"บุ๋ม" สุดทนควง "ปวีณา" โร่แจ้ง "ปดส." จับมือดีตัดต่อภาพเปลือยส่งว่อนทั่วเน็ตไม่หยุด เผยพ่อแม่ไม่พอใจที่มีการระบุเป็นชื่อและนามสกุลจริง แม้จะไม่ใช่ของจริงก็ตาม วอนผู้รับอย่าฟอร์เวิร์ดส่งภาพต่อ เพราะมีความผิดเช่นกัน ลั่นไม่คิดฟ้องแพ่งคนทำ เชื่อไม่มีเรื่องโกรธแค้นตน แต่ทำไปเพราะความสนุกเท่านั้น ด้านตำรวจแจงผู้กระทำผิดมีโทษจำคุก 5 ปีปรับไม่เกิน 1 แสนบาท เผยจับได้แล้วหนึ่งรายแต่สืบสวนอยู่ว่าใช่ต้นตอหรือไม่
หลังจากเคยเดินทางเข้าร้องทุกข์กับ "นางปวีณา หงสกุล" และเคยเข้าร้องเรียนกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดต่อเด็ก เยาวชน และสตรี (ปดส.) ไปเมื่อประมาณปลายปี 2552 เกี่ยวกับกรณีที่พิธีกรชื่อดัง "บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี" ถูกมือดีนำภาพที่เคยถ่ายแบบ ไปตัดต่อให้เป็นภาพเปลือยลามกอนาจาร และนำไปเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ต มีการส่งฟอร์เวิร์ดเมล์ภาพดังกล่าวกันแพร่หลาย ซึ่งในครั้งนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ติดตามจับกุมผู้กระทำผิดมาได้หนึ่งราย
แต่ต่อมาราวปลายเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา พิธีกรชื่อดังพบว่า ยังคงมีผู้ไม่หวังดีนำภาพลามกอนาจารดังกล่าว ส่งต่อกันทางอีเมล์ไม่หยุด แถมยังมีการตัดต่อขยายเพิ่มเติมมากขึ้น เจ้าตัวจึงตัดสินใจมาร้องทุกข์กับนางปวีณาอีกครั้ง และเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (3 มี.ค.) "บุ๋ม ปนัดดา" พร้อม "นางปวีณา" ได้เดินทางมายังปดส. เพื่อเข้าร้องเรียนต่อ "พ.ต.อ.ศรายุทธ พูลธัญญะ" รอง ผบก.ปคม. อีกครั้ง เพื่อให้ดำเนินการแก่ผู้กระทำผิดให้ถึงที่สุด โดย "บุ๋ม ปนัดดา" ได้กล่าวว่า
"คือบุ๋มเห็นรูปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ดูยังไงมันก็ไม่ใช่ฉัน ก็ไม่อยากมาพูดแถลงข่าว เพราะถ้าออกมาเดี๋ยวคนก็จะบอกว่า โห....รูปไม่เห็นเหมือนเลย อยากจะดังหรือไง ซึ่งเราอยากหนีข้อหานี้อยู่ แต่พอมาถึงตอนนี้มันกลับมาอีก ก็เลยมาแจ้งกับคุณปวีณาให้ช่วยตรงนี้ ซึ่งเราก็ดำเนินการจับกุมมาอย่างเงียบๆ จับได้แล้วแต่เขายังบอกว่าไม่ใช่ต้นตอ ซึ่งคงต้องปรึกษากับทางตำรวจว่าจะทำอะไรได้บ้าง"
"คุณพ่อกับคุณแม่ของบุ๋มไม่พอใจและแย่มาก ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้ดำเนินการถึงที่สุด เพราะในชื่อเมล์ก็ใช้ชื่อจริง นามสกุล วงศ์ผู้ดี เต็มๆ เพื่อนๆ ก็โทรมาถามเห็นหรือยัง คือที่บุ๋มออกมาก็อยากจะบอกว่า เลิกส่งต่อกันซะที ยิ่งออกมาแถลงข่าวบุ๋มเชื่อว่า คนที่ยังไม่เห็นก็ต้องอยากเห็นว่าเป็นยังไง บอกได้เลยว่าวันนี้มีความผิด เพราะบุ๋มแจ้งความแล้ว คนที่ส่งต่อมีความผิดเหมือนกัน ก็อยากจะหาต้นตอที่ส่งค่ะ ซึ่งอย่างที่บอกว่ามีการจับกุมมาได้ แต่เขาบอกว่าไม่ได้เป็นคนเริ่ม เราก็ไม่ได้อะไร เห็นก็สงสาร จนมาถึงทุกวันนี้ก็ยังมีการส่งต่อ ก็อยากให้จบๆ ค่ะ"
แจงไม่คิดฟ้องร้องคนกระทำผิดเพื่อเรียกร้องค่าเสียหาย ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจจัดการ เชื่อมือตัดต่อไม่มีเรื่องโกรธแค้นตน แค่ทำไปเพราะความสนุกคึกคะนองเท่านั้น
"ถ้าบุ๋มจะฟ้องคงไม่ฟ้องทางแพ่ง เพราะไม่อยากได้ค่าเสียหายอะไร แต่อันนี้ก็แล้วแต่ตำรวจจะแนะนำด้วยบุ๋มไม่รู้ว่าโทษมากน้อยแค่ไหน ณ ตอนนี้คงให้ทางตำรวจดำเนินการให้ว่าโทษจะแค่ไหน และอยากจะบอกว่าคนที่เอารูปส่งต่อกันไป คงเป็นเพราะความสนุกชั่ววูบแค่นั้น โดยที่ไม่รู้ว่าโทษหนักขนาดไหน ก็อย่าส่งต่อกันเลย บอกได้เลยว่ารูปที่เห็นไม่ใช่บุ๋มแน่นอน"
"บุ๋มว่าคนที่ทำเรื่องนี้คงไม่น่าจะไม่พอใจอะไรบุ๋ม คงเป็นความสนุกมากกว่า เขาคงไม่ได้จงใจตัดต่อมากมายขนาดนั้น เพราะแค่เอารูปหลายๆรูปมารวมกันแค่นั้นเอง เลยเชื่อว่าทำเพราะความสนุก แต่ว่า ณ ตอนนี้อยากบอกว่าขอร้องเถอะ ใครอย่าส่งต่อเลย ไม่ว่าจะเป็นของบุ๋ม ของดาราคนอื่น หรือของใครก็ตาม เลิกส่งต่อเถอะค่ะ เพราะมันไม่ดีต่อคนที่ส่งต่อ และมันไม่ดีต่อคนที่โดนกระทำแบบนี้ อยากให้ลบทิ้งไปเลย เราก็ไม่อยากไปก่อกรรมกับใครแล้ว เพราะก็โดนมาเยอะแล้ว"
ด้าน "นางปวีณา หงสกุล" เผยว่าเคยพา "บุ๋ม ปนัดดา" เข้าร้องเรียนแล้วครั้งหนึ่ง เพราะไม่อยากให้เป็นข่าวใหญ่โต แต่พอพิธีกรสาวโทรมาแจ้งว่า มีการขยายรูปหนักกว่าเดิมอีก เลยพามาร้องเรียนอีกครั้ง เพื่อให้ดำเนินการขั้นเด็ดขาด
"ทางคุณบุ๋มมาร้องเรียนที่มูลนิธิปวีณา ก็ยังบอกอยู่เลยว่าอย่าไปเป็นข่าวเลย เพราะเป็นข่าวแล้วมันจะมีปัญหา ก็เลยมาร้องเรียนที่นี่ และเมื่อสองวันนี้น้องบุ๋มโทรเข้ามา เพราะมีการขยายความรูปกันไปอีก ก็เลยอยากให้เลิกทำกันซะ ซึ่งก่อนหน้านี้เราได้มีการดำเนินการจับกุมตัวคนทำแล้ว แต่ยังมีการส่งรูปกันไปอีก เราเลยมาเข้าพบท่านผู้การอีกครั้ง เพื่อดำเนินการให้เด็ดขาด เพราะมันเป็นปัญหาอย่างยิ่ง"
ส่วน "พ.ต.อ.ศรายุทธ พูลธัญญะ" รอง ผบก.ปคม. กล่าวว่าผู้กระทำผิดในคดีนี้ มีโทษสูงสุดจำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 1แสนบาท ซึ่งสามารถจับได้แล้วคนหนึ่ง กำลังสอบสวนอยู่ว่า เป็นต้นตอตัดต่อ หรือแค่เป็นคนส่งต่ออีเมล์เท่านั้น
"คุณปนัดดาได้เคยมาร้องทุกข์เมื่อประมาณเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว เพราะมีการเผยแพร่ภาพในอินเทอร์เน็ต ทางเราสืบสวนจนทราบคนทำเบื้องต้น และเป็นการส่งต่อ ซึ่งในขณะนี้อยู่ในการสืบสวน แต่ว่าในสำนวนเรายังไม่ได้ดำเนินการจับกุม ซึ่งความผิดที่จะได้รับคือ ความผิดตามกฎหมายคอมพิวเตอร์ปี 2550 จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เพราะฉะนั้นตรงนี้ก็อยากบอกว่า มันมีโทษทางกฎหมาย แต่ก็มีการยอมความได้ ก็แล้วแต่คุณบุ๋มจะดำเนินการอย่างไร"
"ซึ่งในขณะนี้เรากำลังดำเนินการ เพราะมันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะรู้ว่า ใครเป็นคนแรกที่เอารูปใส่เข้าไป แล้วมีการส่งต่อ เพราะเมล์แต่ละคนก็เป็นความลับของแต่ละคน เราต้องใช้เวลา เรารู้ว่าคนโพสต์คนส่งอีเมล์อยู่ที่ไหน แต่ขั้นตอนต่อไปก็ต้องขอสอบสวนจากกองบัญชาการ เราขออนุมัติได้เพื่อสอบสวนต่อ และครั้งนี้คุณบุ๋มมาร้องเรียนเป็นครั้งที่สอง เพราะฉะนั้นตอนนี้เราต้องดำเนินการต่อไปให้ถึงที่สุด"
"บางคนอาจจะบอกว่า เราไม่ได้เป็นคนเอารูปไปใส่นะ เราแค่รับมาแล้วส่งให้เพื่อนดูไม่น่าจะผิด แต่จริงๆ แล้วผิดเหมือนกับคนที่เอาข้อมูลไปใส่เลยครับ และตอนนี้เราได้คนผิดมาแล้วคนหนึ่งอยู่ต่างจังหวัด แต่ยังไม่ได้สืบสวนว่า เขาเป็นคนตัดต่อหรือเป็นคนส่ง แต่คนนั้นคือคนแรกที่เราจับได้ และสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นคนใส่แล้วก็เป็นคนส่งต่อ จากนี้ก็ต้องขึ้นอยู่จากการสอบสวน และข้อมูลเริ่มต้น"
เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540 ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก ระบบ True Move และ Hutch - เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก |