xs
xsm
sm
md
lg

‘เซ็กซี่เป็นเหตุ’ ปรากฏการณ์ฉกรูปดาราไปอ่อยหื่น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หลังจากที่มีข่าวดาราหลายคนตกเป็นเหยื่อจากการถูกนำรูปภาพของตัวเองไปใช้ โดยไม่ได้รับอนุญาตตามสถานที่ต่างๆ อย่างสถานบริการร้านนั่งดริงก์ หรือนำไปไว้บนหน้าปกซีดีประเภทเซ็กซี่ หรือบางทีอาจนำภาพไปตัดต่อเพื่อสร้างความเสียหายให้แก่ดาราคนนั้น แล้วก็ใช้ภาพดาราสาวสวยเหล่านี้เป็นการดึงดูดใจเรียกลูกค้าในเชิงธุรกิจ

เพราะความเซ็กซี่เป็นเหตุ งานนี้เลยทำให้ดาราสาวหลายคนต้องตกเป็นเหยื่อเพราะความสวยและความโด่งดังอย่างเลี่ยงไม่ได้

อย่างกรณีล่าสุด อะตอม - ภัคจิรา วิศววิสุทธิ์ นางแบบสาวสวยสุดเซ็กซี่ ที่เข้าแจ้งความว่าเว็บไซต์กระปู๋สปาร์ดอทคอม เป็นเว็บฯ ที่ให้บริการเกี่ยวกับนวดกระปู๋ (อวัยวะเพศชาย) ซึ่งก็มีภาพและข้อความเชิญชวน ให้ไปพบกับนางฟ้าประจำเดือน หรือก่อนหน้านี้ก็เคยถูกนำรูปล่อแหลมไปติดตามร้านเด็กนั่งดริงก์

เรื่องเหล่านี้ไม่ได้เพิ่งเคยเกิดขึ้น แต่เป็นสิ่งที่มีให้เห็นอยู่เรื่อยๆ อย่าง เมเปิ้ล-พัชซุดาญ์ พันธุ์พิพัฒน์ ดาราสาวก็เคยเจอมือดี นำภาพที่เคยถ่ายแนวเซ็กซี่ไปปั๊มลงหน้าแผ่นซีดีเถื่อน และยังมีมิสไทยแลนด์เวิลด์ ปี 2547 กัลยา อับดุล ก็ถูกผู้ไม่หวังดี นำภาพไปลงปกดีวีดีลามกปลุกใจเสือป่าเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีดาราสาวสวยอีก 2 ราย อย่างแอน ทองประสม กับ ปอย ตรีชฎา เพชรรัตน์ ซึ่งเป็นดาราไทยที่ตกเป็นเหยื่อฝรั่งสมองใส เอาภาพขึ้นพรีเซ็นเตอร์ให้แก่สถานบริการที่ประเทศออสเตรเลีย

ไม่เพียงเท่านี้ยังมีกรณีดาราอีกหลายคนที่ถูกนำรูปไปกระทำเช่นนี้ทั้งที่บางครั้งเจ้าตัวอาจไม่รู้ด้วยซ้ำ อย่างการนำภาพดาราไปตัดต่อใส่เสื้อผ้าแฟชั่น ตีพิมพ์เป็นหนังสือแฟชั่นส่งขายเพื่อให้สั่งซื้อตามที่ต่างๆ อย่างร้านทำผม หรือร้านขายเสื้อผ้าทั่วไปก็ยังมีให้เห็นอยู่เสมอ

จึงเป็นที่น่าสนใจว่าทำไมจึงมีคดีความเกี่ยวกับการนำรูปเรือนร่างของเหล่าดาราสาวสวยเซ็กซี่มาเป็นจุดขายเพื่อเรียกลูกค้าตามสถานที่ต่างๆ จึงเกิดขึ้นบ่อยและมากมายนัก การทำเช่นนี้เพื่อให้ได้ประโยชน์อะไรหรือเป็นเพราะผู้พบเห็นทั่วไปหลงเชื่อตามที่เห็นว่าเป็นดาราคนนั้นจริง
 

