xs
xsm
sm
md
lg

"เอ" ใจเสียลูกสาวหัวใจเต้นอ่อนต้องผ่าคลอด โล่งแข็งแรงปลอดภัย ด้าน "โย" ปล่อยโฮบนบวชชีพราหมณ์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


"เอ อัญชลี" ผ่าคลอดลูกสาวเหตุอายุครรภ์เกิน ทำหัวใจเด็กเต้นอ่อนลง รับใจหายหวั่นลูกไม่รอด แต่คลอดแล้วแข็งแรงปลอดภัยดี หน้าตาเหมือน "โย" ยันจะเลี้ยงให้นมลูกเอง ด้านนางแบบสาวเผยวินาทีอยู่ในห้องคลอด ปล่อยโฮหลังเห็นหัวใจหลานเต้นอ่อน วิ่งบนศาลจะบวชชีพราหมณ์ ขอให้พี่และหลานปลอดภัย แย้มให้ทองเป็นของรับขวัญ



ตั้งใจจะคลอดลูกสาวคนแรกเองโดยวิธีธรรมชาติ และมีกำหนดคลอดเมื่อวันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา แต่เนื่องด้วยนางแบบสาว "เอ อัญชลี หัสดีวิจิตร" ยังไม่เจ็บท้อง กระทั่งถึงช่วงเช้าวันที่ 29 มี.ค.เจ้าตัวเริ่มมีอาการและนอนเจ็บท้องอยู่ที่โรงพยาบาลเวชธานี ย่านลาดพร้าวนานถึง 10 ชั่วโมง จนหัวใจของเด็กเต้นอ่อนแรงลง ในที่สุดทีมแพทย์จึงตัดสินใจทำการผ่าคลอดเมื่อเวลา 16.55 น. โดยเอและน้องสาว "โย ยศวดี" ได้ช่วยกันตั้งชื่อให้สมาชิกใหม่ของครอบครัวว่า "น้องเอวี่" แปลว่าแสงแห่งพระอาทิตย์ หรือชื่อจริง "ด.ญ.เพชรพลอย" มีน้ำหนักแรกคลอด 2970 กรัม ลำตัวยาว 50 ซ.ม. ซึ่งคุณแม่มือใหม่อย่าง "เอ" ได้เผยความรู้สึกต่อสื่อมวลชนเมื่อช่วงเที่ยงวันนี้ (30 มี.ค.)ว่า

"เมื่อวานนี้เป็นวันที่รู้สึกว่าในชีวิตนี้ไม่เคยทรมานอะไรอย่างนี้มาก่อน เพราะผ่านหลายช่วงมาก ไม่ว่าจะเป็นช่วงรอคลอด เร่งคลอด หรือมดลูกบีบตัว กระทั่งต้องผ่าคลอดกะทันหัน ก็รู้สึกว่าการที่จะเป็นแม่ต้องผ่านอะไรเยอะมาก มันทำให้เอรู้สึกรักแม่มากขึ้น"

"เอรอคลอดลูกเริ่มเจ็บท้องตั้งแต่ 7 โมงเช้าจนถึงเย็นประมาณ 4 โมง เจ็บท้องอยู่ 10 ชั่วโมง แล้วปากมดลูกเปิดได้ 7 เกือบ 8 ซ.ม.แล้ว แต่พอดีน้องหัวใจเต้นอ่อนมาก คุณหมอเลยตัดสินใจว่าผ่าดีกว่า เพราะไม่อยากเสี่ยง ทั้งที่จริงๆเอตั้งใจอยากจะคลอดเอง และไม่ได้รอฤกษ์อะไร แค่อยากให้ลูกเกิดตอนกลางวัน แล้วหมอบอกว่ามีเกณฑ์ต้องเกิดก่อนตกเย็น แต่พอตอนเย็นไม่ไหวแล้วน้องหัวใจอ่อนมาก คือตอนที่คุณหมอบอกว่าหัวใจน้องเต้นอ่อน โอ๊ย...ตอนนั้นคิดว่าอะไรต้องเกิดขึ้นแน่ๆ เอแทบตายแล้ว เสียใจมากพอเห็นหัวใจน้องเต้นจาก 150 กว่าเหลือ 90 กว่า ซึ่งคุณหมอบอกว่าที่เป็นอย่างนั้นเพราะอายุครรภ์มันเกิน 40 อาทิตย์ สายสะดือกับรกเลยเริ่มหมดสภาพ ก็เลยตัดสินใจให้ผ่าเอาน้องออกดีกว่า"

