xs
xsm
sm
md
lg

“ป๋าเทพ” ยันโดนบีบออกจากรายการ เผยถ้าทำแล้วไม่มีศักดิ์ศรีไม่ทำซะดีกว่า จวกทีมงานคิดคอนเซ็ปต์ปัญญาอ่อน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ป๋าเทพ” สุดเปรี้ยว ยันออกจากพิธีกรรายการมาสเตอร์คีย์ เรียบร้อยแล้ว โดยไม่มีการลาออก ไม่บอกผู้บริหารและทีมงาน เพราะน้อยใจที่โดนลดบทบาทเหมือนบีบคั้นให้ต้องลาออก จวกทีมงานไม่สร้างสรรคอนเซ็ปต์ปัญญาอ่อน พอเตือนก็ไม่พอใจ ลั่นถ้าทำงานแล้วไม่มีศักดิ์ศรีไม่ทำดีกว่า พร้อมเผย “นีโน่” ไม่เคยโทร.มาง้อเหมือนที่ให้สัมภาษณ์

ยังคงเป็นกระแสที่ผู้คนทั้งประเทศให้ความสนใจไม่น้อย สำหรับเรื่องที่ตลกรุ่นใหญ่ “ป๋าเทพ” สุเทพ โพธิ์งาม ตัดสินใจออกจากการเป็นพิธีกรรายการมาสเตอร์คีย์ ทางช่อง 3 ทั้งที่ทำมาเนิ่นนานร่วม 18 ปีเต็ม ซึ่งสาเหตุที่ออกเพราะมีกระแสข่าวว่าตลกรุ่นใหญ่เกิดการน้อยใจเพราะถูกลดบทบาทในรายการลง แถมยังมีพิธีกรสาวคนใหม่เข้ามาเพิ่มสีสันอีกคน ซึ่งผู้ที่ใกล้ชิดและเป็นพิธีกรคู่กันมาตลอดอย่าง “นีโน่ เมทนี บูรณะศิริ” ก็ออกมาเผยว่าป๋าเทพยังไม่ได้ออกจากการเป็นพิธีกรแต่อย่างใด แต่ที่หายไปเป็นเพราะงอนที่มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบรายการใหม่เท่านั้น และตนเองก็ได้พยายามโทร.ง้อแต่ก็ไม่รับโทรศัพท์

ล่าสุดป๋าเทพได้มาร่วมขึ้นเวทีคอนเสิร์ต “SAMED IN LOVE US, LOVE EARTH” ที่ จ.ระยอง เจ้าตัวจึงได้เผยว่า ตัดสินใจออกจากการทำหน้าที่พิธีกรแล้วจริงๆ และเป็นการออกมาเฉยๆ โดยที่ไม่ได้บอกกล่าวใครทั้งสิ้น และเหตุผลที่ต้องออกก็เพราะรู้สึกว่าไม่สามารถทำงานร่วมกับทีมงานใหม่ได้ และเหมือนตนโดนบีบคั้นอยู่ตลอดเวลา เปรียบเปรยจากที่เคยเป็นเหมือนหัวหน้าช่าง กลับกลายเป็นมาเป็นกรรมกร

“มันก็ไม่ได้มีอะไรหรอก การทำงานน่ะ เมื่อมันถึงเวลามันก็น่าจะพอแล้วมั้ง อีกอย่างเขาเปลี่ยนทีมงานใหม่ แล้วก็อะไรต่อมิอะไรใหม่ ซึ่งทีมงานของเขามันอาจจะไม่ถูกจังหวะกับเราหรือเปล่า ก็เลยคิดว่าเขาจะไล่เราออกหรือเปล่าวะ(หัวเราะ) ก็พออัดเทปแรกเห็นรูปแบบแล้วก็เลยรู้สึกว่า พอดีกว่า เราไปอยู่แล้วมันเหมือนตัวอะไรไม่รู้ เกะกะหรือเปล่า มันไม่มีตำแหน่งที่จะอยู่ ก็เลยรู้สึกว่าพอแล้วล่ะ”

