้ ขาดไร้รสชาติความเข้มข้นจัดจ้านถามแรงแบบตรงไปตรงมาในสไตล์เกิดมาคุยในตอนแรกๆ ของรายการนี้ไปอย่างสิ้นเชิง ปัจจุบันเกิดมาคุยเป็นรายการที่เน้นขายสินค้าแบบไร้ศิลปะ และอวยบุคคลที่อยากจะอวย พร้อมกับเหยียดหยามดูหมิ่นคนที่ไม่ได้มีชื่อเสียงหรือยศศักดิ์ฐานะทางสังคมแบบจมดิน ซึ่งในกรณีของวงเทอร์โบซึ่งเป็นชาวบ้านธรรมดาก็เป็นอีกครั้งที่วู้ดดี้เรียกมาเหยียบจนจมดินอย่างเห็นได้ชัด

ก่อนหน้านี้ไม่นานนักวู้ดดี้เพิ่งถูกคนในอินเทอร์เน็ตซึ่งล้วนเป็นผู้ชมที่ติดตามรายการของเขามาโดยตลอดจวกเละกรณีที่เขาเชิญ “ร็อบบี้ ฟาวเลอร์” นักฟุตบอลทีมชาติอังกฤษชื่อดังที่มาค้าแข้งให้แก่ทีมเมืองทอง ยูไนเต็ดมานั่งให้สัมภาษณ์ ซึ่งตลอดทั้งรายการวู้ดดี้ได้แสดงให้เห็นถึงการไม่ทำการบ้านอย่างแรงของเขา อีกทั้งยังพยายามเน้นย้ำถามคำถามในทำนองว่ามีผู้หญิงมาเสนอตัวให้คุณบ้างไหม แก่ร็อบบี้ตลอดเวลา นอกจากนั้นคำถามอื่นๆ ยังส่อแสดงไปในทางเรื่องทะลึ่งตึงตังและแสดงท่าทีว่าซี้กับนักฟุตบอลชื่อดังคนนี้จนออกนอกหน้า พอเกิดกระแสโจมตีมากๆ วู้ดดี้ก็โบ้ยให้เป็นความผิดของ “นิหน่า สุฐิตา เรืองรองหิรัญญา” พิธีกรสาวที่เป็นแฟนทีมลิเวอร์พูล แต่หลังจากที่ถูกโยนความผิดให้ดังกล่าวนิหน่าก็พูดผ่านทางทวิตเตอร์ส่วนตัวว่าคำถามที่ฝากวู้ดดี้ไปถามมีเพียงเรื่องเกี่ยวกับทีมลิเวอร์พูลที่เธอรักเท่านั้น หาได้มีเรื่องผู้หญิงหรือเรื่องส่วนตัวของเขาแต่อย่างใด

คนส่วนใหญ่ที่ดูเทปรายการเกิดมาคุยทั้งตอนร็อบบี้ ฟาวเลอร์ และตอนจ๊ะ คันหูต่างสรุปเป็นเสียงเดียวกันว่า ทั้งหลายทั้งปวงล้วนมาจาก “มารยาท” เฉพาะตัวที่พิธีกรผู้ซึ่งต้องการจะผลักดันตัวเองให้เป็นมือหนึ่งอย่างวู้ดดี้แสดงออกมาต่างหากที่ดูไม่เป็นมืออาชีพ ทั้งการปีนเกลียวตีซี้กับนักฟุตบอลชื่อดังจนเกินงามและการดูหมิ่นเหยียดหยามวงดนตรีลูกทุ่งต่างจังหวัดอย่างวงเทอร์โบ

กระแสการแบนหรือบอยคอตรายการทุกรายการของวู้ดดี้เกิดขึ้นมาได้พักใหญ่แล้ว แต่ปัจจุบันหลายคนก็ยังไม่ได้แอนตี้เขาอย่างจริงจัง เพียงแต่เป็นลักษณะของการดูไปด่าไป หรือคอยจับผิด แต่ทว่าในครั้งล่าสุดนี้มีเสียงที่ดังหนักแน่นมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา บางคนย้ำว่าถึงเวลาที่ต้อง “เลิกดู” วู้ดดี้อย่างจริงจังเสียที ต้องคอยติดตามกันว่าเรตติ้งของรายการวู้ดดี้ที่เขาเน้นเรื่องค้าขายจะหล่นฮวบฮาบจากพลังมวลชนได้จากกรณีคันหูหรือไม่

…................................................................................

ปรากฏการณ์คันหู
“คันหู” เป็นปรากฏการณ์ที่โด่งดังอยู่ในโลกอินเทอร์เน็ต หลังจากที่นายจิรภัทร คูหาพัฒนกุล หรือ ไผ่ หัวหน้าวงเทอร์โบนำคลิปวิดีโอเพลงคันหูที่นงผณี มหาดไทย หรือ จ๊ะ นักร้องสาววัย 20 ปีของวงเทอร์โบ ร้องและวาดลวดลายเอาไว้มาโพสต์ลงในเว็บไซต์ยูทูบเมื่อวันที่ 5 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อโฆษณาวงเทอร์โบของเขา โดยมีการใส่เบอร์โทรศัพท์เพื่อติดต่อเอาไว้ ซึ่งผลลัพธ์ของการประชาสัมพันธ์ดังกล่าวแรงเกินกว่าที่ไผ่ได้คาดคิดเอาไว้ เพราะคลิปวิดีโอดังกล่าวมีผู้คลิกเข้าไปเยี่ยมชมเป็นจำนวนเกือบสิบล้านครั้ง และถูกบอกต่อกันจนกลายเป็นทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา

ปรากฏการณ์คันหูโด่งดังจนเลยออกมาจากโลกอินเทอร์เน็ต จ๊ะถูกเชิญให้ไปออกรายการเช้าข่าวข้นคนข่าวเช้าในช่วงตอมแมลงวันเมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ในฐานะนักร้องนักเอนเตอร์เทนต์ที่มีคนให้ความสนใจสูง ซึ่งการมายืนให้สัมภาษณ์ในรายการนี้ต่างไปจากการมานั่งให้พิพากษาในรายการวู้ดดี้เกิดมาคุยแบบฟ้ากับเหว เพราะการให้สัมภาษณ์ในรายการดังกล่าวพิธีกรซึ่งเป็นนักข่าวทั้งสามได้ให้เกียรติและพูดคุยกับจ๊ะอย่างสุภาพถึงที่มาที่ไปของการแสดงเพลงคันหูของเธอ

จ๊ะบอกว่าเธอร้องเพลงมาได้ 9 ปีแล้ว ซึ่งก็ทำงานเป็นนักร้องในวงสตริงลูกทุ่งมาได้ประมาณสามปีแล้ว แต่เพิ่งมาอยู่วงเทอร์โบได้เพียงหนึ่งปี ซึ่งตัวเธอเป็นนักร้องสาวหนึ่งในสองคนของวง ส่วนการวาดลวดลายลีลาเร่าร้อนปนขบขันบนเวทีนั้นมาจากการครีเอทของเธอล้วนๆ ไม่ได้มีคำสั่งจากใคร โดยจ๊ะต้องการจะสร้างจุดเด่นให้กับตัวเอง หลังจากที่เคยขึ้นไปร้องโชว์แล้วคนดูด้านล่างไม่ค่อยให้ความสนใจ ซึ่งหลังจากที่เธอปรับโชว์ของตัวเองให้ “แรง” ขึ้นด้วยเสื้อผ้าสุดเซ็กซี่และท่าเต้นที่เธอคิดเอง ปรากฏว่าผลตอบรับเปลี่ยนไปแบบหน้ามือเป็นหลังมือ ผู้ชมให้ความสนใจและเข้ามาตกรางวัลให้เธอไม่ขาดสาย ซึ่งจ๊ะที่ยอมรับว่าตัวเองไม่ได้สวยและไม่ได้มีน้ำเสียงที่ไพเราะมากมายนักจำเป็นจะต้องสร้างจุดเด่นให้กับตัวเอง ซึ่งการโชว์หรือเอ็นเตอร์เทนต์คนดูก็คือสิ่งที่จ๊ะเลือกนั่นเอง

