“โดม” รับ “อั้ม” เป็นคนมีเสน่ห์ ใครเห็นก็ต้องชอบ แต่วอนอย่าบ้าจี้ตามหมอดู เจ้าตัวเผย ฝ่ายหญิงเคยโทรหาเมื่อหลายเดือนก่อน แต่แค่ปรึกษาเรื่องหมาป่วยเท่านั้น บอก เรื่องจีบอั้มเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว พร้อมปฏิเสธแอนตี้การทำท่าแพลงกิ้ง แจง ที่ทวิตถึงเรื่องนี้เพราะอยากให้ความรู้เท่านั้น
มีข่าวที่ทำให้สาว “เพ้นท์” หวานใจของนักร้องหนุ่มหล่อขั้นเทพ “โดม ปกรณ์ ลัม” ต้องหวั่นใจอีกแล้ว ที่อยู่ๆ ก็มีหมอดูออกมาทำนายว่า หนุ่มโดมดวงสมพงศ์กับนางเอกสาวสุดฮอต “อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ” เป็นที่สุด เรียกว่าเป็นดวงเนื้อคู่กันเลยทีเดียว แถมตอนนี้ฝ่ายหญิงก็เพิ่งโสดหมาดๆ และมีข่าวว่าคู่นี้เคยโทรขอคำปรึกษากันอยู่บ่อยๆ เลยยิ่งเป็นที่จับตามองว่าขึ้นไปอีก แต่ “อั้ม” ก็ออกมาบอกแล้วว่าไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะนักร้องหนุ่มมีแฟนอยู่แล้วทั้งคน
คราวนี้ก็ถึงที “โดม” ต้องชี้แจงบ้าง โดยเจ้าตัวก็เผยว่า ไม่ได้คิดอะไรมากกับเรื่องนี้ และคงไม่จีบ “อั้ม” แต่ยอมรับเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์ ใครเห็นก็ต้องชอบ และยอมรับฝ่ายหญิงเคยโทรมาขอคำปรึกษาจริง
“ที่หมอดูทำนายผมกับคุณอั้ม(หัวเราะ) อันนี้ไม่รู้เลยว่าเป็นสำนักไหน แต่ส่วนตัวกับคุณอั้มก็รู้จักกันในวงการ ก็ทักทายกันเป็นปกติ แต่ถามว่าสเปคไหม เขาก็เป็นคนมีเสน่ห์อยู่แล้วนะครับ ใครเห็นก็ชอบอยู่แล้ว แต่ถามว่าจะจีบไหมเป็นไปไม่ได้เลยครับ คงยัง อย่าเพิ่งไปตามกระแสครับ แต่ถ้ามีโอกาสได้เล่นละครด้วยกัน อันนี้ก็ยังไม่ทราบครับ เป็นเรื่องของอนาคต เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ด้วย สำหรับผมอย่างที่บอกว่าให้ทางโพลีพลัสดูแลอยู่แล้ว ถ้าเกิดผู้ใหญ่ที่นั่นอยากจะชวนให้มาเล่นกับคุณอั้มก็เต็มที่อยู่แล้ว”
“แต่ตั้งแต่มีข่าวมาก็ยังไม่ได้คุยกันเลยครับ คุยล่าสุดก็เมื่อ 2-3 เดือนที่แล้วตอนที่หมาเขาไม่สบาย เขาก็โทรมา แต่ไม่มีอะไรครับ คือหมาเขาป่วยเป็นโรคหัด แล้วโรคหัดนี่รอดยากมาก แต่หมาผมเคยรอดมาแล้ว เขาก็เลยโทรมาถาม แล้วก็ไปรักษาที่โรงพยาบาลเดียวกัน เพราะว่าตอนนั้นเขาก็ตกใจ แต่ไม่ได้ตามผลอะไรครับ ยังไม่ได้บริการหลังการขายขนาดนั้น(หัวเราะ)”
เผย เรื่องที่โพสต์ในทวิตเตอร์ถึงความไม่ค่อยเหมาะสมเกี่ยวกับเรื่องการของทำแพลงกิ้งที่กำลังเป็นที่ฮอตฮิตตอนนี้ บอกตนไม่ได้แอนตี้ แต่แค่โพสต์เพื่อให้รู้เหตุผลของการทำแพลงกิ้งที่แท้จริงเท่านั้น
“เรื่องแพลงกิ้งที่ผมโพสต์ในทวิตเตอร์ จริงๆ แล้วผมไม่ได้แอนตี้นะครับ เพราะตัวผมก็ยังเคยทำอยู่ แต่เห็นว่าตอนนี้มันเป็นกระแสระบาดมาก เห็นหลายๆ คนทำตามโดยที่ไม่รู้ถึงที่มาที่ไป ผมก็ได้ทวิตบอกไปว่าจริงๆ แล้วคนที่คิดทำแพลงกิ้งเขาก็มีคอนเซ็ปท์ที่ชัดเจนว่าเขาอยากจะถ่ายรูปกัน ซึ่งมันไม่ได้อยู่ในกรอบของการที่ยืนถ่ายปกติ ในเมื่อคนเราก็นอนถ่ายรูปได้ ซึ่งผมก็มองว่ามันก็เป็นจุดของความคิดที่ดีในมุมของการกล้าคิดกล้าทำและนำเสนอสิ่งใหม่ๆ แต่ว่าน้องๆ ที่ทำกันกลายเป็นเรื่องที่ว่าต้องทำ ก็อยากทำบ้าง ผมก็ให้ข้อคิดที่ดีไป”
“แต่ไม่ได้แอนตี้ครับ คือมันก็เหมือนกับหลายๆ กระแสที่มันผ่านเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น เกาหลี เหมือนกับเราไปมองที่ผลลัพธ์มันมากกว่าที่เหตุว่าจริงๆ แล้วเนื้อแท้ของมันคืออะไร ซึ่งผมมองว่าถ้าเกิดหลายๆ คนสนใจที่เหตุมันบ้าง มันจะเป็นข้อคิดที่ดีนะกับการที่เราจะทำอะไรหลายๆ อย่างที่เป็นประโยชน์ จริงๆ แล้วถ้าเราสร้างเองบ้างแทนที่เราจะไปตามเขาอย่างเดียว พอเราสร้างได้มันก็จะเกิดเป็นวัฒนธรรม เป็นเหมือนกับวิธีการที่เกาหลีเขาทำจนเขาแข็งแรง จนคนทั่วโลกเชื่อ คนไทยเชื่อ เราก็มีท่าดีๆ ตั้งเยอะ ทำไมต้องนอนคว่ำด้วย(หัวเราะ)”