เปิดกลยุทธ์ ‘ทำไมต้องหน้าดารา’
รู้ทั้งรู้อยู่แล้วว่า หากขึ้นชื่อว่าเป็นสถานบริการ ไม่ว่าจะเป็นสปาก็ดี อาบอบนวดหรือนวดกระปู๋โอกาสที่จะมีดาราหรือคนมีชื่อเสียงมานั่งให้บริการนั้นเป็นเรื่องยากสุดๆ แต่ดูเหมือนที่ผ่านมา บรรดาร้านเหล่านี้ก็มักจะอดไม่ได้ที่นำภาพของพวกเธอมาเป็นจุดขายเพื่อเรียกแขกทั้งหนุ่มน้อย หนุ่มใหญ่เข้ามาสัมผัสกับบริการสุดพิเศษอย่างสม่ำเสมอ

แถมบางภาพเป็นดาราระดับซูเปอร์สตาร์ นางเอกชื่อดังของประเทศไทย เดือนๆ หนึ่งมีรายได้เป็นแสนๆ บาทเพราะฉะนั้นจึงสร้างความสงสัยยิ่งนักว่าสถานบันเทิง (บางแห่ง) นั้นจะทำแบบนี้ไปทำไม และได้ประโยชน์อะไร เพราะใครๆ ก็รู้อยู่แล้วว่าต่อให้เข้าไปข้างในก็คงไม่เจอพวกเธอแน่นอน

ในเรื่องนี้นักการตลาดชื่อดัง อย่าง ผศ.ดร.ธีรพันธ์ โล่ห์ทองคำ‏ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ธรู เดอะ ไลน์ คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด ได้อธิบายว่า นี่เป็นแนวคิดของการนำคนดังหรือคนมีชื่อเสียงมาสร้างความน่าสนใจแก่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายหรือที่เรียกว่า ‘Celebrity endorser’ นั่นเอง

“การทำแบบนี้คล้ายๆ เป็นการทำในเชิงซิมโบลิค (Symbolic - เชิงสัญลักษณ์) รูปแบบหนึ่งเพื่อดึงดูดลูกค้า แต่คนที่ถูกนำมาใช้ก็ต้องเชื่อมโยงกับธุรกิจด้วย ยิ่งเป็นสถานบันเทิงสไตล์แบบนี้ เขาคงไม่เอานางเอกแบบหวานๆ ไปเป็นพรีเซ็นเตอร์ แต่คงต้องการคนที่เคยถ่ายภาพโป๊ ถ่ายภาพนู้ด ไม่ก็เป็นนางแบบ นางเอกเซ็กซี่ หรือเป็นดาวยั่ว ก็จะเชื่อมโยงมากกว่า

“แต่ว่าสุดท้ายคนจะเชื่อว่าในร้านนั้นมีพรีเซ็นเตอร์ที่ถูกนำมาใช้อยู่จริงหรือไม่นั้น ก็คงจะตอบลำบาก เพราะมันก็ต้องมีคนทั้งเชื่อและไม่เชื่ออยู่แล้ว เพราะเราคงไม่รู้หรอกว่ามันเป็นข้อเท็จจริงมากน้อยแค่ไหน แต่เมื่อเอารูปเขาไปลงมันก็สามารถสร้างความน่าสนใจในมุมของเจ้าของธุรกิจ แต่ความสนใจนั้นจะขยับไปถึงความเชื่อหรือเปล่า คงตอบไม่ได้”

อย่างไรก็ดี การกระทำเช่นนี้แม้จะมีความเสี่ยงอยู่มากกับการที่ผู้เสียหายจะฟ้องร้องดำเนินคดีได้ แต่หากมองอีกมุมหนึ่งอาจจะเป็นโอกาสสำคัญที่ร้านจะประชาสัมพันธ์ตัวเองของสถานบันเทิงเหล่านั้น เพื่อแลกกับการเป็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ หรือจอโทรทัศน์ ผศ.ดร.ธีรพันธ์ ชี้ต่อว่า