เพลงคันหูแท้จริงแล้วอยู่ในอัลบั้ม “กล้าๆ กลัว” ของ “หลิว วาริสสรา เล้าประเสริฐ” นักร้องลูกทุ่ง ทายาทปั๊มน้ำมัน ต. บ้านพริก อ.บ้านนา จ. นครนายก เจ้าของบทเพลง “คุณแม่ขอร้อง” ซึ่งเพลงคันหูนั้นถูกแต่งเอาไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2543 แล้ว โดยผู้แต่งคือ “ราตรี อิ่มสำราญ” (ปัจจุบันเสียชีวิตไปแล้ว) ซึ่งในตอนที่แต่งนั้นมีจุดประสงค์เพียงเพื่อนำมาร้องกันเล่นๆ ในบริษัทเพื่อคลายเครียด แต่หลังจากที่หลิวได้ฟังแล้วรู้สึกว่าเพลงน่ารักและตลกดีจึงขอนำมาบรรจุอยู่ในอัลบั้มดังกล่าว

หลิวบอกว่าแท้จริงแล้วเพลงนี้ไม่ได้มีเนื้อหาไปในทางทะลึ่งลามกเลยแม้แต่น้อย ส่วนการแสดงเพลงนี้ตอนอยู่บนเวที เธอจะให้ธิดาช้างสวมชุดแดนเซอร์ออกมาเต้นแล้วใช้ไม้พันสำลีมาทำท่าปั่นหูเพื่อเรียกเสียงหัวเราะและรอยยิ้มจากผู้ชม

จากปรากฏการณ์ของ “จ๊ะ เทอร์โบ” ไม่ว่า “หลิว วาริสสรา ” จะออกมาบอกกล่าวอย่างไร แต่ก็คือการใช้ต้นทุนที่ไม่มีผลกำไรจากเดิมมาขยายผล ด้วยการทำ MV. ใหม่ เพื่อให้ผู้ชมได้มีภาพจำเกี่ยวกับเพลงคันหูที่สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของนักร้องเจ้าของเพลงเดิม

นอกจากนี้ ปรากฏการณ์คันหูยังถูกนำไปตัดต่อกับมิวสิกวิดีโอของนักร้องเกาหลีเพื่อเรียกเสียงฮาอยู่ในเว็บไซต์ยูทูบ ถูกนำไปแปลงเป็นเพลงแปลงในชื่อ “คันหู(ปูก็คัน)” ซึ่งเขียนล้อเลียนการเมือง โดย โฟล์คเหน่อ ซึ่งถูกปล่อยให้ชมและฟังอยู่ในยูทูบเช่นกัน และในการแสดงเดี่ยวไมโครโฟนครั้งที่ 9 ที่ผ่านไปของ “โน้ส อุดม แต้พานิช” เขาก็ยังนำคันหูไปเป็นหนึ่งในมุกการแสดงเพื่อเรียกเสียงฮาอีกด้วย
หลังจากที่โด่งดังเปรี้ยงปร้าง “จ๊ะ เทอร์โบ”ยังได้รับการทาบทามให้มีอัลบั้มเป็นของตัวเองอย่างจริงจัง ซึ่งปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการบันทึกเสียงซึ่งคาดว่าอีกไม่เกินสามเดือนก็คงจะได้ยินได้ฟังบทเพลงของเธออย่างแน่นอน

งานนี้จึงต้องบอกว่า “คันแล้วรวย” มีแต่ได้กับได้ ... เท่านั้น !!


Hi Entertain วู้ดดี้ เปิดใจ กรณี จ๊ะ คันหู


หนึ่งในปรากฏการณ์คันหู
...............................

ที่มานิตยสาร ASTV ผู้จัดการ สุดสัปดาห์ ฉบบับที่ 101 วันที่ 10-16 กันยายน 2554