"พล.ต.ม.จ.จุลเจิม ยุคล" เผยวินาทีชีวิต "หญิงแม้น" ประสบอุบัติเหตุรถตกคูน้ำ เผยจุดเกิดเหตุมีอุบัติเหตุบ่อยจนได้ชื่อว่าเป็นถนนผีสิง โชคดีที่ตกลงไปในน้ำตื้นก็เลยไม่เป็นอะไร เตรียมเช็กอย่างละเอียดหวั่นจะเป็นแบบ “บิ๊ก ดีทูบี”
หลังจากที่ตกเป็นข่าวใหญ่โตประสบอุบัติเหตุรถตกคูเมื่อวันก่อน(14/ก.พ./53) ล่าสุด "พล.ต.ม.จ.จุลเจิม ยุคล" ท่านพ่อของ “หญิงแม้น ม.ร.ว แม้นนฤมาศ ยุคล” ก็เปิดแถลงข่าวถึงกรณีดังกล่าวที่โรงพยาบาลวิภาราม เนื่องจากหญิงแม้นมีอาการบาดเจ็บไม่สามารถให้สัมภาษณ์ได้
"ผมขออนุญาตเล่าเหตุการณ์ เขากำลังจะไปงานกับพายุ ก็เลยให้หม่อมแม่(หม่อมอัญชลี) ขับรถให้เป็นงานวันวาเลนไทน์ เขาจะขึ้นเวทีเป็นพิธีกร หรือว่าอะไรผมจำไม่ได้ ไม่ทราบ ธรรมดาแล้วท่านวาริน บุญเลิศ (หมอดู) ได้เตือนแล้วปีนี้จะเจออุบัติเหตุ ให้แม้นทำบุญ สวดมนต์อยู่ตลอด จากหนักจะๆ ได้กลายเป็น"
"ตอนประมาณ 6 โมง ระหว่างทางออกจากบ้านประมาณ 500 เมตร ก็มีรถยนต์เบรกกะทันหันคุณแม่เขาก็ได้เบรกรถเพื่อที่ว่าหลบไม่อย่างงั้นจะชนท้ายของรถอีกคันหนึ่ง แต่พอหักรถไปทางขวามือก็ไปเจอมอเตอร์ไซค์ คันหนึ่งที่สวนมา พอเบรกรถก็เลยหมุนสามรอบ พอรถหมุนสามรอบยางก็แตก มอเตอร์ไซค์เห็นว่ารถสวนมาก็หลบ พอจะหลบรถของแม้นก็หมุนไปสามรอบแล้ว เขาก็รีบกระโดดลงจากมอเตอร์ไซค์ เพื่อไม่ให้ประสานงาน เขาก็ตกคูน้ำไป บังเอิญขาข้างขวาไม่พ้นรถก็เลยชน"
"แต่ว่าก็โชคดีอยู่สามประการ คือหนึ่ง รถได้เอาท้ายลงในคูน้ำ โชคดีที่สองคือว่าไม่ได้ชนกับต้นไม้หรือว่าเสาไฟฟ้า ไม่ได้ชนรถที่สวนมา ไม่อย่างนั้นก็คงน่าจะไปงานแถววัดแทน(หัวเราะ) น่าจะเป็นหนักกว่านี้ แล้วถ้าเกิดจะชนเสาไฟฟ้าหรืออะไร ด้านหน้ารถก็จะแตก ไม่อย่างนั้นภรรยาผมและหญิงแม้นคงจะต้องไปทำศัลยกรรมตกแต่งที่บริษัทเขา(พราว คลินิก) พอดีลงน้ำกระจกมันเลยไม่แตก ก็เลยโชคดี คุณแม่เขาก็ยึดพวงมาลัยเอาไว้ ส่วนแม้นที่ผมทราบเขากำลังจะแต่งหน้า เขาก็เลยไม่ได้ระวังตัว แต่ก็รัดเข็มขัดอยู่ พอตกน้ำศีรษะเขาก็ไปกระแทกกับกระจก แต่กระจกก็ไม่แตก ก็นึกคิดว่าไม่น่าจะเป็นอะไร แต่ก็พาคนเจ็บมาที่โรงพยาบาล"
"ซึ่งตอนแรกพาไปโรงพยาบาลสมิติเวช แต่ไม่รับก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม่รับ ร่วมกตัญญูก็ไม่รับก็ไม่ทราบเหตุผลเหมือนกันว่าไม่รับเพราะอะไร เลยมาที่นี่แทน พอมาที่นี้ก็มีอาการปวด แต่จากการดูภายนอกเหมือนว่าไม่ได้เป็นอะไร แต่ตอนที่มาอาจจะมีอาการตื่นเต้น วิงเวียนไม่รู้สึกตัว พอมาถึงโรงพยาบาลก็เลยนอนที่โรงพยาบาลดีกว่า มาเช็กสมองว่าเป็นอะไรหรือเปล่า พอเอ็กซเรย์สมองก็ไม่มีปัญหา เพราะว่าศีรษะไปฟาดกระจกอยู่ คือตอนนี้ดูอาการ 24 ชั่วโมง เพราะว่าเขายังมีระบมเจ็บหน้าอก ตรงคางยังพูดไม่ค่อยได้ เขาก็เลยให้ผมทำหน้าที่แทน"
