xs
xsm
sm
md
lg

ถ้าได้ประกบพระเอก "ใจถึง" : หนึ่งทางดาวของ "พิ้งกี้" ในอินเดีย/ไก่ อำนาจ

เผยแพร่:   โดย: อำนาจ เกิดเทพ


หากไม่ทำตัวจนมีสารพัดข่าวฉาวๆ เกิดขึ้นมา เชื่อได้เลยครับว่าการมีโอกาสไปแสดงภาพยนตร์ที่อินเดียของนักแสดงสาว "พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช" คงจะมีคนไทยหลายคนให้ความสนใจรวมถึงเอาใจช่วยเธอมากกว่านี้

ทว่างานนี้นอกจากบางส่วนจะไม่เอาใจช่วยแล้ว ดูเหมือนว่าคำซ้ำเติมที่มีให้ก็ไม่น้อยเช่นกัน ยกตัวอย่างจากข่าวล่าสุดที่ว่าหนังที่เธอร่วมแสดงต้องเลื่อนฉาย(แล้วเลื่อนฉายอีก)ไปเป็นวันที่ 29 กรกฎาคม

ที่ผ่านมาข้อมูลรวมถึงรายละเอียดตลอดจนความคืบหน้าต่างๆ เกี่ยวกับภาพยนตร์ที่นักแสดงสาวไปร่วมแสดงนั้นถือว่ามีออกมาค่อนข้างจะน้อยมากๆ

แถมในบ้านเราเอง การนำเสนอข่าวคราวส่วนใหญ่ก็มักจะออกไปในแนว "อวย" กัน อาทิ ได้เล่นกับพระเอกสุดฮอตของอินเดีย, พระเอกคนดังของอินเดียชมว่าสวย-เก่ง, งานเปิดตัวรอบปฐมทัศน์ที่จัดได้ยิ่งใหญ่, มีดาราชื่อดังของอินเดียมาร่วมแสดงความยินดีกันอย่างคับคั่ง, ดาราคนดังบอลลีวูดชมว่าแสดงเก่ง, หนังมันมาก ฯลฯ จนดูราวกับเป็นข่าวที่จงใจจะไปลบคำสบประมาทของใครหลายคนที่มองว่าการได้มีโอกาสโกอินเดียครั้งนี้ของนักแสดงสาวนั้นเป็นเพียง "ราคาคุย" มากกว่าที่จะบอกเล่าถึงจุดเด่น+ความน่าสนใจของตัวภาพยนตร์



สำหรับภาพยนตร์ภาษาทมิฬเรื่องแรกที่นักแสดงสาวชาวไทยไปร่วมแสดงด้วยนั้นมีชื่อว่า "MARKANDEYAN" ว่าด้วยเรื่องราวของ "มาร์ก" (Mark) ชายหนุ่มที่จู่ๆ ก็ไปนอนสลบไสล จำความไม่ได้ ลำตัวเต็มไปด้วยบาดแผลอยู่ในป่าแห่งหนึ่ง ซึ่งหลังได้รับความช่วยเหลือจากชาวบ้านจนร่างกายเริ่มหายดี มาร์กจึงเดินทางกลับเข้ามาในเมือง ก่อนที่ตัวเขาจะพบว่าตนเองตกอยู่ในการตามล่าของแก็งค์มาเฟียกลุ่มหนึ่ง

ระหว่างหนีการไล่ล่า มาร์กพยายามทบทวนถึงเรื่องราวในอดีต เขาเริ่มจำได้ถึงคนรักของเขา "ดิเวีย" (Divya) เขาเริ่มจำได้ถึงเหตุการณ์บางอย่าง...เขามีเรื่องกระทบกระทั่งใครคนหนึ่ง, เขาพยายามรักษาไว้ซึ่งชีวิตรักของเขา, ดิเวียกับเขาตกอยู่ในอันตราย ทั้งหมดมันทำให้เขาสับสนและโกรธเมื่อได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น..?

