ถ้าจะพูดถึงความบู๊ดีเดือด นาทีนี้คงไม่มีใครเกิน นักแสดงและดีเจสาว “ตุ๊กตา อุบลวรรณ บุญรอด” เพราะเหตุการณ์ที่เจ้าตัวบุกไปกระทืบ “นายวาสุ เลิศจรรยา” ผู้อำนวยการคลื่นลูกทุ่งมหานคร FM 95 ถึงในวัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา จนทำให้ผู้ชายอกสามศอกลงไปนอนกองกับพื้นมาแล้ว
ส่วนชนวนเหตุก็มาจากที่เจ้าตัวอ้างว่า ไม่พอใจที่ผอ.วาสุ ปลดออกจากการเป็นดีเจโดยที่ไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า และไม่ยอมชี้แจงเหตุผลที่ชัดเจน อีกทั้งยังโกรธที่ผอ.คู่กรณีต่อว่าแม่ของเธอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ตอนที่แม่โทรศัพท์ไปสอบถามเหตุผลของการปลดในครั้งนี้ แต่ครั้นพอเข้าไปเค้นเอาความจริง “ผอ.วาสุ” คู่กรณีกลับปฏิเสธว่าไม่ได้ทำ จึงเป็นเหตุให้สาวตุ๊กตาบันดาลโทสะ เข้าไปลากคอลงมากระทืบ ทั้งถีบและผลัก โดยที่ไม่สนใจว่าอยู่ในอาณาบริเวณวัดที่ควรจะสำรวม ก่อนจะทิ้งระเบิดด้วยการเปิดโปงว่า คลื่นนี้มีการทุจริตกันภายใน รวมถึงมีความไม่ชอบมาพากลหลายอย่าง
ตามมาด้วยการเปิดฉากแถลงข่าวโต้กันไปโต้กันมา ต่างฝ่ายก็งัดเอกสารมายืนยันในความบริสุทธิ์ของตนเอง โดนเริ่มที่ฝ่ายของ “ผอ.วาสุ” คู่กรณีที่ปาดหน้าสาว “ตุ๊กตา” ชิงแถลงตัดหน้าขึ้นที่ อสมท พร้อมควง “นางกมลาสิริ อิศรางกูล ณ อยุธยา” ผช.กก.ผอ.ใหญ่สายงานวิทยุ และ ทนาย “วินัย วงศ์เมฆ” มาเป็นทัพหน้าร่วมแถลงด้วย โดยแฉกลับว่าอีกฝ่ายเป็นฝ่ายมาสายติดต่อกันหลายเดือน อีกทั้งยังขาดงานและไม่ยอมมาทำงานเอง ทั้งที่มีการแจ้งไปเตือนไปแต่ก็ยังเพิกเฉย ก่อนจะประกาศกลางงานแถลงข่าวว่า เตรียมเข้าแจ้งความเอาผิดต่อดีเจสาวเท้าหนัก ข้อหาทำร้ายร่างกาย พร้อมจ่อดำเนินคดีที่ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงอีกหนึ่งกระทง ส่วนเรื่องทุจริตช่อง9 นั้นไม่เป็นความจริง
ทิ้งห่างแค่ข้ามวัน ทางฝั่งของ “ตุ๊กตา” ก็ไม่น้อยหน้า ลุย ปะ ฉะ ดะ ด้วยการเกณฑ์เพื่อนดีเจที่ตกที่นั่งเดียวกันออกมาแถลงแฉกลับอย่างไม่เกรงกลัวอิทธิพลใดๆ ซึ่งในครั้งนั้นก็ประกอบไปด้วย ยาว อยุธยา, อ.ธรรมรงค์ เพชรสุนทร, ดีเจเคนสองแคว, ดีเจชิน สุเวท และ ดีเจณัฐวุฒิ เจียรนำโชค (ดีเจบองวุฒิ) งานนี้ไม่ใช่แค่การเปิดศึกสาดน้ำลายใส่กันธรรมดา เพราะสาว “ตุ๊กตา” เล่นขู่ว่ามีเอกสารและคลิปเสียงที่สามารถยืนยันได้ว่า “ผอ.