แจงพรุ่งนี้น่าจะออกมาจากโรงพยาบาลได้แล้ว
"พรุ่งนี้ก็คงจะออกแล้วครับ เพราะว่าไม่มีอะไร เพราะว่างานเขาก็มีอยู่เยอะแยะ มันก็ไม่มีอะไรที่น่ากลัว แค่รู้สึกว่าเจ็บหน้าอกเจ็บคาง แต่ที่จริงแล้วเขาก็อยากจะกลับวันนี้ แต่ผมบอกว่าให้เขารออีกสักวันหนึ่ง เพราะว่าทางคุณหมอได้เช็กหมดแล้วว่ามันไม่มีอะไร ตอนนี้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้วครับ เพราะตอนนี้คางที่บวมก็ยุบดีแล้ว แต่ก็ยังอักเสบอยู่"
"วันนี้ก็รอผลตรวจเลือด แล้วทางแพทย์ก็บอกว่ามีการสักเสบข้างในแต่ผมไม่ทราบแน่ชัด เพราะว่ามันช้ำที่ตับ มีสารออกมาก็เอาไปตรวจโดยเมื่อกี้ได้ตรวจแล้วพบว่ามีเลือดออกนิดหน่อย เลือดออกข้างในช่องท้อง เพราะว่ารัดเข็มขัดนิรภัย แต่ก็ไม่เป็นอันตราย หมอก็บอกว่าเป็นธรรมดา"
แจงคงไม่ต้องมีการจัดทำบุญครั้งใหญ่ เพราะลูกสาวได้ทำไปก่อนหน้านี้แล้ว อุบัติเหตุครั้งนี้ถือว่าฟาดเคราะห์
"ไม่ทำแล้วครับ เพราะว่าท่านวารินได้ให้เขาไปทำแล้ว ตอนนี้เขาก็สวดมนต์ก่อนจะเกิดอุบัติเหตุ เขาก็ได้พาเด็กกำพร้าไปเที่ยวซาฟารีเวิล์ด ไม่มีอะไรผมก็งงว่าทำไมเป็นข่าวใหญ่ ญาติพี่น้องก็ตกใจ"
"ก็โชคดีที่คูน้ำมันมีทั้งด้านซ้ายและด้านขวา ด้านซ้ายมันลึก ด้านขวามันตื้น พายุเขาก็นั่งอยู่ด้านหลัง เขาก็ดึงตัวออกมาคุณแม่เขาก็จับพวงมาลัยเอาไว้ได้ ระดับน้ำก็แค่ขาอ่อนเลยไม่เป็นอะไร ถือว่าฟาดเคราะห์ไป แต่ที่ผมกลัวมากที่สุดก็คือ เหมือนว่าจะลงคูน้ำสกปรก กลัวว่าจะเหมือนบิ๊กดีทูบี แต่ว่าพอดีมันไม่ได้จมน้ำ"
เปรยอาจจะเป็นเพราะความอาถรรพ์ของถนนสายนั้น เพราะเมื่อ 3 วันก่อนมีมอเตอร์ไซค์ชนกันตาย
"เมื่อ 3 วันที่แล้ว มอเตอร์ไซค์ก็ชนกันตายในจุดเกิดเหตุ ผมอยู่ที่บ้านผม 20 ปี ก็ตายกันทุกวันเลย เหมือนว่าเป็นถนนผีสิง ซึ่งหม่อมอ้อยภรรยาผมก็บอกว่าอยู่ดีๆ ก็เหมือนรู้สึกว่ามีอะไรมาปัดที่รถ แล้วยางก็แตก แล้วรถก็ลงคูไปเลย ก็เผอิญมีน้ำมารับเราเลยโชคดีตรงนี้ อาจารย์วารินถ้ามีอะไรเขาก็จะโทรมาทักตลอด เพราะว่าสนิทกัน เขาก็ให้แม้นสวดมนต์ทุกวัน แม้นก็ทำ เลยผ่อนหนักเป็นเบา และหลังจากนี้คิดว่าก็ไม่น่าจะมีอะไรแล้ว แม้นก็ยังไม่เบญจเพสเลยครับ คงไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้"
สอบถามถึง "พายุ คลาร์ด" หวานใจ "หญิงแม้น" ชมเป็นเด็กน่ารัก เข้าตามตรอกออกตามประตู แต่ยังไม่ถึงกับไฟเขียวมาก พร้อมฝากอย่างชิงสุกก่อนห่าม
