“ไรวินทร์” โวยถูกโปรดิวเซอร์ “คุยแหกโค้ง” หลอกให้มาออกรายการ จวกมีอะไรน่าจะพูดกันตรงๆ

“ไรวินทร์” โวยถูกโปรดิวเซอร์รายการ “คุยแหกโค้ง” หลอกให้มาออกรายการ ซ้ำดัดหลังเอา “ชัญญ่า” มาอัดรายการต่อ จวกมีอะไรน่าจะพูดกันตรงๆ พร้อมเผยความสัมพันธ์กับ “เมษ์ อรวรรษา” ยันเป็นเพียงเพื่อน ส่วนภาพหอมแก้มนั้นถือเป็นเรื่องธรรมดาตามประสาเพื่อน

หายเงียบไปนานเลยทีเดียวสำหรับ “ไรวินทร์ จิรพลเศรษฐ์” แต่ล่าสุดเจ้าตัวก็ออกมาโวยกรณีที่โดนโปรดิวเซอร์รายการ “คุยแหกโค้ง” หลอกให้มาออกรายการ มีการหมกเม็ดข้อมูลและประเด็นต่างๆ เล่นเอาเจ้าตัวออกอาการไม่พอใจ จวกมีอะไรน่าจะพูดกันตรงๆ

“คือเขาก็เชิญผมไปคุยในรายการคุยแหกโค้ง แล้วเขาก็บอกว่าเขาเปลี่ยนพิธีกรใหม่ไม่ใช่คุณณวัฒน์(ณวัฒน์ อิศรไกรศีล) ซึ่งตัวผมถึงจะเป็นคุณณวัฒน์หรือใครผมก็โอเค เขาก็บอกว่าเปลี่ยนพิธีกรแล้วให้มาออกรายการหน่อย ผมก็ถามไปว่าใครครับ เขาบอกว่าเป็นพิธีกรใหม่ 2 คนที่จะมาคอยเบรกคำถามเราก็โอเคยังไงก็ได้ ไม่ซีเรียสเลย แล้วเขาก็บอกว่าเป็นเทปต่อจากคุณแต๊งค์(พงศกร มหาเปารยะ) ที่จะสัมภาษณ์เรื่องวาเลนไทน์และเรื่องธุรกิจของผม รวมไปถึงเรื่องของเมษ์(อรวรรษา ฐานวิเศษ) นิดๆ หน่อยๆ พอถึงวันอัดผมนั่งแต่งหน้าอยู่ก็ปรากฏว่า เจอคุณณวัฒน์เดินเข้ามา เราก็อ้าวไหนบอกว่าพิธีกรไม่ใช่พี่ณวัฒน์ไง พอหันไปถามโปรดิวเซอร์เขาก็ไม่ตอบ”

“พอไปถึงตอนอัดรายการเขาก็จะถามถึงแต่ข่าวเก่าๆ ว่าเคยคู่กับใครมา ถามในสิ่งที่เราตกลงกันน้อยมาก เราก็ถามเขาว่าเดี๋ยวกลัวข่าวมันจะกลับมาอีกไม่อยากให้มันกลับ เขาก็ยังถามต่อจนจบแล้วทิ้งท้ายบอกว่าเดี๋ยวเขาจะโทรติดต่อชัญญ่า ทามาดะให้มาออกรายการ เราก็บอกว่าติดต่อน้องเขาไปสิ น้องเขาก็ว่างอยู่”

“แต่เราก็ถามว่าข่าวจะมาเกี่ยวกับเราอีกมั้ย ไม่เอามาคู่กันนะเพราะว่าเรื่องของเรามันจบไปแล้ว แล้วมันก็จบลงด้วยดีแล้วไม่อยากรื้อฟื้น ซึ่งหลังจากที่อัดรายการจบแล้วเขาก็สรุปทิ้งท้ายไว้ในรายการว่า เดี๋ยวจะเชิญชัญญ่ามาช่วยสรุปคำสัมภาษณ์ของผมในเทปอาทิตย์หน้า เราก็เลยงงว่ามันคืออะไร”

“ซึ่งตรงนี้มันไม่เกี่ยวว่าจะสัมภาษณ์กับคุณณวัฒน์หรือเปล่า มันอยู่ที่ผมยินดีไปออกรายการแล้วจะเป็นพิธีกรคนไหนผมไม่ซีเรียสอยู่แล้ว ขอเพียงบอกข้อมูลกับเรามาให้ชัดเจน เราเองก็ต้องถามว่าจะสัมภาษณ์เรื่องอะไร ใครจะเป็นคนที่ถามเรา แต่เขายืนยันมาว่าเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่คุณณวัฒน์ พอหลังจากอัดเทปเสร็จเราจะคุยกับเขา เขาก็บอกปัดว่าเขารีบเพราะต้องอัดเกมส์โชว์ต่อ ผมก็เดินออกมาที่ลานจอดรถก็เห็นชัญญ่าเข้าไป ทั้งที่เขาบอกกับผมว่าจะนัดชัญญ่ามาถ่ายอาทิตย์หน้า เราก็งงๆ นิดหน่อยว่าทำไมถึงเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น”

“ผมไม่พอใจตรงที่ว่าเขาควรจะบอกกับเราตรงๆ ว่าพิธีกรใคร สัมภาษณ์เรื่องอะไร ตอนแรกที่คุยเขาบอกว่าจะสัมภาษณ์เรื่องเมษ์แล้วก็เรื่องวันวาเลนไทน์ และก็บอกว่าจะเทปจะออกวันที่ 17 กุมภาพันธ์ แต่ปรากฏว่าวันรุ่งขึ้นเขาเอาเทปนั้นไปออกอากาศเลย ของชัญญ่าก็บอกจะอัดอาทิตย์หน้าแต่พอผมอัดเสร็จก็เห็นชัญญ่าเดินเข้าไปอัดต่อ ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงไม่พูดกับผมตรงๆ ซึ่งกับชัญญ่าตอนนี้เราก็ห่างๆ กัน ก่อนจะห่างก็เคลียร์กันเรียบร้อยแล้ว ไม่โกรธไม่อะไรกัน แล้วถ้าข่าวมันจะกลับมาทำให้พูดถึงกันอีกเดี๋ยวมันจะกลายเป็นทำให้โกรธกันอีก”

นอกจากจะหัวเสียกับรายการคุยแหกโค้งแล้ว “ไรวินทร์” ก็ยังบ่นอุบเรื่องธุรกิจจิวเวอรี่ที่จู่ๆ ก็โดนแจ้งให้ย้ายบูทจากที่เก่าให้ไปอยู่หลังสุด งานนี้เจ้าตัวเผยว่า เหตุเกิดจากร้านเพชรคู่แข่งอยากจะได้พื้นที่บูทของตนซึ่งอยู่ข้างหน้า ก็เลยฮั้วกับเจ้าหน้าที่ของห้างดังแจ้งยอดขายสินค้าต่ำ ส่งผลให้ถูกย้ายบูททำเอาทนไม่ไหวต้องขอถอนตัวไม่จำหน่ายสินค้าที่ห้างดังกล่าว
“ตอนนี้ผมมีปัญหากับห้างใหญ่ห้างหนึ่ง คือผมมีเคาท์เตอร์อยู่ในนั้นซึ่งตั้งมานานแล้ว และเพิ่งจะมีการปรับพื้นที่ซึ่งผมเองก็ย้ายไปอยู่ที่ใหม่ได้ 1 เดือน ปกติกฎของห้างคือ 3 เดือนดูจากยอดขาย แต่นี่ผมเพิ่งตั้งมาได้แค่เดือนเดียว ตู้เคาท์เตอร์ข้างหลังที่อยู่ทำเลไม่ดีเขาก็ไปติดต่อหัวหน้าแผนกว่า อยากได้ที่ของผมให้เอามาให้หน่อย โดยที่ยอดของผมดีกว่าเขาเยอะ”

“หัวหน้าคนนี้เขาก็เลยส่งยอดไปว่า 3 เดือนผมขายได้แค่ 2 หมื่น ซึ่งของในร้านของผมชิ้นเดียวผมเลย 2 หมื่นอยู่แล้ว แต่ละเดือนรายได้หลักแสน แต่เขาส่งยอดผมไปแค่นั้นผมเลยต้องโดนย้าย ผมเข้าไปคุยกับผู้ใหญ่เขาบอกว่ายอดผมไม่ถึง แล้วจะมาสู้เขาได้ยังไง ผมก็บอกไปแล้วว่าเป็นไปไม่ได้ จนถึงใกล้ๆ วันผมก็บอกว่าถ้าจะต้องย้ายไปสลับกับที่เน่าๆ ผมก็ออกดีกว่าจะไปอยู่ทำไมห้างนี้ไม่มีความมาตรฐาน ไม่มีความซื่อตรง”

“เรื่องนี้จริงๆ แล้วผู้บริหารเขาไม่รู้ เป็นการรู้กันเพียงแค่หัวหน้าแผนกกับร้านยี่ห้อนั้น เขาก็พูดกับผมว่าอยากออกก็ออกไปสิ ในเมื่อทางผู้ใหญ่เขาอนุมัติแล้วคุณจะมาดื้อทำอะไร ก็เลยเป็นเรื่องราวใหญ่โตผมก็โทรไปว่าเขาว่าทำไมห้างคุณไม่มีมาตรฐาน มาส่งยอดแกล้งผมว่าผมขายได้ 2 หมื่นมาทำอย่างนี้ได้ยังไง ตอนนี้ก็เท่ากับว่าร้านเพชรที่ห้างนี้ของผมไม่มี ที่ผ่านมาไม่ว่าจะงานอะไรผมช่วยโฆษณาให้เขาตลอด”

หลังจากโวยเรื่องร้านเสร็จ “ไรวินทร์” ก็เปิดใจถึง “เมษ์” หลังจากมีภาพหลุดจุ๊บกันขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์บันเทิงฉบับหนึ่ง โดยเจ้าตัวบอกว่า เป็นเพียงเพื่อนกัน ลั่นการหอมแก้มกันเป็นเรื่องธรรมดา