"ตอนที่เขาออกมายังไม่ร้องเสียงดังนะคะ เนื่องจากรกเขาเสื่อม ออกซิเจนมันไปไม่ถึง ก็รอสักแป๊บเขาถึงร้องออกมา แต่จริงๆยังร้องน้อยกว่าเด็กปกติทั่วไปนิดหนึ่ง แต่พอผ่านไปหลายชั่วโมงเขาก็ร้องปกติ แข็งแรงดีทุกอย่าง ตอนแรกคุณหมอจะให้ยาสลบ แต่เอบอกว่าอย่าวางยาสลบเลย เพราะเออยากเห็นหน้าลูกก่อน คุณหมอเลยบล็อกหลัง ก็รอได้ยินเสียงลูกร้อง พอลูกร้องปุ๊บเขาก็เอาไปเช็ดตัว แล้วเอามาให้เราดูหน้า พอเห็นหน้าลูกแล้ว มันร้องไห้ไม่ออก เพราะตัวเอชาไปหมดทั้งตัว ได้แต่แบบโอ๊ยตายแล้ว นี่แหละสิ่งที่รอคอย แล้วลูกน่ารักมากแลบลิ้นใส่เอ หลังจากนั้นเราก็สลบไปเลย"

เผยหน้าลูกเหมือนน้องสาว "โย ยศวดี" คาดช่วงตั้งท้องคงมองหน้านางแบบสาวมากไปหน่อย

"หน้าลูกไม่รู้ไปเหมือนน้าโยได้ยังไง สงสัยมองหน้าโยมากไปหน่อย ตื่นเช้ามาก็เจอแต่หน้าโยมั้ง แล้วแขนขาเขาก็ยาวเหมือนน้าเลย สงสัยจะได้เป็นนางแบบเหมือนน้า (หัวเราะ) เรื่องเตรียมตัวเป็นแม่เราก็ยังงงๆอยู่ เมื่อเช้าเขาเอาน้องมาให้ดูดนม เราก็ไม่รู้จะทำยังไงดี และก็ยังขยับไม่ค่อยถนัด เลยมีความรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ แต่ก็ให้น้องดูดนมแล้วน่ารักมากเลย ก็คิดว่าน่าจะเป็นคุณแม่ได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์"

"ส่วนเพื่อนๆนางแบบก็น่ารักมาก ถ้าไม่ได้เพื่อนๆก็แย่เหมือนกัน อุปกรณ์การเลี้ยงเด็กทุกอย่างเพื่อนๆจะเอามาให้หมดเลย เพราะเรายังไม่ได้ซื้ออะไรเลย พวกเพื่อนๆก็เห่อหลานนะ อย่างเม้าซี่ (เบญจวรรณ เทิดทูนกุล) มาทุกวันเลย ทุกคนก็ให้กำลังใจดี เพราะเขาเห็นเราตลอดตั้งแต่ยังตั้งครรภ์ว่า ทำโน่นทำนี่ไม่หยุด เขาก็ห่วงว่าน้องจะโอเคมั้ย พอทุกคนเห็นน้องโอเคก็รู้สึกดีใจ ซึ่งเรื่องงานสำหรับเอคงจะพักสักระยะ เพราะเราผ่าคลอดเลยยังลุกมากไม่ได้ แต่ก็อยากเลี้ยงลูกเองนะคะ ถึงจะออกไปทำงานยังไงก็จะให้นมลูกเอง"

ด้าน "โย ยศวดี" เผยถึงวินาทีที่อยู่ในห้องคลอดกับพี่สาว แล้วเห็นหัวใจหลานเต้นอ่อนลง รับตกใจจนร้องไห้ออกมา พร้อมไปไหว้บนศาลขอให้พี่และหลานปลอดภัย

