“นาตาลี” บอก “ขวัญ”ไม่ต้องกลัวว่าจะแย่ง“หมวดบีม” เผยฝ่ายชายโทร.มาระบายว่าทนพฤติกรรมที่ขี้หึงของนางเอกสาวไม่ไหวจึงได้บอกเลิก พร้อมกับขอโทษ โต้นางเอกสาวคู่กรณีว่าตนเองก็ไม่อยากพูดถึงเหมือนกัน แต่ที่พูดครั้งนี้ก็เพื่อปกป้องตัวเองและอยากจะพูดแต่เรื่องจริงเท่านั้น ยืนยันความสัมพันธ์กับ “เอิ้น” ยังเหมือนเดิมแค่ไม่ค่อยมีเวลาให้กันเพราะต่างคนต่างงานยุ่ง
ดูท่าความรักครั้งใหม่ของนางเอกสาว “ขวัญ อุษามณี ไวทยานนท์” จะไม่ราบรื่นซะแล้ว เพราะตั้งแต่เปิดตัวว่าคบกับแฟนหนุ่มคนล่าสุดอย่าง “หมวดบีม”ครูสอนขี่ม้า ก็เริ่มมีข่าวด้านลบออกมาอยู่เรื่อยๆ ตั้งแต่ครั้งที่คบกันใหม่ๆ ก็โดนว่าไปแย่งนางเอกสาว “แพนเค้ก เขมนิจ จามิกรณ์” ถึงกับจ้างนักสืบไปตามถ่ายรูปว่าแอบไปอยู่ด้วยกันหรือเปล่า หรือที่ว่าหลงแฟนหนุ่มซะจนไม่ยอมกลับบ้านจนโดนแม่ตัวเองตัดค่าใช้จ่ายทั้งหมด แถมล่าสุดเรื่องที่ว่าโทร.ไปวีนดาราสาว “นาตาลี เดวิส” จนกระทั่งถูกแฟนหนุ่มบอกเลิก เพราะเริ่มทนพฤติกรรมไม่ไหว ซึ่งเจ้าตัวก็ออกมาโต้แล้วว่ายังไม่ได้เลิกกัน และไม่อยากพูดถึงนาตาลีอีกต่อไป เพราะแท้จริงแล้วแฟนหนุ่มของตนก็ไม่ได้สนิทสนมกับดาราสาวคนนี้เลยแม้แต่น้อย
ซึ่งล่าสุดในงาน “Tops Beauty Bazaar 2011 : Magic of Beauty” สาวนาตาลีก็ได้ออกมาโต้แบบดุเดือดเผ็ดมันเช่นกันว่า ตนเองก็ไม่ได้อยากจะพูดถึงขวัญแล้วเช่นกันและที่สำคัญหมวดบีมก็เป็นฝ่ายโทร.มาขอโทษตน พร้อมกับได้บอกว่าได้เลิกกับนางเอกสาวไปแล้ว เพราะทนพฤติกรรมที่ขี้หึงของอีกฝ่ายต่อไปไม่ไหว
“เขาว่าเขาไม่อยากพูดถึงหนูเหรอ หนูก็ไม่อยากพูดถึงเขาเหมือนกันนะ(หัวเราะ) หนูเฉยๆ นะ เรารู้อยู่แล้วว่าเรื่องจริงมันเป็นยังไง ถามว่ามาเจอกันได้ไหมร่วมงานกันได้ไหม หนูสบายอยู่แล้วเพราะว่าเราไม่มีอะไรจะต้องกลัวเพราะเราพูดเรื่องจริง คือเรื่องวันนั้นหนูอยู่กับพี่เอิ้นแล้วหนูโทร.เข้าเครื่องพี่บีม แต่ขวัญเป็นคนรับ หนูก็บอกว่าขอสายพี่บีมค่ะ เขาก็บอกไม่ว่าง พี่บีมอยู่กับขวัญ แล้วหนูก็เลยยังไม่ได้คุยพูดคุยอะไรกันกับพี่บีม แต่วันรุ่งขึ้นพี่บีมถึงได้โทร.มาขอโทษ ก็คุยอยู่นานเหมือนกันค่ะ เหมือน(หัวเราะ) รับไม่ได้กับพฤติกรรมแบบนี้ ไม่ใช่เฉพาะกับเรากับเพื่อน น้องที่เป็นผู้หญิงคนอื่นในชีวิตเขาด้วย หนูก็บอกกับพี่เขาไปว่าหนูไม่สนใจ หนูเฉยๆ เพราะรู้ว่าคนนั้นเป็นยังไง แล้วเราก็รู้ว่าเราเป็นอะไรแค่ไหน”