“ภาพนี้ถ่ายกันเองครับ ถ่ายเล่นๆ แล้วเราก็ถ่ายกันนานแล้วด้วย ถ่ายตั้งแต่เพิ่งเจอกันเลย ในความคิดของผมการหอมแก้มมันไม่แปลกนะ มันไม่ใช่อะไรที่ยิ่งใหญ่ แต่เผอิญว่าเป็นเมษ์มั้งมันก็เลยดูแรงเพราะว่าเขาเป็นดารา ผมกับเมษ์เราเป็นเพื่อนกันครับช่วงนี้ก็สนิทกัน เป็นเพื่อนกันสนิทกันก็หอมแก้มกันได้ เรารู้จักกันมานานแล้ว 3-4 ปี ก็ถ่ายเก็บมาเรื่อยๆ ใช้มือถือถ่ายแล้วก็ส่งเข้าเฟสบุ๊ค ผมกับเมษ์เราก็คุยกันทุกวันครับ แต่จากเพื่อนแล้วจะขยับมาเป็นแฟนได้มั้ยตรงนี้ยังไม่รู้เลย ขอเรื่อยๆ”

ยันไม่ใช่มือที่สามทำ “เมษ์” เลิกกับ “โบ๊ท” แฟนหนุ่มนอกวงการ เพราะเริ่มสนิทกันหลังจากที่อีกฝ่ายเลิกกับแฟน
“ผมไม่เคยรู้จักคนชื่อโบ๊ทมาก่อน มีคนมาถามว่าเมษ์คบกับกับคนชื่อโบ๊ทแล้วผมเขาไปเป็นมือที่ 3 หรือเปล่า ไม่ใช่ครับ ผมไม่รู้เรื่องอะไรเลย วันนั้นในรูปน่าจะเป็นวันที่เราไปทานข้าวกันธรรมดาแต่ไปในที่ที่มันพิเศษหน่อยสองคนจะเรียกว่าดินเนอร์กันก็ได้ จริงๆ แล้วผมเป็นคนที่ไม่มีสเปคนะถ้าคุยแล้วเข้ากันได้ก็โอเค ก็ไปเรื่อยๆ ยังไม่กำหนดว่าจะคบกันเพราะอยู่ในช่วงที่คุยๆ กันอยู่”

“ผมไม่รู้สึกว่าผมเป็นมือที่ 3 นะ ผมยังรู้สึกว่าผมเป็นมือที่ 1 เพราะผมไม่เคยรู้จักคนชื่อโบ๊ทไงครับ แล้วผมเองก็ไม่เคยรู้เรื่องมาก่อนว่าเขามีข่าวกับคนชื่อโบ๊ท เพิ่งมารู้ทีหลัง ความสัมพันธ์ก็เริ่มจากที่เราคุยบีบีกันเยอะแต่ก็ยังไม่เห็นว่าเขาจะนัดเจอใครเราก็เลยนัดเจอเขาบ่อย ไม่รู้สึกอะไร พอทราบเรื่องนี้ผมก็ถามกับเขาเหมือนกัน แต่ผมถามแบบไม่เอาคำตอบนะ ก็ถามเขาไปว่าวันนี้มีนักข่าวโทรมาถามเรื่องคนชื่อโบ๊ท แล้วเขาเป็นใคร ยังไงถ้าอยากเล่าก็เล่าถ้าไม่อยากเล่าก็ไม่ต้องเล่า เขาก็เลยบอกว่าเลิกกันไป 2 เดือนแล้ว เลิกก่อนที่จะมาคุยบีบีกับผม อย่างนี้ก็คงไม่ได้ไปแย่งเขามาเพราะถ้าแย่งต้องมีข่าว”

“ผมจะสร้างกระแสให้ตัวเองกลับมาเพื่ออะไรล่ะครับ ผมรู้สึกว่าผมอยู่ตรงนี้แล้วไม่ได้อะไรนะครับ ผมว่ามันไม่จำเป็นต้องสร้างกระแสผมก็อยู่ของผมเฉยๆ ถึงแม้ว่าจะสร้างกระแสแต่มันก็คงไม่เป็นผลดีกับตัวผมเองอยู่แล้ว ทุกวันนี้ที่เป็นข่าวมีแต่ข่าวเสีย ซึ่งไม่ส่งผลต่อธุรกิจผม ไม่ส่งผลต่อชื่อเสียงหน้าตาผมทั้งนั้น ก็เลยไม่รู้จะสร้างกระแสขึ้นมาทำไม เพื่ออะไร”

“หลังจากที่มีข่าวแล้วความสัมพันธ์ของเราถือว่าดีขึ้นกว่าเดิมอีก แต่เรายังไม่ได้กำหนดว่าจะเป็นแฟนกัน เราก็คุยกับเขาไปเรื่อยๆ ก็ถ้ายังเข้ากันได้อยู่ ก็คงเป็นเรื่องของเรื่องของอนาคตแต่เราเองก็ยังไม่ได้ตัดสินใจ ยังไม่คิด”