“บางร้านเขาก็ยอมเสียค่าเสียหาย เพราะมันก็เท่ากับร้านค้าก็เป็นข่าวและเป็นที่น่าสนใจไปเรียบร้อยแล้ว ดีไม่ดีการเรียกร้องค่าเสียหายมันอาจจะถูกกว่าค่าตัวด้วยซ้ำ ดังนั้นก็มีความเป็นไปได้ว่า ร้านพวกนี้ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นแบรนด์ไม่ดังอาจจะใช้กลยุทธ์เรื่องความเสี่ยงเป็นกลยุทธ์หลักก็เป็นได้”
 

ปฎิบัติการแหกตาหนุ่มๆ หื่น
ในมุมของคนที่เห็นจะมีใครสักกี่คนที่รู้ว่า ตัวเองโดนหลอกด้วยหน้าดาราสวยๆ เซ็กชี่เหล่านี้ เอกลักษณ์ ยาทองไชย พนักงานร้านอินเทอร์เน็ตแห่งหนึ่ง ให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับการนำภาพดาราชื่อดังมาเป็นภาพวาบหวิวล่อลวงใจลูกค้าว่า เป็นวิธีการที่ใช้ได้ผล เพราะว่าตนก็เคยตกเป็นคนหนึ่งที่เคยเข้าใจผิด

“เคยซื้อซีดีมาดูหน้าปกเป็นดาราคนนี้ พอเปิดดูแต่มันไม่ใช่ ก็เซ็งนะเพราะโดนหลอก และในเว็บไซต์ต่างๆ ก็ชอบนำรูปดารามาโพสต์เรียกความสนใจ ดาราชื่อดังคนนั้นหลุดหรือโชว์วาบหวิว เราก็กดดูแต่มันไม่ใช่ดาราแต่เป็นภาพตัดต่อบ้าง วิดีโอคนหน้าเหมือนบ้าง ที่รู้ว่าโดนหลอกก็เมื่อดาราเจ้าตัวออกมาแถลงข่าวว่าไม่ใช่เขา แต่แม้ไม่ใช่ของจริงก็กดดูนะเพราะอยากรู้ว่าตัดต่อเนียนรึเปล่า ส่วนที่เห็นตามร้านนั่งดริงก์ต่างๆ อันนั้นรู้ได้ เพราะดาราที่ไหนจะมานั่งกับเราดาราดังไม่มาทำงานแบบนี้หรอก เอารูปมาเรียกลูกค้าเฉยๆ”

นั่นคือมุมมองของชายที่เคยเข้าใจผิด มาดูกรณีหญิงบางคนก็ยังเคยโดนหลอก แม้ไม่ใช่หลอกด้วยภาพโป๊ แต่เป็นการนำภาพดารามาตัดต่อเป็นแบบใส่เสื้อผ้าสวยโชว์ไว้ในหนังสือแฟชั่นสำหรับขายเสื้อผ้า เกตนภาริน อุทธิยา พนักงานออฟฟิศแห่งหนึ่ง ผู้ชื่นชอบการชอปปิ้งเสื้อผ้าบอกว่า ไม่ไปเที่ยวสถานบันเทิงและไม่ชอบดูเว็บไซต์โป๊คงไม่ตกเป็นเหยื่อที่โดนหลอก แต่การนำรูปมาตัดต่อแล้วติดไว้ตรงร้านเสื้อผ้านั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอก็ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ามี

“จริงหรอ มันมีจริงๆ ใช่ไหม เพิ่งรู้นะว่ามีแบบนี้ คิดว่าเป็นดาราสวย หล่อ คนนั้นจริงๆ ก็เคยสงสัยเหมือนกันว่าทำไมดารามาใส่เสื้อผ้าให้แก่ร้านค้าทั่วไปตามข้างทางถ่ายรูป หลายครั้งเหมือนกันที่เคยซื้อเสื้อผ้าแบบนั้นมาใส่เพราะดาราคนนั้นใส่สวยดี อยากสวยเหมือนดารา! ตลกเหมือนกันไม่เคยรู้จริงๆ นะ ต่อจากนี้ไปจะดูให้ดีๆ สิว่า ตัดต่อยังไง ทำไมเหมือนมากๆ”
 