หนังกำกับ(พร้อมควบตำแหน่งโปรดิวเซอร์)โดย Fefsi Vijayan ที่ว่ากันว่าเป็น "สตั๊นท์ตัวพ่อ" คนหนึ่งของวงการหนัง "กอลลีวูด" (Kollywood) ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ก็เป็นบทพิสูจน์บทหนึ่งว่าเขาจะสามารถก้าวขึ้นไปยืนอยู่ในฐานะของผู้กำกับมีชื่อของกอลลีวูดได้หรือไม่ โดยหนังได้ Sundar C Babu รับหน้าที่ดูแลในส่วนของดนตรี และส่วนหนึ่งของหนังถ่ายทำกันในป่าเขตแบมบู โดยหนังเองจะสื่อให้เห็นถึงการใช้ชีวิตของคนป่าในแบมบูนี้ด้วย

พระเอกของเรื่องมีชื่อว่า Sabareesh ซึ่งเป็นลูกชายของ Fefsi Vijayan นั่นเอง ส่วนคนอื่นๆ นั้นประกอบไปด้วยนักแสดงสาวชาวอินเดีย Niveditha ร่วมด้วย Srihari และ Santhanam รวมถึงนักแสดงสาวชายไทยซึ่งเธอเองได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อของอินเดียชื่อ an indianteracts ถึงคาแรกเตอร์โดยรวมของตัว "ดิเวีย" ที่เธอแสดงว่าเป็นหญิงสาวที่มีคาแรกเตอร์หลากหลาย บางเวลาก็ดูเป็นคนเข้มแข็ง บางครั้งก็ร่าเริงสดใส บางครั้งก็เศร้า เพราะต้องตกไปอยู่ในสถานการณ์ที่แตกต่าง

ในความเป็นจริงแม้ "กอลลีวูด" (คำที่ใช้อ้างอิงถึงอุตสาหกรรมการผลิตภาพยนตร์ระหว่าง อินเดีย กับ เนปาล ประกอบด้วย Tamil cinema หนังที่ใช้ภาษาทมิฬ ตั้งอยู่ที่ Kodambakkam เมืองเจนไน ในรัฐทมิฬนาฑู ที่นักแสดงสาวไทยไปร่วมเปิดตัวหนัง MARKANDEYAN รอบปฐมทัศน์เมื่อกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ขณะ Cinema of Nepal หนังที่ใช้ภาษาเนปาลนั้นจะอยู่ที่กาฐมาณฑุเมืองหลวงของเนปาล)นั้น ความยิ่งใหญ่จะเทียบเท่าไม่ได้กับ "บอลลีวูด" (Bollywood) ซึ่งถือว่าเป็นฮอลลีวูดของบอมเบย์ที่แต่ละปีผลิตภาพยนตร์ออกสู่ตลาดมากที่สุดในโลก แต่ทั้งนี้ก็ต้องถือว่าไม่ได้ขี้เหร่อะไรมากมายนัก

อย่างไรก็ตาม หากนักแสดงสาวชาวไทยฝันที่จะไปสร้างชื่อเสียง ระดับที่ถูกเรียกว่าเป็นซูเปอร์สตาร์ของบอลลีวูดนั้น คงจะต้องบอกว่ายาก จนถึงขนาดที่ว่าแทบจะเป็นไปไม่ได้

หลายคนอาจจะมองตามหลักของความยิ่งใหญ่ว่า ด้วยความที่อินเดีย(รวมถึงจีน) เป็นประเทศที่มีประชากรระดับพันล้านนั้น หากมีคนให้ความสนใจ หรือได้รับความนิยมเพียงแค่ 1 เปอร์เซ็นต์ก็ต้องถือว่ามหาศาลแล้วเมื่อเทียบกับในบ้านเรา ซึ่งนั่นก็ถูก ทว่าหากมองมุมกลับ ยิ่งจำนวนคนเยอะมากเท่าไหร่เมื่อนั้นการแข่งขันก็ย่อมที่จะต้องสูงมากขึ้นตามไปด้วย เอากันแค่ง่ายๆ เฉพาะปีเดียวบอลลีวูดก็ทำหนังออกมามากถึง 700 - 800 เรื่องแล้ว คิดดูแล้วกันว่าหนังจะต้องแข่งกันโปรโมต แย่งพื้นที่ข่าวกันมากน้อยเพียงใด

รวมถึงจะต้องมีพระเอก-นางเอกกี่คนที่ต้องแข่งกันเด่น แย่งกันดัง

ที่สำคัญ กับหนัง MARKANDEYAN นั้น ดูเหมือนว่ามันจะถูกทำขึ้นมาเพื่อเป็น "บันได" ของตัวพระเอกอย่าง Sabareesh มากกว่า ซึ่งก็หาใช่เรื่องแปลกถ้ามองกันถึงสายสัมพันธ์ของเขากับตัวผู้กำกับ รวมไปถึงความเป็น "อินเดียแอ็กชั่น" ที่หนังส่วนใหญ่มักจะเน้นขายนักแสดงชายเป็นหลักเนื่องจากจะได้การตอบรับจากกลุ่มคนดูไม่ว่าจะเพศชายหรือหญิงก็ตามมากกว่า

นอกจากนี้การโปรโมตภาพยนตร์นั้นก็ดูจะเงียบเหงาไปนิด รวมถึงหนังตัวอย่างที่เป็น Official Trailor ฉบับสมบูรณ์ก็เพิ่งจะถูกปล่อยออกมาในช่วงราวๆ วันที่ 22-25 ก.ค.นี้เอง ซึ่งเมื่อมองไปยังกำหนดที่หนังจะฉายในวันที่ 29 นี้แล้ว ต้องถือว่ามีช่วงเวลาในการโปรโมตน้อยมาก

ทางเดียวที่นักแสดงสาวจากไทยเราจะสร้างชื่อในอินเดียได้ก็คงจะอยู่ที่ว่าหนังเรื่องแรกของเธอนั้นจะดังเปรี้ยงปร้างขนาดไหน ซึ่งบางคนอาจจะมองว่าก็มีความเป็นไปได้หลังจากที่ได้ดูหนังตัวอย่างแล้วรู้สึกถึงความน่าตื่นตาตื่นใจของฉากแอ็กชั่น แต่ทั้งนี้ก็ต้องขอเรียนกันตรงๆ ครับว่า ช่วงหลังๆ มานี้ หนังแอ็กชั่นของอินเดียมีเยอะเรื่องมากๆ ที่ทำได้ยิ่งใหญ่อลังการ มีฉากการต่อสู้ที่ชวนตื่นเต้นเร้าใจ แต่ที่เราไม่ค่อยรู้ก็เพราะไม่ค่อยมีโอกาสได้ชมนั่นเอง

อะไรก็ดูจะยากยิ่งไปซะทั้งหมด แต่หนทางของนักแสดงสาวของไทยเราก็ใช่ว่าจะไม่มีเอาเสียเลยครับ

ย้อนกลับไปถึงช่วงที่นักแสดงหญิงเดินทางไปเปิดตัวหนังรอบปฐมทัศน์ มีข่าวอยู่ชิ้นหนึ่งเกี่ยวกับการมาร่วมงานดังกล่าวของพระเอกบอลลีวูด "ซัลมาน ข่าน" (Salman Khan) โดยตามข่าวระบุว่าเขาได้กล่าวชื่นชมนักแสดงหญิงของไทยเราว่าแสดงได้ดี พร้อมบอกว่าสามารถที่จะไปเล่นหนังในบอลลีวูดได้สบายอีกต่างหาก

ผมไม่รู้ว่าข่าวชิ้นนี้มีความเป็นจริงมากน้อยเพียงไร? แต่ถ้านั่นเป็นคำชมจากใจจริงก็ต้องถือว่าน่าสนใจ

เพราะ "ซัลมาน ข่าน" คนที่ว่านี้ ณ ช่วงเวลานี้ เขาเป็นนักแสดงที่เป็น "ของจริง" เป็นนักแสดงที่มาแรงมากๆ ของบอลลีวูด โดยเฉพาะกับผลงานหนังแอ็กชั่นที่มีชื่อว่า "Dabangg" ที่เขาแสดงนำนั้นจัดเป็นงานที่ประสบความสำเร็จมากๆ ในปีที่ผ่านมา

หนังทำลายหลายสถิติบ็อกซ์ออฟฟิศของอินเดียในการเข้าฉายเพียงแค่สัปดาห์แรก ทั้งเป็นหนังที่ทำเงินสูงสุดตลอดกาลของบอลลีวูดในการฉายเปิดตัวช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์, เป็นหนังที่ทำเงินสูงสุดตลาดกาลในการเข้าฉายในหนึ่งสัปดาห์(โค่นแชมป์เก่าอย่าง 3 Idiots), เป็นหนังที่ทำเงินสูงสุดของบอลลีวูดเมื่อปีที่ผ่านมา, เป็นหนังที่ทำรายได้รวมเป็นอันดับสองของหนังทำเงินสูงสุดของบอลลีวูด และเป็นอันดับ 4 ของหนังทำเงินสูงสุดตลอดกาลของอินเดีย

หนังคว้ารางวัลมาแล้วมากมาย ทั้ง 6 รางวัล Filmfare, 7 รางวัล Star Screen, 9 รางวัล Zee Cine และเมื่อวันที่ 25 มิถุนายนที่ผ่านมาในงานแจกรางวัลของสถาบันภาพยนตร์อินเดียนานาชาติ หรือ IIFA ครั้งที่ 12 ที่จัดกันที่โทรอนโต แคนาดา (เป็นครั้งแรกที่ IIFA เดินทางกันไปที่ทวีปอเมริกาเหนือ) Dabangg ก็กวาดมาได้อีกถึง 9 รางวัลด้วยกัน

ถึงตอนนี้ Dabangg ผลงานการกำกับเรื่องแรกของ "อภินาฟ กาเชียบ" ซึ่งมีพระเอกชื่อดังอย่าง "อรบาซ ข่าน" (น้องชายของ "ซัลมาน ข่าน") นั่งแท่นผู้อำนวยการสร้างทำรายได้ไปแล้ว 2,100 ล้านรูปี (ประมาณ 1,400 ล้านบาท) จากทุนสร้าง 420 ล้านรูปี (289 ล้านบาท) เท่านั้น

Dabangg (หมายถึง "ใจถึง") เล่าเรื่องของ “ชุลบุญ พันเดช" (ซัลมาน ข่าน) นายตำรวจสุดโหดที่หาเงินทั้งวิธีสุจริตและทุจริต เขามีปัญหาไม่กินเส้นกับพ่อเลี้ยงและน้องชายต่างมารดามานาน จนกระทั่งมีสาวสวยนางหนึ่งเข้ามาสู่ชีวิต ก็ได้ทำให้ชุลบุญนั้นเห็นโลกในอีกมุมที่ดีขึ้น และทำให้เปิดใจยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นในครอบครัวมากขึ้น แต่เรื่องราวที่เกือบจะลงเอยด้วยดีก็ต้องมาเสียหลัก เมื่อทรชนวายร้ายวางแผนยุยงให้พี่น้องคู่นี้แตกคอกันถึงขั้นจ่อปืนใส่กันจนได้...” (เรื่องย่อจาก J Bic)

ผมเองได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วครับ เรื่องของ "เทคนิค-ซีจี" ต่างๆ อาจจะยังไม่เทียบเท่ากับฮอลลีวูด แต่หนังก็ทำออกมาได้หวือหวาทีเดียว แถมมีครบทุกรส ทั้งสนุก ชวนตื่นเต้น ตลก ทั้งน่ารัก เพลงก็เพราะ ซึ่งก็ต้องขอชื่นชมบอลลีวูด เพราะแม้บางอย่างจะมีการเดินตามรอยของฮอลลีวูด แต่บอลลีวูดก็ยังคงเป็นบอลลีวูด ดูเมื่อไรก็สัมผัสได้ในทันทีในรสชาติของความสนุกด้วยอารมณ์ความเป็นอินเดียที่แปลกแตกต่าง

ใครมีโอกาสลองหาหนังเรื่องมาดูกันได้

ส่วนพิ้งกี้เอง ถ้ามีโอกาสได้ประกบกับพระเอกคนนี้ก็ต้องถือประตูแห่งความสำเร็จนั้นเปิดอ้ารอแล้ว ขึ้นอยู่ที่ว่าเธอจะใช้ความสามารถในการก้าวเดินเข้าไปได้มากน้อยเพียงไรนั่นเอง

ท้ายสุด...จะเป็นบอลลีวูดเองหรือที่ไหนๆ ก็ตาม การที่ดารานักแสดงตลอดจนนักร้องคนหนึ่งจะกลายเป็นคนดัง มีชื่อมีเสียง เป็นซูเปอร์สตาร์ ส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่ต่างก็วัดกันที่ความสามารถ รวมถึงความสำเร็จของผลงานของคนนั้นๆ ที่มีออกมาทั้งสิ้น

จะมีก็ที่บ้านเรานี่แหละครับ ที่ส่วนใหญ่ต่างก็โด่งดัง มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักมีคนจ้างให้ทำงาน ก็ด้วยการตกเป็นข่าวฉาวๆ มีข่าวเปลี่ยนแฟนบ่อยๆ รับงานหวือหวา ฯ

ทั้งหลายทั้งปวง หวังว่านักแสดงสาวชาวไทยเราคงจะเก็บไปเป็นข้อคิดอะไรได้บ้างเล็กๆ น้อยๆ หากต้องการที่จะเดินต่อไปบนถนนสายบันเทิงของอินเดีย หรือจะเป็นที่ไหนๆ ก็ตาม

อ้อ...อีกอย่างหนึ่ง ที่นั่นเรื่องบาป บุญ คุณ โทษ ความกตัญญูนี่เขาถือกันมากเลยนะ...จะบอกให้
หนึ่งในโปสเตอร์ภาพยนตร์ MARKANDEYAN

กำลังโหลดความคิดเห็น