"โยอยู่ในห้องคลอดกับเอ แล้วก็อยู่จนถึงวินาทีที่เขากำลังจะคลอดแล้ว และหันไปเห็นหัวใจน้องเต้นดร็อปลงมาเหลือ 90 ก็มือชาทำอะไรไม่ถูก ก็ถามคุณหมอว่าเกิดอะไรขึ้น คุณหมอก็ทำหน้ากังวลมากบอกไม่รอแล้ว ขอเปลี่ยนเป็นผ่าเลย ตอนนั้นเราตกใจร้องไห้ก่อนเป็นอย่างแรก เพราะเตรียมตัวที่จะเห็นหน้าน้องแล้ว แต่เราก็ไม่อยากให้เอตกใจ ก็รีบเข้าไปจับมือเขาบอกไม่มีอะไร ทุกอย่างต้องโอเค เขาก็ถามเกิดอะไรขึ้น เพราะโดนบล็อกหลังแล้วจะไม่รู้สึก คือคนที่อยู่ใกล้ๆเขาถึงจะเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น ก็คงต้องผ่าเอาน้องออก หลังจากนั้นโยก็ไม่เห็นแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะมานั่งรออยู่ข้างนอก"

"เมื่อวานโยจะวิ่งทั่วโรงพยาบาลเลยนะจนคนงงมาก พอรู้ว่าเอจะผ่าคลอด โยก็วิ่งร้องไห้มาบอกแม่ ตอนนั้นแม่ไม่ได้เข้าห้องคลอดด้วย ความรู้สึกแบบอะไรก็ได้ให้พี่เรากับหลานปลอดภัย ถึงขนาดลงไปไหว้ศาลข้างล่าง ไปบนด้วยว่าจะไปบวชชีพราหมณ์ 2 วัน ชั่วโมงนั้นคือยอมทำทุกอย่างจริงๆ แล้วเขาก็อุ้มมาบอกว่าน้องมาแล้วให้รีบไปดู ครั้งแรกที่เห็นหน้าน้องน้ำตามันกลบตาพูดไม่ถูก ขนาดเราไม่ใช่แม่นะ แต่เหมือนเราอยู่กับเขาและให้กำลังใจเขาตลอด เห็นแล้วก็นึกถึงเขาว่า ตอนเอเห็นหน้าน้องครั้งแรกก่อนสลบ มันคือทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว แล้วทุกคนทั้งคุณแม่และเพื่อนๆก็ร้องไห้กันหมดเลย ทั้งที่ยังไม่รู้เลยว่าหน้าตาน้องเป็นยังไง แต่ร้องไห้ไว้ก่อน (หัวเราะ) แล้วเพิ่งมาสังเกตว่าทำไมหน้าถึงเหมือนเรา (หัวเราะ) ขาแขนเหมือนมากยาวมาก หน้าจะแป้นๆหน่อย เจ๊ตุ๊กตาของกันตนา (จิตรลดา ดิษยนันท์) มาจองในบีบีเลย จองเล่นละครแล้ว"

แย้มให้ของขวัญหลานเป็นทอง ให้คำมั่นจะช่วยพี่สาวเลี้ยงทำหน้าที่เป็นทั้งพ่อและแม่

"ของขวัญให้หลานจริงๆไม่มีอะไรมาก ก็ซื้อทองหนัก 50 สตางค์ให้ ขนาดบาทนึงยังไม่มีปัญญาเลย (หัวเราะ) ก็เอาเล็กๆน้อยๆไปก่อน ซึ่งหลังจากนี้โยก็จะช่วยเอเลี้ยงน้องทุกอย่าง คือหลังจากเห็นหน้าน้องแล้ว เราจะทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ เพราะที่ผ่านมาโยยังไม่ให้อะไรหลานเลย แต่หลังจากนี้จะสองคนสองแรง ช่วยกันเป็นทั้งพ่อและแม่ ส่วนเรื่องจะรับหลานเป็นลูก คือเขาเป็นหลานก็เป็นได้ทุกอย่างอยู่แล้ว เขาเป็นลูกพี่สาวก็เหมือนเป็นลูกเราด้วย"






เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540 ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก ระบบ True Move และ Hutch - เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก








กำลังโหลดความคิดเห็น