พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ “กำธร สุวรรณปิยะศิริ” ที่เสียชีวิตลงด้วยอาการติดเชื้อในกระแสเลือด มีคนบันเทิงแห่อาลัยแน่นวัดมกุฏฯ ด้านภรรยา “นันทวัน” เผยสามีจากไปกะทันหันไม่มีการสั่งเสีย พร้อมกำหนดสวดอภิธรรมศพ 7 วัน และจะบรรจุศพเก็บไว้นาน 1 ปี
หลังจากที่วงการบันเทิงต้องสูญเสียนักแสดงอาวุโส และนักพากย์ชื่อดัง “กำธร สุวรรณปิยะศิริ” ที่เสียชีวิตด้วยอาการติดเชื้อในกระแสเลือดเมื่อวันเสาร์ที่ 27 ก.พ.ที่ผ่านมา สำหรับบรรยากาศพิธีบำเพ็ญกุศลศพนักแสดงอาวุโสชื่อดัง ที่ศาลา 4 วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร ช่วงเย็นวันนี้ (1 มี.ค.) สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ผู้แทนพระองค์ อัญเชิญพวงมาลาพระราชทาน รวมถึงพวงมาลาประทานจากพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ และ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ไว้หน้าหีบศพ โดยมีม.ร.ว.ถนัดศรี สวัสดิวัฒน์ เป็นประธานในพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ
ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยความเศร้าสลด มีภรรยาคู่ชีวิตของ “กำธร” อย่าง “นันทวัน เมฆใหญ่” พร้อมบุตรชาย รวมทั้งคนในวงการบันเทิงแห่มาร่วมไว้อาลัยกันอย่างคับคั่ง อาทิ เศรษฐา ศิระฉายาและครอบครัว, วินัย พันธุรักษ์, รอง เค้ามูลคดี, สุประวัติ ปัทมสูต, มนตรี เจนอักษร, สมมาตร ไพรหิรัญ, ชมพู ฟรุ๊ตตี้, สุดา ชื่นบาน, สมรักษ์ ณรงค์วิชัย, วรายุทธ มิลินทจินดา ฯลฯ
ทั้งนี้ “นันทวัน เมฆใหญ่” ได้เปิดเผยถึงการจากไปของสามีกับสื่อมวลชนว่า
“คุณกำธรเป็นโรคเบาหวาน และความดันมานาน 20 ปี แต่เราก็ดูแลหาหมออย่างดีเคร่งครัดมาโดยตลอด ซึ่งจุดเสียของคุณกำธรคือ แกเป็นคนที่สะอาดเกินไป เป็นคนที่ระวังเรื่องอาหารทุกอย่าง ถ้าจะทำงานแล้วจะไม่ยอมกินอะไรที่แปลกๆ อย่างส้มตำจะกินก็ต่อเมื่อพรุ่งนี้เป็นวันหยุด และแกจะทานผลไม้ที่ปอกแล้วทานแล้ว จะมาปอกแล้ววางทิ้งไว้ก่อนไม่ได้ แล้วคนที่ปอกจะต้องเป็นคนๆเดียวทำ จะให้คนนั้นคนนี้ปอกไม่ได้”
“เราดูแลแกอย่างดีมาโดยตลอด จนกระทั่งหมอบอกว่าลองไปดูไตสิ เพราะแกเป็นเบาหวานกับความดันมานาน ไตมันจะเริ่มเสื่อม ตอนช่วงปลายปีเรายังไม่มีเวลาไปตรวจอย่างจริงจัง พอหลังจากปีใหม่กลับมาจากพักผ่อนที่หัวหิน ก็เลยเข้าไปปรึกษากับคุณหมอผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้โดยตรง ตอนแรกเห็นแกซีดก็เลยว่าจะให้เลือดแต่ไม่ได้ เพราะถ้าให้เลือดแล้วน้ำจะท่วมปอด เลยตัดสินใจผ่าตรงบ่าเพื่อจะฟอกไต ฟอกเลือด ฟอกเสร็จแล้วแกก็ดูแข็งแรงดี แต่แกดันมีภาวะไอและท้องเสียด้วย”
“จากกรณีของคุณกำธร ก็เลยอยากจะเตือนผู้สูงอายุทุกคนว่า ใครก็ตามที่ท้องเสียอย่าให้เกิน 2 วันให้รีบไปหาหมอทันที จะไปให้น้ำเกลือหรือไปทำอะไรก็แล้วแต่ อย่างคุณกำธรให้น้ำเกลือไม่ได้ แกไม่อยากจะเข้าโรงพยาบาล ก็เลยกินยาฆ่าเชื้อ แต่ว่าเชื้อมันลามเยอะ เนื่องจากคุณกำธรไม่มีภูมิต้านทานเลย พอเข้าโรงพยาบาลได้ 5 วันก็อาการโคม่า จากโคม่าเราก็ต้องทำใจแล้ว ไม่มีสัญญาณอะไรให้เรามาก่อน แกไม่ได้ฝากไม่ได้ลาพวกเรากันเลย”
“ที่ผ่านมาคุณกำธรยังทำงานอยู่ตลอด แกก็ยังพากย์เสียงอยู่จนถึงวันพฤหัสฯที่แล้ว ตั้งแต่วันศุกร์เป็นต้นมาแกก็หยุดพากย์ แต่ทางที่ทำงานให้หยุดพักผ่อนไปเลย คุณกำธรก็ดีใจที่จะได้หยุดงานถึงวันจันทร์ พอวันอังคารแกก็เข้าโรงพยาบาลเลย ก็ถือว่าแกจากพวกเราไปอย่างกะทันหันจริงๆ”
