“แมว” ปฏิเสธข่าวเป็นโรคร้าย แจง ที่ผอมซูบเพราะออกกำลังกาย แต่ยอมรับเข้าออกโรงพยาบาลเพราะไปตรวจร่างกายประจำปีเฉยๆ บอก ข่าวไม่มีมูลจึงไม่จำเป็นต้องเดือดร้อน พร้อมลั่น ยังไม่อยากมีลูกคนใหม่ เหตุอยากดูแล “ทิกเกอร์” ให้ดีก่อน
ประกาศแต่งงานใหม่กับแฟนนอกวงการไปปีกว่า ล่าสุดกลับมีข่าวลือสะพัดออกมาว่า ร็อกเกอร์ชื่อดัง “แมว จิระศักดิ์ ปานพุ่ม” เป็นโรคร้าย เนื่องจากมีคนเห็นว่าหนุ่ม “แมว” แอบควงภรรยา “แหนว อาจารี ม่วงพลับ” เข้าโรงพยาบาลเพื่อเปลี่ยนถ่ายเลือดกันเลยทีเดียว บวกกับที่ตอนนี้หนุ่ม “แมว” ผอมซูบลงอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งตอกย้ำให้ประเด็นดังกล่าวเป็นที่น่าสงสัยยิ่งขึ้น ร้อนถึงเจ้าตัวต้องออกมาเคลียร์ด้วยตัวเอง โดนยืนยันว่าที่ไปเจาะเลือดที่โรงพยาบาลแค่การตรวจร่างกายปกติ ส่วนที่ผอมลงก็เพราะออกกำลังกายนั่นเอง
“ตอนนี้ผมสบายดีนะครับ อาจเป็นว่าเห็นผมผอมลงรึเปล่า ซึ่งผมถือว่าเป็นข่าวดี ที่ผมผอมลง เพราะตอนนี้ก็ออกกำลังกาย ทำชีวิตเป็นปกติ แต่ก่อนนี้จะดื่มเหล้านอนเช้า แต่ตอนนี้ก็เลิกทุกอย่าง หันมานอนเร็วตื่น 6 โมงเช้าก็ตื่นแล้วก็ออกกำลังกาย”
“ที่ผมเข้าโรงพยาบาลก็มีบ้างนะครับ เข้าเป็นปกติ ตามวาระ ที่ผ่านมาอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย และถ้าผมมีงานดึกติดกันสามวันผมก็จะป่วยและก็ต้องไปหาหมอ แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นหวัดธรรมดา แต่ก็มีคอเลสเตอรอลบ้าง ก็เลยไปตรวจเลือด ตรวจร่างกายประจำปี แต่ไม่ได้เป็นโรคร้ายอะไร ข่าวไม่จริงก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร แต่ถ้าเอาเรื่องจริงมาพูดแล้วตอกย้ำหรือพูดบิดเบือนไปในทางที่เสียหาย อันนั้นก็จะเป็นอีกเรื่องนึง แต่เรื่องนี้มันไม่มีมูลความจริง ผมก็ไม่โกรธนะครับขำๆ ตลกๆ”
“ร่างกายตอนนี้ก็ยังแข็งแรงดีนะครับ ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วง แล้วก็มาถามไถ่กัน ดีแล้วครับมีอะไรก็มาถามกัน อย่าคิดกันไปเองอย่าเข้าใจกันไปเอง”
แต่งงานใหม่กับแฟนนอกวงการมาปีกว่า ผู้สื่อข่าวจึงแย็บถามเรื่องการมีทายาท หนุ่ม “แมว” ก็บอกว่ายังไม่คิดเพราะอยากดูแล “ทิกเกอร์” ลูกชายที่เกิดกับ “นิโคล” ให้ดีก่อน
“ตอนนี้ยังไม่มีแพลนที่จะมีน้อง ไม่คิดจะมีเลย แต่ไม่ถึงกับทำหมันเพราะไม่อยากให้หมอเห็น(หัวเราะ) และอีกอย่างความคิดของเราทั้งสองคนเห็นตรงว่า ยังไม่มีดีกว่า แต่ที่จริงแล้วตอนนี้อยากจะดูแลทิกเกอร์ให้ดี เพราะว่าทิกเกอร์น่ารักมาก และผมก็ไม่ให้เด็กคนนึงออกมาเจอสังคมอะไรแบบนี้ ผมรู้สึกว่าเดี๋ยวนี้มีแต่ข่าวอะไรก็ไม่รู้ บางทีเด็กข่มขื่นผู้ใหญ่ก็มี ทั้งเรื่องเด็กตีกัน ผมเลยมาคิดว่าลูกเราต้องโตแล้วออกมาเจออะไรแบบนี้”
“กับลูกก็เจอกันบ่อยครับ แต่ก็มีช่วงนี้ที่มีงานทางเอเอฟ ก็ไม่ค่อยได้เจอน้อง แต่ช่วงระหว่างอาทิตย์ก็มีไปรับ ไปเจอกันที่โรงเรียนบ้าง เวลาปิดเทอมทุกครั้งก็จะมาพักที่บ้าน เรื่องทิกเกอร์เราก็มีคุยกันว่าจะให้เขาเรียนดนตรี แต่ดูเหมือนว่าทิกเกอร์เขาจะยังไม่ค่อยชอบทางนี้เท่าไหร่ เขาชอบร้องเพลงเหมือนแม่เขามากกว่า”