"เขาเป็นคนเข้าตามตรอกออกตามประตู ก็โอเค คือผมต้องการใช้เขาด้วย เพราะว่าจะได้ไปเป็นเพื่อน เพราะอย่างเมื่อก่อนผมต้องให้ทหารคอยตามแต่พายุมีความคล่องตัว เขาก็โอเคนะครับ เขาน่ารักเป็นเด็กดี ทุกครั้งที่ผมบอกว่าผมเลี้ยงได้แต่ตัว แต่ใจผมเลี้ยงไม่ได้ ส่วนพายุเขาก็ช่วยเหลือแม้นในสิ่งต่างๆ เป็นเพื่อนเป็นอะไรซึ่งผม เรียนตามตรงว่าผมก็แฮปปี้ บางทีที่เขาไปงานดึกๆ ดื่นๆ เขาต้องไปคนเดียวก็มีพายุให้ช่วยขับรถก็หายห่วงเพราะว่าผมก็แก่แล้ว คุณแม่ก็ไม่ไหวที่จะมาคอยไปรับไปส่ง"
"มันก็ไม่ใช่จะไฟเขียวมาก อย่างที่ผมบอกว่าระยะทางกับเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ แต่เรื่องนี้ผมไม่เป็นห่วงว่าเขาจะมีแฟน ต้องระดับเกรดเอ ขอให้เป็นคนดี ไม่ต้องเป็นไฮโซหรือต้องรวยอะไร แต่แค่อย่าให้ชิงสุกก่อนห่าม แล้วก็ดูใจคบกัน ดูรวมแล้วเขาก็เป็นเด็กดี อนาคตคงไม่สามารถพูดได้ แต่ผมก็การันตีว่าเขาเป็นเด็กดี ก็เหมือนลูกคนหนึ่ง ถือว่าเป็นลูกคนหนึ่ง"
เผยเป็นห่วงลูกสาวเรื่องการพูดที่ตรงเกินไป
"ก็เป็นห่วง คนรักเขาก็มี คนที่ไม่รักกับคนไม่เข้าใจก็มี ที่เขามาด่าพ่อเขา ตระกูลเขา ไม่เข้าใจในตัวหญิงแม้น ที่มีข่าวมาว่าทำไมพ่อแม่ไม่ได้สั่งสอน หรืออะไรประมาณนี้แต่ผมก็พยายามบอกลูกว่า อย่าไปคิดมาก มันอยู่ที่ตัวเราเราทำดี เรารู้ตัว เขาก็เป็นเด็กดี"
"หญิงแม้นเขาไม่โกหก เขาจะคบพายุจะคบใคร หรืออะไรแบบนี้กับพี่ๆ นักข่าว ผมก็เห็นเขาให้ความเคารพ แต่เขานิสัยไม่ดีอยู่อย่างหนึ่งก็คือ ปากสุนัข พูดตรง คนก็เลยไปตีความ ผมก็บอกให้หญิงแม้นเบาๆ หน่อย คนรักเราก็มีคนเกลียดก็มี นิสัยเหมือนผมที่พูดอะไรตรงๆ"
ด้าน "พายุ" ที่มานั่งเฝ้าหวานใจถึงที่โรงพยาบาล เผย ตนไม่เป็นอะไรมาก ซึ่งรู้สึกดีใจที่ท่านพ่อชมว่าเป็นเด็กน่ารัก
"วันนั้นผมโชคดีมากที่ไม่ได้เกิดอะไรขึ้นเลย แต่ตอนที่รถเหวี่ยง หญิงแม้นก็ตกใจ ซึ่งผมตอนแรกก็ตกใจมาก ซึ่งตรงกับวันวาเลนไทน์จะไปรับงานพอดี แต่ก็ดีครับแม้นเขาจะได้พักผ่อน เพราะว่าแม้นเขาไม่ค่อยได้พักผ่อน เขาทำงานหนัก ของที่เตรียมเซอร์ไพร์สก็อดเลย เพราะคิดว่าทำวันหลังดีกว่า ผมคิดว่าวันวาเลนไทน์เป็นแค่วันหนึ่ง ไม่ใช่ของคู่รัก มันก็สำหรับพ่อแม่ด้วยครับ สำหรับหญิงแม้นเอาวันหลังรอให้หายก่อน"
ดีใจท่านพ่อให้ไฟเขียว
"ก็รู้สึกดีใจ เพราะท่านพ่อเป็นคนใจดีมากๆ เป็นคนรักครอบครัวมากๆ ถ้าโตขึ้นผมอยากเป็นอย่างท่านบ้าง ผมรู้สึกดี เพราะว่าผมทำงานทุกวัน ผมกับหญิงแม้นก็อยู่ในสายตาของท่านทุกวันไม่ได้ปิดบังอะไร ที่ท่านพ่อให้โอกาสก็จริงๆ แล้วท่านเป็นคนที่ไม่แบ่งชนชั้นวรรณะ ท่านเป็นคนกันเองมากๆ ท่านเป็นถึงเจ้า ท่านไม่เคยถามว่าพ่อผมแม่ผมเป็นใคร แค่ขอให้ผมเป็นคนดี เขาไม่ได้ตัดสินคนจากภายนอกตัดสินที่ข้างในจิตใจมากกว่า"