“พี่บีมเขาก็บอกหนูตั้งแต่เช้าวันที่โทร.มาว่าเขาเลิกกันตั้งแต่คืนนั้นเลย แต่ก็ไม่รู้ว่าเขายังไงนะ(หัวเราะ) รายละเอียดจริงๆ มันเยอะกว่านี้ แต่หนูอยากพูดแค่นี้ หนูว่าเรื่องมันก็คงรวมกันหลายๆ เรื่องมั้ง ก็ไม่รู้ว่าด้วยอารมณ์หรืออะไร แต่เขาบอกว่าเขาไม่ไหวแล้ว น้ำเสียงก็ซีเรียสนะ เพราะพี่บีมเขาเป็นคนจริงจังกับชีวิตอยู่แล้ว เขาเป็นผู้ใหญ่แล้วด้วย เขาโตแล้ว แต่พี่บีมเขาเป็นคนโอเคนะ เขาเป็นสุภาพบุรุษ เป็นทหาร ครอบครัวเขาดี แล้วหนูกับพี่บีมก็ไม่ได้มีเรื่องอะไรค้างคาใจกันเลย ไม่ได้มีอะไรต้องเคลียร์ คือคุยกันก็จบแล้วตั้งแต่วันนั้น แต่ฝั่งโน้นเขาจะค้างคาใจหรือเปล่าไม่รู้(หัวเราะ)”
“จริงๆ หนูรู้จักกับพี่บีมตั้งแต่อยู่ม.3-ม.4 นานมากแล้ว มีอะไรก็จะคุยกัน ถามสารทุกข์สุกดิบ อาจจะไม่สนิทขนาดมาคุยกันทุกวัน แต่นานๆ ทีก็คุยกัน แล้วก็อัพเดทว่าข่าวสารในชีวิตเป็นยังไง แฮปปี้ดีไหม มีความสุขไหม คือต่างคนต่างมีความหวังดี เป็นพี่เป็นน้องกัน ไม่ใช่เชิงชู้สาวหรืออะไร บางทีก็เจอกันบ้างเหมือนกัน แต่ไม่ได้สนิทกันในฐานะแฟนค่ะ อย่างที่บอกว่าหนูก็มีพี่มีน้องผู้ชายมีเพื่อนต่างเพศ พี่บีมเองหรือผู้ชายคนอื่นเองเขาก็ต้องมี ทุกคนต้องมีสังคมของตัวเอง เป็นไปไม่ได้ที่คนเราคบกันแล้วจะมีแค่เธอกับฉันในโลกใบนี้สองคน มันเป็นไปไม่ได้ มันไม่ใช่ชีวิตจริงแล้ว มันเป็นในนิยายแล้วล่ะ”
ยืนยันหนักแน่นว่าไม่ต้องกลัวว่าตนจะแย่ง “หมวดบีม” บอกตนเป็นคนไม่ยอมใครเหมือนกัน ที่บางอย่างต้องพูดก็เพื่อปกป้องตัวเอง
“แต่ขวัญไม่เคยโทร.มาหาหนูนะ หนูไม่เคยให้ข่าวเลยว่าขวัญโทร.มาวีน ที่เขาพูดก็ถูกแล้วล่ะว่าเขาไม่เคยโทร.หาหนู เพราะหนูก็ไม่เคยบอกว่าเขาโทร.หาหนู แต่จะเรียกว่าเข้าใจผิดหรือเปล่าก็ไม่รู้ เพราะหนูไปก็ไม่ได้มีเรื่องอะไรก็แค่ต้องการอยากจะรู้ธุระนิดเดียวเท่านั้น ไม่ได้จะไปแย่งอะไรของเขา หนูไม่แย่งหรอกค่ะ(หัวเราะ) ไม่แย่งๆ ไม่ต้องกลัว อึ้งไหมเหรอ แค่งงๆ เฉยๆ ไม่ได้มีความรู้สึกโกรธหรืออะไร แต่แค่งงว่าทำไมเขาทำอย่างนี้ แต่จริงๆ แม่ไม่ค่อยอยากให้พูด เพราะว่าพูดไปด้วยภาพลักษณ์เราดูแรงกว่าอยู่แล้ว คนก็จะมีทั้งที่ชอบ ไม่ชอบ แม่เขาก็จะไม่ค่อยอยากให้พูด แต่ถามว่าหนูเป็นคนที่ไม่ยอมคนไหม ก็อาจจะนิดนึง แต่เราก็ต้องปกป้องตัวเองด้วยว่าเราไม่ได้มีเจตนาที่จะไปอะไรกับของๆ ใคร เพราะว่าเราไม่ได้จะไปแย่งอะไรเขา แต่เราก็ต้องพูดในสิ่งที่เราต้องการปกป้องตัวเองว่าเรื่องจริงมันเป็นอย่างนี้”
“แต่ที่หนูไม่ค่อยได้ออกมาพูดเรื่องนี้ เพราะตอนที่หนูเคยให้สัมภาษณ์ไปครั้งนึงที่งานโตโยต้าตอนนั้น แล้วหนูก็ไปแข่งรถที่มาเลเซีย แล้วก็ไปทำนู่นทำนี่ จนเพิ่งมาสัมภาษณ์อีกทีวันนี้ ก็เห็นเหมือนกันวันที่เขาออกมาให้สัมภาษณ์ ก็ไม่ได้อะไร เขาบอกไม่อยากพูดถึง เราก็ไม่อยากพูด แม่ก็ไม่อยากให้พูด คือยิ่งพูดก็ยิ่งไปเรื่อย ยิ่งพูดมันยิ่งเยอะ เอาเป็นว่าเรารู้อยู่แก่ใจว่าเรื่องจริงมันเป็นยังไง”
“แล้วถ้ามันมีอะไรจริงหนูก็คงไม่โทร.ต่อหน้าพี่เอิ้นหรอก เพราะหนูก็ให้เกียรติพี่เอิ้นว่าอยากจะออกกำลังก็ไปขี่ม้าดีกว่า เพราะกับพี่เอิ้นก็จะมีต่อยมวยอะไรกันบ้างอยู่แล้ว หาอะไรที่มันเหนื่อยพอๆ กับแข่งรถคือมันเหนื่อยมาก แล้วเหมือนกำลังมันตก ไม่ไหว ก็เลยต้องต่อยมวย ขี่ม้า พี่เขาก็รู้ พี่เอิ้นก็เข้าใจ แต่มันก็อาจจะมีบางคนที่ไม่เข้าใจ(หัวเราะ) ก็ไม่เป็นไร แต่หนูซีเรียสตรงที่คนเข้าใจผิด หรือคนรอบข้างก็บอกเหมือนกันว่าไม่อยากพูดถึงเขาแล้วเหมือนกัน ไม่รู้ซิ แต่คนที่สนิทเขาจะทราบว่าใครเป็นอะไรยังไง ก็ไม่ต้องพูดอะไรเยอะ”
เผยความสัมพันธ์กับหนุ่ม “เอิ้น อธิเบศร์ ตรีสุขี” ยังปกติดี ไม่ได้เลิกอย่างที่เป็นข่าว แต่รับว่าอาจจะไม่ค่อยมีเวลาให้กัน เพราะต่างคนต่างงานยุ่งทั้งคู่
“กับพี่เอิ้นโอเค เรื่อยๆ อาจจะมีไม่เข้าใจกันบ้าง ทะเลาะกันบ้างเพราะตอนนี้ทำงานทุกวัน มันจะเป็นช่วงๆ ของหนูนะ ช่วงไหนที่มีก็เยอะมาก อัดกันวันๆ นึง 2-3 งาน วันก่อนถ่ายละคร 2 กอง กองนึงถ่ายตั้งแต่หกโมงเช้าถึงหกโมงเย็น อีกกองนึงทุ่มนึงถึงแปดโมงเช้าอีกวัน ตายไปเลย ก็เลยไม่ค่อยได้เจอ แล้วพี่เขาก็ทำงานหนัก เปิดยิมใหม่เรื่องเว็บไซด์อีก ก็อาจจะมีไม่เข้าใจกันบ้าง”
“แต่ไม่เคยทะเลาะกันเลยค่ะ เพราะเขาก็เป็นพี่ แล้วก็จะใจเย็นกว่าเรา พอเขาใจเย็นเราก็เลยเกรงใจ เลยไม่เคยทะเลาะเถียงกัน ทุกวันนี้ก็ยังคบกันอยู่ค่ะ ยังโอเค คือไม่ได้ทะเลาะอะไรกันรุนแรง แต่เหมือนกับมีเวลาน้อยก็เลยมีทะเลาะกันแต่ยังไม่ได้เลิกค่ะ เพราะตอนก่อนหน้านี้ที่เป็นอย่างนี้ก็เคยมีข่าวอย่างนี้ออกมาบ้างยังโอเค แต่อาจจะเหนื่อยทำงานเท่านั้นเอง แต่ข่าวเลิกกันหนูเฉยๆ นะ คือคนเราคบกันมันก็ต้องมีไม่เข้าใจกันบ้าง เราก็ค่อยๆ ปรับความเข้าใจกันไป แต่ยังไม่ได้มีทะเลาะอะไรกันรุนแรง”
“ก็ได้คุยเรื่องข่าวว่าเลิกกับพี่เอิ้นนะคะ เพราะเขาทำงานเกี่ยวกับรายการบันเทิง เขาก็จะรู้ว่ามีอะไร บางทีเขารู้ก่อน เรารู้ก่อน ก็มีคุยกันว่ามันอะไรยังไง แล้วภาพหนูกับหนุ่มคนใหม่ อันนี้ไม่มีแน่นอน ช่วงนี้คนที่จะอยู่ด้วยบ่อยๆ ก็จะมีทางคนของโตโยต้า ไปซ้อมขับรถบ้าง ไปซ้อมขับรถต่างจังหวัดก็จะมีบ้าง คิดว่าไม่มีปัญหาอะไรหรอกเพราะพี่เอิ้นเขาก็รู้จักหมดว่าใครที่เป็นเพื่อนเป็นพี่เป็นน้องเรา เพราะเวลาไปไหนหนูก็จะบอกก่อนว่าวันนี้ไปกับคนนี้ๆ นะ เขาก็จะโอเค เพราะเขาโตแล้วเขาก็จะไม่ค่อยมาอะไรมาก”
“ตอนมีข่าวเขาก็รู้อยู่แล้ว เขาไม่ได้มีปัญหาเรื่องหึงหวงอะไรเท่าไหร่คือเขาโตแล้ว เราก็ได้ความสบายใจตรงนี้ด้วยว่าไม่ต้องมานั่งปวดหัวเวลาทำงาน ก็โอเค ชิลล์ๆ เพราะอย่างเวลาทำงานเขาก็อาจจะแว้บมาหา หรือบางทีเรามีช่วงว่างระหว่างทำงานบ้างก็จะมีนัดเจอกันครึ่งทางก็มี ถ้าเกิดหาเวลาว่างมาเจอกันได้ก็โอเค แต่เขาก็ไม่ค่อยอะไรนะ บางทีไม่ได้เจอเขาก็ไม่ได้ว่าอะไรแต่แค่ไปกินข้าวกันมื้อนึงก็ยังโอเคกว่าไม่ได้เจอเลย ช่วงนี้เจอกันน้อยค่ะเพราะเปิดละครด้วย แล้วก็เพิ่งถ่ายหนังดังสุดสัปดาห์ของช่อง 3 เสร็จ ก็หนักไปเลยหลายวัน”