เหตุเกิดจากความสวย
ช่างเป็นเรื่องน่าเศร้าของเหล่าดาราที่มีชื่อเสียงเสียแล้ว เพราะวันดีคืนดีอาจมีภาพตัวเองปรากฏอยู่ที่ไหนสักแห่ง ซึ่งทำให้เกิดความอับอายเสียหายอย่างเลี่ยงไม่ได้ เป็นอย่างนี้หน้าตาดีมีชื่อเสียงกลับกลายเป็นชื่อเสียเมื่อใดก็ได้โดยไม่รู้ตัว

ในมุมความคิดเห็นสาวสวยดาราชื่อดัง ศิริน หอวัง หรือมักรู้จักกันดีในชื่อ คริส หอวัง ดาราสาวหน้าหมวย ให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นเหล่านี้ว่า การนำภาพดาราไปใช้ไม่ได้รับอนุญาตเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง และรู้สึกแย่เพราะเป็นการนำไปใช้เพื่อประโยชน์ทางการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต

“รูปภาพเป็นสิทธิส่วนบุคคล ไม่ใช่สิ่งที่ใครจะนำไปใช้ทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ อีกทั้งการนำภาพไปติดตามสถานบันเทิงหรือสถานให้บริการต่างๆ ยิ่งเป็นเรื่องที่แย่เพราะเป็นการนำไปใช้เพื่อประโยชน์ทางการค้า โดยที่ตัวดาราเองไม่รู้เห็นและไม่ได้มีส่วนร่วมกับงาน”

แต่ด้วยความที่เป็นดาราหรือทำอาชีพนางแบบ รูปก็อาจจะไปปรากฏตามที่ต่างๆ ทำให้ถูกหยิบมาใช้ประโยชน์ได้ง่าย แต่ถ้ากรณีที่ไม่ทำให้เสียชื่อเสียงหรือเสียหายก็ไม่เป็นไร

“เราเป็นดารารูปจึงไปอยู่ในที่สาธารณะ หรือเฟซบุ๊กของคนอื่นที่ไม่รู้จักก็มี หรือเป็นพวกร้านเสื้อผ้า ที่เขามักใช้รูปดาราก็ถือว่าให้อภัยได้ ถ้าไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์เรื่องการค้าขาย หรือล่วงล้ำสิทธิส่วนตัวเกินไป ถ้าเป็นภาพโป๊หรือว่าเกินไปก็ไม่น่าถูกต้อง”
……….

การหยิบรูปดาราเหล่านี้มาหาผลประโยชน์เป็นกลยุทธ์เชิงการตลาดที่สถานบริการหรือบุคคลให้ความสนใจเพื่อดึงดูดลูกค้าสร้างผลกำไรของกิจการ แต่เชื่อเถอะว่าก็ยังมีลูกค้าสมัครใจอีกหลายล้านคนที่สนับสนุนกิจการเหล่านี้ แม้รู้ว่าภาพนั้นไม่ใช่ดาราคนนั้นจริงๆก็ตาม จึงทำให้กิจการหลายแห่งรุ่งเรืองร่ำรวยด้วยการขายความเซ็กซี่ของเหล่าดาราหน้าร้านเรียกลูกค้านี้

บางครั้งเจ้าตัวก็ได้แต่ทำใจ เพราะจะแก้ไขอย่างไรก็คงไม่หมดสิ้นจึงต้องทำเป็นเมินกับเรื่องราวความเสียหาย จนทำให้พวกหาผลประโยชน์จากภาพร่างกายพวกเธอได้ใจ ทำต่อไปอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมายหรือสนใจว่าใครจะได้รับความเสียหาย หากไม่มีการจัดการแก้ไขการละเมิดสิทธิในลักษณะนี้ก็จะเกิดขึ้นเรื่อยๆ อย่างไม่หมดสิ้น.

>>>>>>>>>>
 

……..
เรื่อง : ทีมข่าว CLICK




กำลังโหลดความคิดเห็น