“นันทวัน” กล่าวต่อถึงกำหนดสวดพระอภิธรรมศพ “กำธร” จะมีขึ้นทั้งหมด 7 วัน ก่อนจะบรรจุศพเก็บไว้เป็นเวลา 1 ปี และจะทำบุญทุก 50 และ 100 วัน
“ตอนนี้เรากำลังใจดี เพราะอยู่ท่ามกลางเพื่อนฝูงเยอะแยะ หลายๆคนอ่อนแอมากๆ เพราะเสียใจกับการจากไปของคุณกำธร เราก็เลยต้องเข้มแข็ง แต่หลังจากเสร็จงานแล้ว ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเราจะเข้มแข็งได้อย่างนี้อยู่หรือเปล่า แต่ทุกคนก็ให้กำลังใจเราดี ก็บอกว่าถ้าเหงาก็ไปค้างที่บ้าน เขาเตรียมห้องติดแอร์ ติดทีวีให้เราพร้อมเรียบร้อยแล้ว”
“สำหรับงานศพของคุณกำธรในวันนี้ เรารู้สึกตื้นตันมากที่คนที่รักคุณกำธรมากันเยอะแยะ หลังจากที่ข่าวออกไป วันนี้มีหลายคนมี่รักคุณกำธรมากันเยอะจริงๆ เรารู้สึกปลื้มใจมากๆ ก็ตั้งใจจะเก็บศพคุณกำธรไว้ 1 ปี และจะทำบุญทุก 50 วันและ 100 วัน”
สำหรับคอนเสิร์ต “ที่นี่...มี...ดาวประดับใจ” ที่ “กำธร” เป็นโต้โผดูแลงานทุกอย่างมาทุกปี “นันทวัน” ยันว่าคอนเสิร์ตจะยังคงมีต่อไป โดยครั้งที่ 46 นี้ จะมีขึ้นในวันที่ 21 มีนาคม เวลา 14.00 น.ที่ศาลาเฉลิมกรุง
“ส่วนเรื่องคอนเสิร์ต ที่นี่...มี...ดาวประดับใจ ที่คุณกำธรเป็นคนดูแลตอนวันแสดง และทำทุกอย่างคนเดียวมาตั้งแต่แรกจนถึงครั้งที่ 45 มาครั้งนี้เป็นครั้งที่ 46 ก็ยังต้องจัดอยู่ เพราะมีคนซื้อบัตรไปบ้างแล้ว แต่เพลงเราอาจจะต้องเปลี่ยนไปบ้าง ความจริงเราตั้งใจจะนำเพลงที่ระลึกถึง ครูพยงค์ มุกดา กับ คุณบุษยา รังสี กลายเป็นว่าครั้งนี้ต้องระลึกถึงคุณกำธรด้วย กลายมาเป็น 3 คน และในทุกๆครั้งเราสองคนจะต้องเป็นพิธีกรร่วมกัน แต่ครั้งนี้เราคงเป็นพิธีกรคนเดียวแล้วมั้ง หรือไม่ก็อาจจะสลับคู่กับคนอื่นไป”
ด้าน “รอง เค้ามูลคดี” กล่าวว่าที่ตนมีทุกวันนี้ได้ก็เพราะ “กำธร” พาไปฝากฝังให้ทำงานที่ช่อง 4 บางขุนพรหม รับตอนที่ทราบข่าวการเสียชีวิตรู้สึกช็อกมาก ถือเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่สำหรับตน
“ที่ผมเป็นตัวเป็นตนทุกวันนี้ได้เพราะอากำธร อากำธรเอาผมไปอยู่ตอนอายุ 14 ปี พออายุ 15-16 ปีก็พาไปฝากเข้าทำงานที่ช่อง 4 บางขุนพรหม อากำธรเป็นคนที่สอนงานทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการแสดง การพากย์หนัง หรือแม้กระทั่งการดำรงชีวิต สอนแต่สิ่งดีๆ เรารู้จักกันมา 50 กว่าปี แกเป็นพี่ที่มีแต่ให้ ความรู้สึกวันนี้ไม่รู้จะพูดยังไง มันพูดอะไรไม่ออก เมื่อวันเสาร์อาแกยังโทรมาชวนไปทานข้าวด้วยกันอยู่เลย ตอนที่ทราบว่าอาแกไปแล้วก็ช็อกมาก”
“เราเคยแสดงละครด้วยกันเยอะมาก อากำธรเป็นคนที่ทำงานมีระเบียบวินัย งานเป็นงาน สำหรับการพากย์หนังอากำธรอยู่ในขั้นที่เรียกว่าขั้นสูงสุด ได้รับรางวัลมาแล้วเยอะแยะมากมายนับไม่ถ้วน เรื่องของการสานต่องานของอาคงจะพูดลำบาก จะสานต่อเจตนารมณ์แกก็ต้องดูเด็กรุ่นหลังว่า จะมีแววสานต่อได้มั้ยยังไง อากำธรถือเป็นนักแสดงที่คนรุ่นใหม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง อาเป็นเดอะโชว์ มัส โกออน การสูญเสียครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ยิ่งใหญ่สำหรับผมมาก หลังจากที่เคยเสียคุณพ่อคุณแม่ และลูกๆมาแล้ว”
ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540
ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก
ระบบ True Move และ Hutch - เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000
*ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก