"มาเรีย ชไนเดอร์" เจ้าของบทรักร้อนแรงแห่ง Last Tango in Paris สิ้นลมแล้ว

"มาเรีย ชไนเดอร์" นักแสดงหญิงชาวฝรั่งเศส ผู้ฝากชื่อไว้กับหนัง Last Tango in Paris โดยเฉพาะฉากรักอันร้อนแรงของเธอกับ "มาร์ลอน แบรนโด" ที่ยังคงถูกพูดถึงจนทุกวันนี้ สิ้นลมลงแล้วในวัย 58 ปี

ตัวแทนของ มาเรีย ชไนเดอร์ ได้ออกมาให้ข่าวถึงการเสียชีวิตของเธอ ที่ปารีสเมื่อวันพฤหัสที่ 3 ก.พ. ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น และกล่าวว่าเธอมีอาการป่วยมาเป็นเวลานานแล้ว อย่างไรก็ตามเอเยนซี่ของเธอไม่ได้ให้ข้อมูลอะไรมากไปกว่านั้น

ชไนเดอร์ เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกด้วยวัย 19 ปี จากการรับบทนำคู่กับ มาร์ลอน แบรนโด ในภาพยนตร์สุดร้อนแรง Last Tango in Paris ของยอดผู้กำกับชาวอิตาลี เบอร์นาร์โด เบอร์โตลุคชี่ โดยเธอรับบทเป็นหญิงสาวชาวปารีส ที่มีสัมพันธ์กับนักธุรกิจชาวอเมริกันวัยกลางคน ที่รับบทโดย แบรนโด

Last Tango in Paris ได้รับการยกย่องว่า คือผลงานที่ลุ่มลึกคมคาย ตีแผ่ปรัชญาอันว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ได้อย่างถึงแก่น เหนืออื่นใด คือการพยายามจำแนกแยกแยะให้คนดูได้มองเห็นความแตกต่างระหว่างความรักกับตัณหา และกิเลสมนุษย์ที่ปรารถนาอยากจะถือครองเป็นเจ้าของ อย่างไรก็ตามฉากรักอันอื้อฉาว คือสิ่งที่คนจดจำได้มากที่สุดจากภาพยนตร์เรื่องนี้

ฉากรักของนักแสดงทั้งสอง ถูกแบนห้ามฉายในประเทศอิตาลีกว่า 20 ปี จนกระทั่งได้เข้าฉายแบบสมบูรณ์แบบเมื่อปี 1989 ขณะที่ในการฉายที่สหรัฐฯ Last Tango in Paris ได้รับเรต NC-17 ที่ไม่อนุญาตสำหรับผู้ชมวัยเด็กอายุต่ำกว่า 17 ปี

โดยในการให้สัมภาษณ์กับ The Daily Mail เมื่อ 3 ปีก่อน ชไนเดอร์ เล่าถึงฉากที่ตอนนี้กลายเป็นตำนานหน้าหนึ่งแห่งประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ไปแล้วว่า มาจากความคิดของ แบรนโด และสร้างความอึดอัดให้เธอในเวลานั้นอยู่ไม่น้อยเลย

"ความจริงฉันควรจะโทรศัพท์ไปหาเอเยนต์ หรือทนายความ ให้มาที่กองถ่ายได้นะคะ เพราะคุณจะบังคับให้นักแสดงทำอะไร ที่ไม่ได้เขียนไว้ในบทภาพยนตร์ไม่ได้ แต่ฉันไม่รู้เรื่องนั้น มาร์ลอน บอกกับฉันว่า 'มาเรีย อย่ากังวลไปเลย นี่มันแค่หนังนะ' แต่ในตอนที่ถ่ายทำ แม้สิ่งที่มาร์ลอนทำ จะไม่ใช่การร่วมรักจริง ๆ แต่ก็ทำให้ฉันถึงกับร้องไห้ ฉันรู้สึกขายหน้า และพูดตามตรงนะคะฉันรู้สึกบ้างเหมือนกัน ว่าตัวเองถูกทั้ง แบรนโด และเบอร์โตลุคชี่ ข่มขืน หลังจากการถ่ายทำเสร็จ มาร์ลอน ก็ไม่ได้มาปลอบหรือขอโทษอะไรฉันเลย แต่อย่างน้อยก็ขอบคุณ สำหรับการถ่ายทำแค่เทคเดียว"

แม้จะเต็มไปด้วยความอื้อฉาว แต่ Last Tango ก็ทำให้ ชไนเดอร์ เป็นที่รู้จัก และมีผลงานอีกมากมายหลายเรื่อง อย่างไรก็ตามไม่มีผลงานเรื่องใดที่ทำให้เธอโดดเด่น เท่ากับการร่วมงานกับ แบรนโด เลย

ในปี 1975 ชไนเดอร์ ได้ร่วมงานกับ แจ็ค นิโคลสัน ในภาพยนตร์ของ มิเคลันเจโล อันโตนิโอนี เรื่อง The Passenger ขณะที่ผลงานเรื่องสุดท้ายของเธอคือ The Key ที่เข้าฉายเมื่อปี 2007

ควบคู่ไปกับความโด่งดังในช่วงยุค 1970s ชีวิตของ ชไนเดอร์ เต็มไปด้วยความสับสนอลหม่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการติดยาเสพติด เคยถึงขั้นมีอาการจากการเสพยาเกินขนาด และเคยกระทั่งพยายามฆ่าตัวตายมาแล้ว จนกระทั่งในยุค 1980s เธอจึงสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของตัวเองได้ ชไนเดอร์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า "ฉันโชคดีมากค่ะ ฉันเสียเพื่อนจากยาเสพติดไปมาก จนกระทั่งในตอนปี 1980 ฉันได้พบใครบางคนที่ช่วยให้ฉันหยุด เป็นเหมือนทูตสวรรค์ จนถึงตอนนี้เราก็ยังคบกันอยู่ ฉันจะไม่พูดหรอกนะคะว่าเขาคนนี้ เป็นผู้หญิง หรือผู้ชาย นี่คือความลับของฉัน และอยากจะทำให้เป็นความลับแบบนี้ต่อไปค่ะ"

การเสียชีวิตของ มาเรีย ชไนเดอร์ นับเป็นความสูญเสียของวงการภาพยนตร์ฝรั่งเศส โดยนาย เฟร็ดเดอริค มิตแตร์รอง รัฐมนตรีวัฒนธรรมฝรั่งเศส ได้กล่าวยกย่องนักแสดงหญิงผู้ล่วงลับว่า ทุกคนยังคงจดจำภาพที่ ยั่วยวน, ไร้เดียงสา และมีเสน่ห์ความเป็นดาราอยู่อย่างเต็มเปี่ยมของเธอได้ดี "เธอยังคงเป็นภาพที่ชัดเจน สำหรับผู้หญิงในยุคปัจจุบัน เป็นสัญลักษณ์ แห่งวงการภาพยนตร์"

เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ ""ซ้อ 7"ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540 ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก ระบบ True Move และ Hutch - เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก