“สมรักษ์” เผยไม่เคยมีความคิดจะดึง “จุ๋ย วรัทยา”นางเอกช่อง7สี เข้ามาเพิ่ม เพราะตอนนี้มีโครงการจะปั้นนางเอกหน้าใหม่มากกว่า และเตรียมจะเปิดตัวทีเดียว 4 คนรวด พร้อมบอกละครล็อตใหม่ของช่องมีครบทุกแนว อีกทั้ง “นายประวิทย์”บอสใหญ่วิก3 ยังกำชับในเรื่องเนื้อหาที่นำเสนอต้องไม่รุนแรงเกินไป
หลังจากที่เหล่าบรรดาพระนางรุ่นบุกเบิกของช่อง 7 สีต่างตบเท้าเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ของวิก3 กันหลายต่อหลายคนอาทิ “ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต”, “ป๋อ ณัฐวุฒิ สกิดใจ”ซึ่งล่าสุดมีกระแสข่าวลือแว่วว่านางเอกสาวแห่งช่อง7สี “จุ๋ย วรัทยา นิลคูหา” ก็เตรียมหอบผ้ามาซบช่อง 3 แล้วเหมือนกัน ล่าสุดพอได้เจอตัว “นายสมรักษ์ ณรงค์วิชัย” ผู้บริหารฝ่ายผลิตรายการของทางช่อง 3 ในงาน “เปิดวิกบิ๊ก3” ที่ชั้น 8 อาคารมาลีนนท์ เจ้าตัวก็เผยว่ายังไม่เคยมีความคิดเรื่องนี้เลย เพราะช่องมีนโยบายเตรียมปั้นนางเอกใหม่อยู่
“เรื่องทาบทามจุ๋ย(วรัทยา นิลคูหา) ถ้าถามผม ผมยังไม่เคยคุยและไม่ได้คิดด้วย(หัวเราะ) เพราะฉะนั้นคงไม่ใช่มาจากผมหรอก เพราะผมยังไม่ได้คิดอะไรเลย คงยังครับ เพราะตอนนี้เราพยายามจะสร้างคนใหม่ขึ้นมามากกว่า เพราะตอนนี้เรื่องโปรเจกต์จะปั้นน้องใหม่เราทำอยู่แล้ว เร็วๆ นี้จะเปิดตัวสื่อรักซิกเซ้นต์ เปิดตัวนางเอกใหม่ 4 คน คือเป็นความตั้งใจของเราอยู่แล้วครับ”
เผยละครครึ่งปีหลังจากนี้จะเน้นเรื่องคุณภาพและมีครบทุกรสชาติ แต่เรื่องของการจัดเรตติ้งถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้เป็นเรต ท. (ทั่วไป) บอก “นายประวิทย์ มาลีนนท์” สั่งให้รอบคอบในการนำเสนอ
“ละครในครึ่งปีหลังนี้ในแง่ตัวเรื่องเราพยายามทำให้มีทุกรสชาติอยู่แล้วครับ มีทั้งบู๊แอ็คชั่น มีแนวย้อนยุค แล้วก็มีทั้งเรื่องผีลึกลับ และในแง่ของการเขียนบทตอนนี้เราค่อนข้างใช้เป็นทีมเขียนบท แต่ละเรื่องใช้คนเขียนบท 2-3 คน เพราะฉะนั้นชิ้นงานมันจะใช้เวลามากหน่อย กว่าบทจะเสร็จกว่าจะปิดกล้องบางคนทำไปถึง 3-4 ร่าง บางเรื่องถึง 9 ร่างก็มี ถ้ามันยังไม่ดีไม่สนุกก็ขอแก้กันใหม่ เราดูแลกันค่อนข้างรอบคอบ และคุณประวิทย์ก็ให้เราระมัดระวังสิ่งที่สังคมกังวล ทั้งเรื่องพฤติกรรมความรุนแรง เรื่องเพศ เรื่องภาษา”
“แต่ละครยังไงแล้วมันก็ต้องมีเรื่องพวกนี้ แต่เราจะเล่ายังไงให้รู้สึกเข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น โดยที่คนจะไม่รู้สึกอะไรกับพวกนี้มากมายนัก คือฉากฆ่ากันมันคงต้องมี แต่จะทำยังไงไม่ให้เกิดความหวาดเสียว ทำยังไงไม่ให้เกิดความรู้สึกว่าเอามาเป็นตัวอย่างได้ นี่ก็เป็นกลวิธีที่ผู้จัดหรือคนเขียนบทจะต้องหามุมหาวิธีนำเสนอให้เรา เราก็คุยกันหนักมากเรื่องนี้ แต่เรื่องความขัดแย้งในตัวละครมันมีอยู่แล้ว อย่างเรื่อง “เงาพราย” ที่ผ่านมาวันนึงมันมีคนตายตั้ง 4-5 ศพ แต่ในความรู้สึกมันไม่ได้ดูรุนแรง มันมีทั้งฉากโดนรถชนตาย กระโดดตึกตาย แต่ในการนำเสนอด้วยภาพเราสามารถเล่าเรื่องได้โดยที่ไม่ได้ดูหวาดเสียว ไม่ให้ดูหวาดกลัว มันมีวิธีนำเสนอได้”
“แต่ละเรื่องจัดเรตมันมีจัดอยู่แล้ว ถามว่าเราอยากจัดถึงเรต ท. (ทั่วไป)ไหม เราอยากทำเหมือนกัน คือจริงๆ ละครเรื่องนึงมันทำเรตไหนก็ได้ แต่พอเราตั้งเป้าจะทำ ท. ก็คงจะเล่าได้ เป็น น.13+(เหมาะกับผู้มีอายุ 13 ปีขึ้นไป) ก็ทำได้ เราก็ตั้งเป้าว่าเราอยากจะทำไม่เกิน น.13+ ถ้าทำเป็น ท. ได้ก็อยากให้ทำ อย่างในส่วนของเรื่องเมียแต่งในแง่บทที่เราอ่านแล้ว ตอนแรกคนฟังแล้วก็อาจจะเข้าใจว่าเป็นเรื่องเมียน้อย เมียหลวง แต่ไม่ใช่หรอกเราจะพูดถึงครอบครัว พูดถึงเมียเพราะจริงๆ คนเป็นเมียบางคนก็อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้เบื้องหลังธุรกิจที่พระเอกประสบความสำเร็จเพราะได้เมียคนนี้มา เพราะเขาเป็นคนฉลาดแล้วก็เป็นคนกล้าตัดสินใจอะไรบางอย่าง ซึ่งการทำบทหรือการพรีเซ้นท์บทคนดูจะเข้าใจว่าอรุณประไพคาแรคเตอร์เป็นยังไง”
“ที่กระแสตอบกลับมาดีก็ถือว่าเป็นความดีความชอบของคนทำงานทั้งหมดก็แล้วกัน ทุกคนลงสมอง ลงแรงทั้งนักแสดงด้วย ด้วยความที่เราประกาศว่าเป็นครอบครัวละคร 3 ทำอะไรก็จะนึกถึงคนดูเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเรา ดังนั้นการทำงานเราก็เลยคิดแต่สิ่งที่เราอยากจะทำให้ดี อยากทำให้สนุก อยากทำให้รู้สึกมีความสุขในการชม ถ้าเกิดได้การตอบรับที่ดีเราก็คงดีใจว่าสิ่งที่เราตั้งใจไปถึงคนดู”