ในโอกาสที่เพิ่งผ่านพ้นวันสำคัญ 12 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันแม่แห่งชาติ ที่ลูกๆ ทุกคนได้ระลึกถึงพระคุณแม่ไปแล้ว ในส่วนของวงการบันเทิงไทยเองก็มี “คุณแม่” หลากหลายแบบ ให้ได้ติดตามข่าวคราวตามหน้าหนังสือพิมพ์อยู่หลายคน ซึ่งก็มีทั้งที่น่าเอาเป็นแบบอย่าง น่ายินดี ตื้นตันใจตามไปด้วย รวมถึงข่าวคราวเชิงลบของคุณแม่บางท่านที่มีออกมา จนทำให้สังคมยังกังขากันอยู่
ควันหลงวันสำคัญเช่นนี้ ทีมข่าว “บันเทิงASTVผู้จัดการออนไลน์” จึงคัดเลือกสุดยอดคุณแม่คนดังหลากหลายสไตล์มาฝาก เพื่อเป็นแรงบันดาลใจ รวมถึงเป็นบทเรียนให้ได้สะกิดเตือนตัวเอง
สุดยอดคุณแม่ขวัญใจวัยรุ่น
ด้วยยุคสมัยที่ผันเปลี่ยนไปเข้าสู่โลกดิจิตอล สื่ออินเตอร์เน็ตเปิดกว้างและมีอิทธิพลสูง โดยเฉพาะกับเด็กและเยาวชน ทำให้ผู้ปกครองต้องสนใจใส่ใจบุตรหลานของตนเป็นพิเศษ อย่างคุณแม่ “ก้อย วรนุช ละอองมณี” ผู้จัดการส่วนตัวและคุณแม่ของหนุ่ม “เก้า จิรายุ” เอง เธอก็มีวิธีเลี้ยงดูลูกชายวัย 15 ปี ที่อยู่ในช่วงหัวเลี้ยงหัวต่อได้เท่าทันโลกทันยุค ปรับเปลี่ยนวิธีการเลี้ยงดูทำตัวเสมือนคอยเป็นพี่สาวและเพื่อนคอยเป็นที่ปรึกษาให้กับลูก ไม่ว่าจะไปแอบปิ๊งสาวคนไหน หนุ่มเก้าก็ต้องคอยมาขอคำปรึกษาจากแม่ก้อยเสมอ ทำให้หนุ่มเก้ารู้สึกสบายใจ ไม่มีเรื่องไหนที่ลูกชายคนนี้จะปิดบังแม่ เพราะแม่ก้อยคนนี้ไม่เคยเอ่ยคำว่าอย่าหรือห้าม มีแต่แนะนำและป้องกัน
ที่สำคัญคุณแม่ของหนุ่มเก้าเอง ยังมีทัศนคติเปิดกว้างและเข้าใจวัยรุ่นหนุ่มสาวช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อดี ว่าอยู่ในช่วงเรียนรู้และทดลอง คุณแม่ก้อยจึงพร่ำสอนหนุ่มเก้าเสมอ ในเรื่องของการมีเพศสัมพันธ์กับวัยรุ่นเป็นสิ่งคู่กัน เพียงแค่รู้จักป้องกันและดูแลตัวเองดีๆ ไม่ใช่เรื่องน่าอายลูกผู้ชายจะดูเป็นสุภาพบุรุษหากพกถุงยางอนามัย
โดยจะเน้นย้ำกับลูกชายวัย 15 ปีคนนี้ว่า “ให้พกไว้เพื่อป้องกัน ไม่ได้ให้พกไว้ใช้...” และไม่อายที่จะบอกต่อในที่สาธารณะว่าตนแนะนำและเลี้ยงดูลูกชายแบบนี้ ทำให้บรรดาแม่ๆ ทั้งหมายที่ไม่กล้าพูดคุยพร่ำสอนลูกในเรื่องของเพศสัมพันธ์ได้เปิดมุมมองโลกทัศน์ใหม่ๆ ได้เห็นถึงความสำคัญเรื่องการป้องกันการมีเพศสัมพันธ์อย่างถูกวิธีกับวัยรุ่น ซึ่งทันที่ที่คุณแม่ก้อยพูดออกสื่อ เป็นเหตุให้เรื่องนี้ถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก บ้างก็ปรบมือเห็นด้วย บางกระแสก็โหวตโนไม่เห็นด้วย หาว่าวิธีการสอนล่อแหลมเกินไป ส่วนใครจะลอกเลียนแบบ หรือมีวิธีสอนลูกที่ดีกว่านี้ ก็คงต้องเลือกเอาตามสะดวก
สุดยอดคุณแม่ผู้(ต้อง)รับบทหนัก
เป็นซิงเกิ้ลมันที่รับบทหนักข้ามปี และดูท่าว่าอนาคตยังคงจะต้องรับบทหนักต่อไป กับหน้าที่แม่ของสาว “แอนนี่ บรู๊ค” กับการต่อสู้ทวงถามหาพ่อให้กับลูกชาย “ฑีฆายุ” โดยกล่าวอ้างว่าพ่อของลูกตนคือนักร้องหนุ่มชื่อดัง “ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์” แต่ก็ถูกนักร้องหนุ่มปฎิเสธ จนกลายเป็นมหากาพย์ลูกใครหว่า? ขึ้นหน้าหนึ่งแทบทุกหัวหนังสือพิมพ์สาดโคลนกันอยู่ข้ามปี ทั้งยังมีตัวละครหนุ่มอีกมากมายเข้ามาเกี่ยวข้อง ถูกโยงมีความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวกับแอนนี่ในช่วงเวลาเดียวกับหนุ่มฟิล์ม จนฉาวโฉ่เน่าเฟะ
แต่ที่แสบสุดคงจะเป็นการออกมาแฉของอดีตแฟนหนุ่ม “เมธี อมรวุฒิกุล” ว่าระหว่างที่คบกับตน สาวแอนนี่ได้นอกใจคบกับชายอื่นอีก 2 คน และตนก็เคยถูกสาวแอนนี่หลอกว่ากำลังตั้งท้องอยู่เหมือนกับที่หนุ่มฟิล์มกำลังเผชิญอยู่ จนเรื่องราวการสาดโคลนดังกล่าวที่หาข้อยุติไม่ได้ต้องเข้าสู่กระบวนการชั้นศาล เพื่อพิสูจน์ตรวจดีเอ็นเอหาข้อเท็จจริง ว่าหนุ่มฟิล์มใช่พ่อที่แท้จริงของน้องฑีฆายุหรือไม่
แค่เรื่องขึ้นโรงขึ้นศาลก็สร้างความปวดหัวปวดใจพออยู่แล้ว สาวแอนนี่ยังต้องแบกรับภาระหาเงินเพื่อมาเป็นค่าใช้จ่ายเลี้ยงลูกดูน้อยเพียงลำพัง รวมไปถึงอนาคตเจ้าตัวยังจะต้องเตรียมตั้งรับกับปัญหาต่างๆ ที่จะตามมาของลูกชายฑีฆายุในวันที่เขาโตพอที่จะรับรู้เรื่องราวทุกอย่างได้ ลำพังเด็กกำพร้า ไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อก็ว่าสร้างปมในใจเด็กให้ไม่น้อยแล้ว แต่นี่นอกจากฑีฆายุจะกำพร้า แล้วยังต้องโตมากับคำถามใครกันที่เป็นพ่อของตน รวมไปถึงเรื่องราวข่าวคราวในอดีตสุดฉาวของผู้เป็นแม่อีก แม่อย่างสาวแอนนี่จะเตรียมรับมือกับการตอบคำถามลูกชายอย่างไร และจะเลี้ยงดูลูกอย่างไรไม่ให้ฑีฆายุโตมาอย่างมีปมใจใน ถือเป็นบททดสอบความเป็นซิงเกิ้ลมัมของสาวแอนนี่ที่โหดหินเอาการอยู่
สุดยอดคุณแม่ผู้(จอม)จัดการ
เป็นที่ทราบกันดีว่าเห็นหน้านางเอกสาว “แพนเค้ก เขมนิจ จามิกรณ์” เมื่อไหร่ เป็นต้องเห็นแม่ “หน่อย นวลนงค์” เธอเติบโตโลดแล่นมีชีวิตในวงการบันเทิงได้ มาจากแรงผลักดันของแม่หน่อย รวมไปถึงวิถีชีวิตส่วนตัว เมื่อไหร่ที่เห็นสาวแพนเค้กยืนให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน จะต้องเห็นแม่หน่อยยืนกอดอกคอยฟังคำตอบลูกสาวด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มอย่างพออกพอใจ