“ตอนที่ตัดสินใจก็ไม่ได้บอกใคร ป๋าก็เดินออกมาเฉยๆ คือเราดูแล้ว อัดตั้งแต่ต้นมาวันแรก เพราะมันอัดที 5 เทป ก็อัดไปแค่อาทิตย์เดียวที่คอนเซ็ปต์ใหม่นั่นแหละ พอเริ่มต้นอันแรกมาเราก็เห็นแล้วล่ะ วันที่สองเราก็เห็นแล้วอย่างนั้นอย่างนี้เองเหรอ เราก็เออพอ คือมันก็ไม่เชิงโดนบีบมั้ง คือเราเหมือนเป็นหัวหน้าช่างน่ะ แล้ววันหนึ่งเราโดนมาเป็นกรรมกร มันก็คงจะทำยาก มันจะยอมกันได้หรือเปล่า เพราะป๋าก็เป็นคนที่ยอมยากเหมือนกัน ก็มีความรู้สึกนิดนึงว่าเราไปอยู่ตรงอื่นดีกว่ามั้ย ให้คนอื่นเขามา ก็แล้วแต่เขาดีกว่า เราไม่ได้มานั่งทะเลาะกันหรอก ป๋าถือเป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร คนอื่นเขาก็ยุบเขาก็หยุดกันเยอะแยะไปหมด เขาก็ออกกันไม่เห็นเป็นไร”

“แต่ผมว่าไม่ต้องคุยแล้วล่ะ เพราะเราคุยกันมาบ่อยแล้ว แล้วเด็กของเขาต้องการอย่างนั้นหรือเปล่า เราอาจจะไปขัดๆ อะไรเขา ถ้าออกมาก็อาจจะมีรูปแบบอะไรดีๆ ใหม่ๆ ก็ได้ คนเรามันต้องมีการเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่อยู่อย่างนั้นตลอด ให้เด็กใหม่เขาขึ้นมาบ้าง ให้ทำกันบ้าง อะไรทุกอย่างมันก็ต้องมีการเสริมสร้างใหม่ เอาแก่ๆ มาอยู่ตั้ง 18 ปีแล้ว ก็น่าจะเปลี่ยนได้แล้ว ดีแล้วล่ะ เปลี่ยนบ้าง”

“แต่ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับใครนะ ไม่มีสักคน แต่เกี่ยวกับตรงที่งานนี่แหละ มันเหมือนเป็นงานที่เราไม่ชอบ แล้วเราก็ไม่สนุกนะพูดตรงๆ มันอิ่มแล้วด้วยมั้ง คือถ้าถามว่าเกิดปัญหาตรงไหน เอาตรงๆ ก็คือคอนเซ็ปต์ ป๋าชอบคอนเซ็ปต์ที่มันเป็นอะไรที่ลูกทุ่งๆ มากกว่า หรือเรามีบทบาทบ้างเล็กๆ น้อยๆ ก็ยังดี หรือเป็นเหมือนเก่าๆ ที่เราเคยเป็นมาก็ยังไม่เท่าไหร่ ทีนี้มันเหมือนกับให้ป๋าออกมานิดนึงแล้วก็หายไปเลย แล้วกว่าจะออกมาทีก็ใกล้ๆ สุดท้ายแล้ว ซึ่งป๋าก็ว่าเราอย่าอยู่ตรงนี้ดีมั้ย มันเหมือนเกะกะเขา”

เผยว่าออกมาเฉยๆ อย่างนี้ผู้ใหญ่รายการน่าจะเข้าใจ และเพราะตนมีการเข้าไปพูดคุยเสนอความคิดเห็นกับทีมงานใหม่ แต่อาจจะไม่ถูกใจใครบางคน จนอาจจะเป็นสาเหตุที่ต้องโดนบีบอย่างนี้ก็ได้

ผมว่าผู้ใหญ่เขาต้องเข้าใจนะ ถ้าผู้ใหญ่เข้าใจเขาก็ต้องรู้ แล้วมันก็น่าจะมีอะไรที่คุยกับเรา หรือที่ทำงานกันอยู่ ทุกอย่างเขาก็ไม่ได้ให้ความเห็นอะไร มาบอกว่าเหมือนเราไปพูดอะไรกับเด็ก ทั้งๆ ที่เราก็ไม่ได้จะดุด่าว่าอะไรก็แล้วแต่ เพราะเราก็ดุด่าว่าเหมือนหยอกเล่นตลกกับเด็ก ก็ไม่เห็นมันโกรธเราสักคน ทีนี้บางคนก็อาจจะหาว่าเราไปอะไรมาก แล้วอีกอย่างเราเองก็เหมือนโดนลดบทบาทลง โดยที่เราเองก็แปลกใจนะ มันเป็นอย่างนั้น ก็คือตรงนี้แหละ”

“เมื่อก่อนก็ไม่เห็นมีอะไรนะ ป๋าทำมา 18 ปีก็ไม่เห็นมีอะไร แต่พอมีทีมงานใหม่เข้ามานี่แหละ ก็คืออันใหม่ที่เปลี่ยนแปลงนี่เลย มันก็แปลกนะ เพราะที่ผ่านมาไม่มีปัญหาอะไรทำมาตั้ง 18 ปี ก็ดูๆ แล้ว 5 วันมันก็บีบๆ ผมก็ไม่ไหวแล้ว เขาจะบีบเราออกหรือเปล่า ถ้าเกิดเขาเอาซองขาวมาให้เราก็ยิ่งขายหน้าเขาใช่มั้ย มันก็อึดอัดไง แล้วกูจะไปอยู่ยังไง ก็ได้ออกมานิดๆ หน่อยๆ แล้วเราก็ต้องหลบไปอยู่ข้างหลัง ตรงนี้มันก็ทำให้เราเริ่มอึดอัด พอรายการมันจะจบก็ให้เราออกมา สวัสดีลาแค่นั้นเอง”

คือเรื่องนี้มันสะสมมานาน แล้วเจ้าของเขาก็นั่นด้วย คือไม่ต้องพูดดีกว่า พูดไปก็เท่านั้น คือเราก็อยากจะให้อะไรดีๆ นะ 18 ปีแล้วเขาก็ไปกันขนาดไหนแล้ว มันก็ยังอะไรกันอยู่ เห็นมั้ยล่ะคอนเซ็ปท์ออกมาแต่ละอย่างปัญญาอ่อนจะตายห่า พูดตรงๆ นะ ป๋ายังบอกเลยว่าเวิร์คพอยท์เขาทำ ที่อื่นเขาทำเขาไปถึงไหนกันแล้ว อันนี้ก็คือเราพูดกับเด็กๆ ด่ามัน ด้วยความที่เราอยากจะกระตุ้นมันหน่อย อยากจะให้มันมีความคิดฉีกๆ ไปหน่อย แต่นี่อะไรมาทายรูป ทายป้าย ทายเพลง ก็เลยบอกว่ามันน่าจะมีอะไรประเทืองความรู้หน่อย ป๋าก็ค่อนข้างจะพูดไปอย่างนี้ มันก็เลยเหมือนกับว่าป๋าไปรู้มากกว่ามันหรือเปล่า”

พอของเราเล่นไปมันก็ซอยออกหมด แล้วถ้าไอ้เด็กคนไหนเล่นตามพวกมันที่คิดมามันก็จะใส่ออกมาเต็มๆ อันนี้ป๋าสังเกตดูตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่รู้สึกว่าปีนี้มันสุดแล้ว แล้วก็มาเปลี่ยนอีก มันเหมือนไม่มีคุณค่าอะไรเลย ก็ออกมาเลย ไม่เห็นจำเป็นต้องผูกพัน เพราะเขาก็ไม่ได้เห็นจะผูกพันอะไรกับเราเท่าไหร่ เพราะป๋ากับเจ้าของนี่คุยกันนับครั้งได้ เพราะป๋าก็ไม่ชอบคุยนาน ถ้าเจอก็สวัสดีแล้วก็ไปทำงานต่อแค่นั้นเอง”

“ก็ไม่ได้ไปคุยอะไรกับทีมงานต่อ ไปพูดทำไม มันไม่ใช่ของเรา ถ้าเป็นของป๋าสิป๋าพูด แต่ว่ามันไม่ใช่ของเราก็ไม่อยากไปพูดมาก ก็กลายเป็นว่าไปทะเลาะกับเด็กอีก ก็อย่าไปพูดดีกว่า ยิ่งเจ้าของเขาอาจจะมีความคิดไปตรงนั้นด้วย เราก็เลยพอแล้ว ไม่ได้พูดเลย”

เผยไม่มีความผูกพันกับรายการนี้ใดๆ ทั้งสิ้น เพราะทำงานมา 18 ปี ไม่เห็นมีใครสนใจแคร์ตนบ้าง และตนถือว่าเรื่องอย่างนี้เป็นเรื่องปกติ มียุบมีเลิกเป็นเรื่องธรรมดา

“งอนเหรอ ไม่รู้ถือว่างอนหรือเปล่าล่ะ เพราะว่างานที่เราทำมันดูแล้วไม่ใช่เรา ก็เลยไม่อยากทำเอาอย่างนี้ดีกว่าพูดง่ายๆ เพราะทำไปแล้วมันเหมือนไม่ใช่เรา แล้วมันก็ไม่สนุก คือไม่เกี่ยวกับน้อยใจหรอก คือรายการเดี๋ยวนี้เดือนสองเดือนเขาก็ยุบกันหมดเยอะแยะ ปีนึงเขาก็ยุบกันก็ไม่เห็นเป็นไร แล้วผมทำมา 18 ปีแล้ว ผมว่ามันก็ไม่น่าจะมีอะไรที่มันแปลก”

“แต่ถ้าจะพูดถึงความผูกพัน ป๋าทำงานมาป๋าไม่เคยมีความผูกพันอะไรกับใครเลย ก็คิดแค่ว่าผมทำงานให้คุณ ถ้าคุณเห็นผมทำงานดีคุณก็จ้างผมแล้วกัน สัญญาไม่มีทุกที่ แต่ถ้าคุณไม่ชอบผมแล้วคุณบอกว่าป๋าไม่ต้องมาดีกว่าผมก็ไม่มาแล้ว เวลามีใครจะเซ็นต์ป๋าก็พูดอย่างนี้ทุกคนแหละ ดีกว่าเรามาเซ็นกัน 3-4 ปี ถ้าปีนึงเราเกิดไม่ชอบกันแล้วจะทนอยู่ดูหน้ากัน 3-4 ปีทำไม ถ้าคุณไม่ชอบผม อาทิตย์หน้าก็ไม่ต้องมา ก็จบแล้ว”

“เราไม่เคยมีสัญญากัน แต่ถ้าจะบอกว่าเราออกมาอย่างนี้ทำให้เขาเสียหาย เสียหายอะไรล่ะ แล้วที่เขาทำผมล่ะ เขานึกถึงบ้างหรือเปล่า เขาให้ทีมงานมาทำอย่างนี้เขานึกถึงบ้างหรือเปล่า นึกถึงศักศรีดิ์ผมบ้างหรือเปล่า เขานึกถึงที่ผมทำมา 18 ปีบ้างหรือเปล่า เขาก็ไม่ได้นึกนี่ นึกแต่ว่าเราทำไมไปว่าอย่างนั้น ตามเด็กหน่อยซิ แล้วเรารับได้เหรอ หน้าเวทีผมอยู่มา 40 กว่าปีนะ แล้วเด็กนี่อยู่มา 20 กว่าปีจะให้ผมเชื่อมันเหรอ แค่มองหน้าเวทีเราก็เข้าใจแล้ว 40 กว่าปี ก็เอาเถอะถึงพลาดยังไงมันก็พลาดน้อยน่า มึงเชื่อกูเถอะว่าภาพหน้าเวทีมันควรจะออกมายังไง”

“ก็เคยบอกโปรดิวเซอร์คนเก่า เขาก็ยังเชื่อนะ แต่นี่ไม่ เอาแต่เพลงอย่างเดียว ร้องอย่างเดียว ก็บอกว่าให้คนที่เล่นได้พูดบ้าง เราบ้าง โน่บ้าง ไม่ใช่เอาแต่โน่ แต่ก็ไปว่าโน่เขาไม่ได้ เพราะโน่เขาไม่รู้ เขาก็พูดไปนั่นแหละ เขาก็ไปตามคอนเซ็ปท์ ทีนี่ว่าคนเขาไปดูกันตรงนั้นเหรอ คนเขาก็อยากจะดูตอนที่เราแหย่กัน โน่กับฉันคุยกันบ้างนะ แหย่กันบ้างนะ จริงๆ มันต้องอย่างนั้นไง แต่นี่ออกมาสวัสดีแล้วก็เชิญพบโน่นเลย มันไม่ได้มีคำกล่าวอะไรเลย”

บอกตั้งแต่ออกมาไม่มีทีมงานคนไหนติดต่อให้กลับไป แม้แต่ “นีโน่” ที่บอกว่าตามง้ออยู่ แต่ตนไม่รับโทรศัพท์นั้นก็ไม่จริง เพราะตนไม่เคยได้รับโทรศัพท์ติดต่อมาเลย และตนก็ไม่เคยปิดเครื่องด้วย

“พอออกมาก็ไม่ได้มีทีมงานติดต่อมานะ กับโน่ก็ไม่ได้ผิดใจอะไรกันนี่ ไม่ได้ทะเลาะอะไรกัน โน่เขาไม่รู้เรื่องหรอก ยังไม่ได้คุยอะไรกันเลย แทบไม่ได้คุยกับใครด้วย ออกมาเฉยๆ เลย โน่เขาก็ไม่ได้โทรมา ก็ไม่เป็นไร เราไม่ได้เกี่ยวอะไรตรงนั้นหรอก ก็มีเด็กมาบอกว่าพูดกับโน่มั้ย เราก็บอกไม่พูดหรอก ทำไมต้องให้เด็กมาพูดก่อนสิ เรื่องอะไรจะให้ป๋าไปพูดล่ะ”

“แต่เขาบอกเขาโทร.มาเหรอ ไม่มี ไม่รู้เรื่อง โทรศัพท์ก็ไม่ได้ปิด เปิดตลอด ไม่ต้องมาเกี่ยวตรงนี้เลย เราไม่ได้ว่ามัน มาง้ออะไรไม่ได้เกี่ยวเลย อันนี้พูดเรื่องงาน มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับใคร กับโน่เราก็ไม่ได้ไปผิดใจอะไรกับเขา ผลกระทบกับเงิน ก็ไม่เป็นไร ป๋าเป็นคนอย่างนี้อยู่แล้ว เอาสบายใจดีกว่า หนักใจมันก็อยู่ไม่ไหว”

“ถามว่าคิดถึงมั้ย มันก็ไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรขนาดนั้นหรอก มันไม่ได้อะไรขนาดนั้นหรอกมั้ง ก็ธรรมดานี่แหละ ก็เหมือนงานมันหมดไป เราก็ต้องหางานใหม่ไปก็เรื่องปกติ ไม่มีปัญหา สำหรับงานตอนนี้ใครให้ไปก็ไป ไม่ว่าจะเป็นหนังหรือละครอะไรก็แล้วแต่ เราก็ต้องดูอีก คงต้องขอดูก่อนว่าไปนี่จะยังไง อารมณ์ให้ไปอยู่ยังไง เราก็เป็นห่วงตรงนี้ เพราะเราไม่ใช่เด็ก เราคนแก่แล้ว ไปอยู่ที่มันเหมาะสมกับคนแก่หน่อย ไม่ใช่มึงจะจับกูไปอยู่ทั่วหมด ไอ้ห่าเลอะเทอะ ปัญญาอ่อน เราก็ทุเรศตัวเองเหมือนกันนะ แล้วอีกอย่างเป็นผู้ใหญ่แล้ว ถึงเราจะบ้าๆ บอๆ ของเราเองเราก็คงไม่เท่าไหร่ ไม่เหมือนกับมาบอกให้เราบ้าบางทีเราก็ทำยากนะ ฝืนยาก”



รายงานสดจากพื้นที่ข่าว

เดินทางไปที่นี่
Latitude: 12.566443 Longitude: 101.463466



กำลังโหลดความคิดเห็น