วาสุ” ทุจริตช่อง9 พร้อมเดินหน้าลุยแหลกด้วยส่งคลิปและเอกสารทั้งหมดไปให้ป.ป.ช. (คณะกรรมการป้องกันและปรามปราบการทุจริตแห่งชาติ) ตรวจสอบ ส่วนที่ปลดตนออกจากดีเจนั้น เจ้าตัวก็ไม่ยอมลดราวาศอก เตรียมฟ้องกรมแรงงานให้เข้ามาจัดการด้วยเช่นกัน
นี่เป็นแค่หนึ่งเรื่องในความห้าวหาญของดีเจสาวคนนี้เท่านั้น เพราะก่อนหน้านี้เมื่อปีที่แล้ว เจ้าตัวก็มีอีกหนึ่งคดีที่บู๊มันหยดไม่แพ้กัน กับครั้งที่ยื่นฟ้องร้องสาวหล่ออดีตผู้จัดการส่วนตัว “เจมส์ ภัสมาภูฏิณฑ์ อัครวงศ์ตระกูล” หรือ “อริสา เจริญผล” ในคดีปลอมแปลงเอกสารและใช้บัตรเครดิตของตนโดยไม่ได้รับอนุญาต คดีนี้ยืดเยื้อยาวนานกันข้ามปี เหตุเพราะแต่ละฝ่ายก็อ้างว่าหลักฐานของตนแน่นและไม่มีใครยอมใคร แถมที่ยืดเยื้อก็เพราะ “ตุ๊กตา” หมั่นไปบู๊กับ “ทอมเจมส์” อยู่หลายหน ไม่ว่าจะตอนที่อีกฝ่ายแถลงข่าว ดีเจสาวก็บุกไปเฉ่งกันกลางงานแถลง ทำเอาทอมคู่กรณีหน้าหงายไม่เป็นท่า แถมตอนขึ้นศาลที่จังหวัดนนทบุรี ก็ยังเปิดศึกฉะกันต่อหน้าศาลเลยทีเดียว ยังดีที่ไม่มีการปะทะฝ่ามือกันเกิดขึ้น ไม่งั้นคงมีเวทีมวยย่อมๆ กลางศาลแน่ๆ
ความกล้าบ้าบิ่นไม่เคยกลัวใครของสาว “ตุ๊กตา” ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ และยังคงต้องข้องเกี่ยวกับเรื่องคดีความ ขึ้นโรง ขึ้นศาลอีกเช่นกัน นั่นก็คือคดีที่เจ้าตัวฟ้องสื่อนิตยสารบันเทิงชื่อดังฉบับหนึ่ง ฐานเอาภาพของเธอตอนที่เล่นหนังแผ่นมาเผยแพร่ และภาพนั้นก็เป็นภาพที่ค่อนข้างชวนสยิวและวาบหวามพอสมควร ซึ่งคดีที่ฟ้องนิตยสารดังกล่าวก็จบลงที่อีกฝ่ายยอมจ่ายค่าเสียหายเป็นหลักแสนให้ เลยเคลียร์จบไปหนึ่งคดี แต่เจ้าตัวก็ยังคงฟ้องเว็บไซต์บันเทิงชื่อดังในเครือเดียวกันกับนิตยสารดังกล่าวต่ออีก เนื่องจากยังเอาภาพเหล่านั้นของเธอมาลงเผยแพร่ โดยดีเจสาวเผยว่า ที่ยังคงต้องฟ้องต่อเพราะตนได้รับความเสียหาย เสียเกียรติและเป็นการเหยียดศักดิ์ศรีของลูกผู้หญิงนั่นเอง รวมไปถึงเว็บไซต์อื่นๆ ที่ลิงค์ข่าวดังกล่าวไปเผยแพร่ สาวตุ๊กตาก็ฟ้องดะเช่นกัน
ทั้งหมดนี้ แม้จะเป็นเรื่องราวความห้าวหาญของผู้หญิงที่ชื่อ “ตุ๊กตา อุบลวรรณ” เพียงบางส่วน ส่วนกรณีที่เธอเตรียมเล่นงาน “ผอ.วาสุ” แบบดับเครื่องชน ถึงขั้นเอาให้เรื่องถึงป.ป.ช. และแม้ตอนนี้จะยังไม่มีบทสรุปว่าผอ.คู่กรณีทุจริตจริงหรือไม่ แต่ก็ได้ทำให้ใครต่อใครซูฮกในความกล้าบ้าบิ่นไม่ยอมก้มหัวให้ใคร ถึงแม้ว่าครั้งนี้จะต้องเดิมพันด้วยชื่อเสียง และอนาคตทางหน้าที่การงานของตัวเธอเองก็ตาม
นอกเหนือจากความบ้าระห่ำที่ทำให้ใครต่อใครสนใจในตัวเธอแล้ว หากย้อนไปดูประวัติส่วนตัว ก็จะพบว่า เรื่องราวชีวิตของเธอมีความน่าสนใจหลายอย่าง … “ตุ๊กตา” ขึ้นชื่อว่าเป็นลูกที่กตัญญูมากคนหนึ่ง เพราะเคยได้รับรางวัล “ลูกที่มีความกตัญญูกตเวทีอย่างสูงต่อแม่” ในวันแม่แห่งชาติประจำปี 2546 มาแล้ว วันที่รับรางวัลเธอพูดประโยคที่ว่า “แม่สอนให้อดทน อย่าท้อ เพราะเรายังโชคดีกว่าคนอื่นๆ ถ้าเราคิดว่าเราจน ให้มองคนที่ด้อยกว่า มองคนพิการ ว่าพวกเขายังสู้ชีวิต ให้มองพวกเขาเป็นอาจารย์ และที่สำคัญ ถ้าเราขยัน เราจะไม่มีวันอดตาย”
ประวัติในวัยเด็กของ “ตุ๊กตา” ไม่ได้สวยหรูอะไรนัก เธอโตมาในครอบครัวที่ยากจน พ่อแม่มีอาชีพเป็นคนงานก่อสร้าง ต้องทำงานหนักมาตลอดตั้งแต่เธอยังเล็กๆ เพราะต้องหาเลี้ยงทั้งครอบครัวที่มีอยู่ด้วยกัน 5 ชีวิต ก็คือพ่อ-แม่-พี่ชาย-หลานชาย รวมถึงตัวเธอซึ่งเป็นลูกสาวคนสุดท้อง เรียกว่าทุกคนในครอบครัวต้องช่วยกันทำงานหาเลี้ยงชีวิตด้วยความยากลำบากมาโดยตลอด ทั้งเพื่อครอบครัวและทั้งเพื่อส่งตัวเองเรียน จนกระทั่งเธอได้เข้าวงการบันเทิง ชีวิตความเป็นอยู่ทุกอย่างถึงเริ่มดีขึ้น จึงตอบแทนด้วยการให้พ่อและแม่หยุดทำงาน และรับหน้าที่เป็นหัวหน้าครอบครัวทำงานหาเลี้ยงเองทั้งหมด จนเมื่อ 3 ปีที่แล้ว เธอก็สามารถคว้าใบปริญญาตรีจากคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษมได้เป็นที่สำเร็จ หลังจากเรียนมายาวนานถึง 8 ปี จนโดนเรียกว่าเป็นคุณย่ามหา’ลัยมาโดยตลอด
การที่เป็นคนต้องสู้ชีวิตมาตั้งแต่เด็ก อาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เธอมีความกล้าอย่างทุกวันนี้ แม้ตัวจะเป็นผู้หญิง แต่ก็ห้าวหาญไม่แพ้ผู้ชาย และที่สำคัญไม่ยอมแพ้ต่อความไม่เป็นธรรม ซึ่งในส่วนของคดีความต่างๆ ก็คงต้องต่อสู้กันต่อไป แต่นาทีนี้ เชื่อว่าคงมีคนคิดหนัก ถ้าอนาคตคิดจะมีเรื่องกับคนอย่างเธอ “ตุ๊กตา อุบลวรรณ”