ยามเมื่อครั้งที่เธอปลูกต้นรักกับพระเอกหนุ่ม “เวียร์ ศุกลวัฒน์ คณารศ” แม่หน่อยคนนี้ก็คอยจัดการดูแลภาพลักษณ์การเป็นไอดอลดาราคู่ขวัญ “เวียร์-แพนเค้ก” ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าหน้าผมเวลาออกงาน ต้องเหมือนและเข้าคอนเซ็ปต์กัน รวมไปถึงคอยจัดสรรชีวิตส่วนตัวให้กับหนุ่มเวียร์ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการที่หนุ่มเวียร์ซื้อบ้าน ก็ให้อยู่ใกล้กับสาวแพนเค้ก นอกจากนี้ยังต้องร่วมหุ้นกับครอบครัวสาวแพนเค้กซื้อรถบ้าน และร่วมลงขันเปิดธุรกิจร้านเทดดี้เฮ้าส์ ทั้งยังเคยมีข่าวว่าหนุ่มเวียร์เตรียมย้ายออกจากการดูแลของผู้จัดการดาราชื่อดัง “เอ ศุภชัย ศรีวิจิตร” เพื่อให้แม่หน่อยดูแลคิวให้
ดูเหมือนอนาคตของคู่ขวัญเวียร์-แพนเค้กน่าจะลงเอยด้วยดี แต่สุดท้ายก็มีอันต้องเลิกรากัน โดยว่ากันว่าชนวนเหตุต่างๆ ล้วนมีเบื้องหลังมาจากแม่หน่อยที่รู้สึกว่าหนุ่มเวียร์เริ่มแข็งข้อกับตน และเมื่อลูกสาวมีรักครั้งใหม่กับพระเอกหนุ่มมาดเซอร์หนุ่ม “เป้ อารักษ์ อมรศุภศิริ” แม้แม่หน่อยจะยังไม่เข้ามามีบทบาทเรื่องราวส่วนตัวกับรักครั้งนี้ของลูกสาวมาก อาจจะด้วยเหตุผลที่สาวแพนเค้กเองเรียนจบแล้ว และโตพอที่จะดูแลตัวเองได้แล้ว หรืออาจจะเป็นที่บุคลิกลักษณะนิสัยความมีโลกส่วนตัวของหนุ่มเป้ ไม่ก็เป็นเพราะแม่หน่อยเอง ได้รับบทเรียนมาจากครั้งก่อน ที่ถูกโจมตีว่าเอาเปรียบหนุ่มเวียร์ จนต้องตามแก้ข่าวอยู่พักใหญ่
แต่แม่หน่อยก็เคยออกอาการไม่พอใจผู้สื่อข่าว ถึงขั้นยกโทรศัพท์มาถ่ายรูปผู้สื่อข่าวจากหนังสือพิมพ์บันเทิงชื่อดัง หลังจากไม่พอใจที่มาซักลูกสาวกรณีหนุ่มเป้ มีข่าวแอบกุ๊กกิ๊กกับสาวประเภทสองอย่าง “ปอย ตรีชฎา เพชรรัตน์” คงต้องจับตาดูกันต่อไปว่า ความรักระหว่าง “เป้-แพนเค้ก” แม่หน่อยจะเข้ามามีบทบาท เฉกเช่นครั้งที่คบกับหนุ่มเวียร์อีกหรือไม่ แต่ทั้งหมดทั้งมวลเหตุผลที่ทำลงไปก็คงมีเหตุผลเดียว นั่นก็คือเพราะห่วงลูกสาวสุดที่รักนั่นเอง
คุณแม่อกตรมแห่งปี
ถือว่าช่วงเวลา 1-2 ปีที่ผ่านมา เป็นช่วงมรสุมที่ยาวนานของครอบครัว “ไชยเดช” มากๆ โดยเฉพาะหัวอกคนเป็นแม่อย่างคุณแม่ “อ้อย สรินยา ไชยเดช” ที่ลูกสาว “พิ้งกี้ สาวิกา” ถูกตราหน้าว่าเป็นเมียน้อยของ หนุ่ม “เป๊ก สัญชัย เองตระกูล” จนทำให้ศรีภรรยาสาวของหนุ่มเป๊ก อย่าง “ธัญญ่า ธัญญาเรศ” อดรนทนไม่ไหวต้องหอบลูกสาว “ลียา” ย้ายไปอยู่อเมริกาและเจรจาขอหย่าขาดกันในที่สุด ข่าวคราวข่าวฉาวทั้งหมดได้ส่งผลกระทบแสนสาหัสกับสาวพิ้งกี้ จนทำให้เจ้าตัวถูกแบนจากกระแสสังคม จนส่งผลให้ไม่มีงานในวงการบันเทิงไทย แต่ยังเทียบไม่ได้กับความเสียหายด้านชื่อเสียง ที่ต้องเสื่อมเสียถึงวงศ์ตระกูล ซึ่งจะติดตัวสาวพิ้งกี้ไปไม่จบสิ้น
ยิ่งเหตุการณ์ที่ลูกสาวต้องออกมาพิสูจน์ ด้วยการตรวจฉี่ต่อสื่อมวลชน ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพื่อเป็นการยืนยันว่าไม่ได้ตั้งท้องกับหนุ่มเป๊ก หลังจากมีกระแสข่าวลือว่าสาวพิ้งกี้กำลังตั้งท้อง ซึ่งพ่อก็คือหนุ่มเป๊ก แน่นอนหัวอกของคนเป็นแม่ยอมทุกข์ใจอย่างแสนสาหัส ที่ลูกถูกตราหน้าว่าเป็นเมียน้อยก็เจ็บปวดพอแล้ว ตนเองยังมาถูกกล่าวหาว่า เป็นคนอยู่เบื้องหลังสนับสนุนให้ลูกสาวเป็นทำผิดศีลธรรมยิ่งชอกช้ำ ไหนจะอนาคตลูกสาวที่ต้องมาดับวูบลง หมดช่องทางทำมาหากินในวงการบันเทิงอีก
บ่อยครั้งที่เห็นแม่อ้อยออกมาร้องไห้กอดคอลูกสาว เพื่อชี้แจงกับสื่อมวลชนถึงข่าวฉาวดังกล่าวว่าไม่เป็นความจริง แต่ก็คงจะปฎิเสธเสียมิได้เมื่อเจอหลักฐานคลิปเสียงสนทนาต่างๆ ที่เป็นตัวผูกมัดได้อย่างชัดเจนถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็คงไม่มีใครรู้เรื่องราวที่แท้จริงดีไปกว่า “พิ้งกี้” กับหนุ่ม “เป๊ก” แต่ที่แน่ๆ เรื่องราวสุดฉาวดังกล่าวได้สร้างตราบาปให้กับสาวพิ้งกี้ โดยที่ผู้เป็นแม่อย่างแม่อ้อยไม่สามารถปกป้องลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนได้เลย
สุดยอดคุณแม่มือใหม่หัวใจเกินร้อย
แฟนคลับและแฟนละครชาวไทยคงนึกภาพไม่ออก ว่า นางเอกสาวชื่อดังอย่าง “กบ สุวนันท์ คงยิ่ง” กับบทบาทการเป็นแม่คน แต่แล้วเธอก็ได้พิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นและประหลาดใจกับการเป็นคุณแม่ที่สมบูรณ์แบบอย่างคาดไม่ถึง เมื่อสาวกบถึงขั้นลงทุนหันหลังให้กับงานในวงการบันเทิง ทั้งที่เป็นงานที่เจ้าตัวรัก อีกทั้งยังทำเงินให้กับเธอมหาศาล แม้แต่งานเล็กๆ น้อยๆ ที่ใช้เวลาทำงานไม่มากอย่างพิธีกร เธอก็เลือกที่จะตัดทิ้งอย่างไม่คิดเสียดาย เพื่อเอาเวลาทั้งหมดมาทุ่มเลี้ยงดูลูกสาวคนแรก “น้องปุณณดา ปุณณกันต์”
แถมยังยอมเสียสละไม่คิดห่วงความสวยของตัวเอง ทุ่มบำรุงร่างกายจนเชฟสวยๆ เปลี่ยนไป เพียงเพื่อให้ตัวเองแข็งแรงและมีน้ำนมใว้ให้กับลูกสาวดื่มจนครบขวบวัย อีกทั้งเธอยังเป็นคนเลี้ยงดูอย่างประคบประหงมน้องณดาเองทุกอย่าง โดยไม่คิดจะจ้างพี่เลี้ยงเด็กมาช่วย ทั้งๆ ที่ระดับเธอแล้วสามารถจ้างใครมาช่วยได้ไม่ยาก แถมล่าสุดยังมีข่าวว่า สาวกบมีแผนเตรียมปั๊มลูกคนที่ 2 ต่อ นั่นย่อมหมายความว่าเธอต้องเหนื่อยเพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัว ส่วนแฟนๆ ละครก็คงจะต้องร้องเพลงรอผลงานของสาวกบไปอีกนานเลยทีเดียว
ไม่ว่าจะเป็นสุดยอดคุณแม่ในด้านไหนก็แล้วแต่ ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้ทำหน้าที่ “แม่ที่ดี” ของลูกต่อไป