xs
xsm
sm
md
lg

งานศพ “หยาด นภาลัย” เงียบเหงา “หนุ่มภูไท” เผยชีวิตรันทดของอดีตนักร้องดัง วอนคนช่วยเหลือครอบครัว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


งานศพ “หยาด นภาลัย” สุดเงียบเหงา มีเพียงญาติและเพื่อนสนิท ดาราศิลปินร่วมงานบางตา “หนุ่มภูไท” ผู้เรียบเรียงเสียงประสาน และนักแต่งเพลงคู่ใจนักร้องผู้ล่วงลับเผยชีวิตรันทดของหยาด นภาลัยที่โดนบริษัทเพลงโกงเงิน จนต้องหนีออกจากวงการ และใช้ชีวิตลำบากเรื่อยมา ด้าน “ตุ๊กตา อุบลวรรณ” และ “เท่ห์ อุเทน” มอบเงินช่วยเหลือ 4 หมื่นบาท

หลังจากที่ "สุริยพงษ์ กาลวิบูลย์" หรือนักร้องดังในอดีต "หยาด นภาลัย" ได้นอนเจ็บป่วยอยู่ที่บ้านพักเป็นเวลา 13 ปี ซึ่งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (5/ก.พ./53) ก็เกิดอาการปวดท้อง น้ำตาลต่ำ ต้องไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลบางกรวย ก่อนที่จะส่งต่อไปยังโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า ก่อนจะเกิดอาการช็อกเพราะปริมาณน้ำตาลในเลือดต่ำและเสียชีวิตในที่สุด ขณะนี้ตั้งศพสวดอภิธรรมอยู่ที่วัดโตนด มหาสวัสดิ์ ศาลาการเปรียญเอนกประสงค์ 1

บรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างเงียบเหงามีเพียงครอบครัว และญาติๆ เพื่อนสนิท ดาราศิลปินมาร่วมงานค่อนข้างบางตา มีเพียง ตุ๊กตา อุบลวรรณ บุญรอด , เท่ห์ อุเทน พรมมินทร์ , เปี๊ยก สมมาตร ไพรหิรัญ และ “หนุ่มภูไท” ซึ่งภายหลังที่รดน้ำศพทางด้านภรรยา “พัชรีรัตน์ กาลวิบูลย์” ได้เผยกับทางผู้สื่อข่าวว่า

"หลังจากเขานอนเจ็บก็มีเพียงเงินจากพี่ชายที่ให้เดือนละ 5 พันบาท เขาป่วยมา 13 ปีแล้ว นอนมาประมาณ 3 ปีหลัง ป่วยเป็นโรคเบาหวาน ความดัน เส้นเลือดตีบ เริ่มมาเป็นหนักวันศุกร์ พาส่งโรงพยาบาลเพราะปวดท้อง"

"พาส่งโรงพยาบาลบางกรวยก่อน น้ำตาลต่ำ เบาหวานสูง พาไปโรงพยาบาลตรวจเบาหวาน หมอก็ฉีดให้น้ำตาลลด แต่ว่ายังไม่รู้เรื่องปวดท้อง เลยพาส่งโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า ฉีดยาแก้ปวดท้องให้ท้องอืด บอกว่าดีมั๊ยเขาบอกว่าดีขึ้น ตอนหลังน้ำตาลลดต่ำเหลือสิบสามเขาเลยช็อค ก็ช่วยปั้มหัวใจครั้งแรก หัวใจดี แล้วก็หยุดอีกครั้งที่ พอครั้งที่ 3 บอกว่าไม่ต้องปั้มแล้วพอแล้ว"

ภรรยาเผยชีวิตที่ผ่านมาของ “หยาด นภาลัย” ค่อนข้างลำบาก เนื่องจากถูกบริษัทเพลงโกงเงิน
"ที่ผ่านมาเขาค่อนข้างเสียใจเรื่องเพลง ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เขาเสียใจอยู่ในช่วงหนึ่ง แต่ว่าเขาก็มีโรคเบาหวานของเขาอยู่แล้ว อันนั้นเป็นผลกระทบส่วนหนึ่งที่ทำให้เขาเครียดแล้วกลายเป็นแบบนี้ ซึ่งหลังจากนี้ลิขสิทธิ์ก็ยังเป็นของเราอยู่"

"ค่าใช้จ่ายเวลาหาเงินได้ก็เอามาดูแลตรงนี้ แล้วเราก็ทำงานไม่ได้เพราะว่าเราก็ต้องมาดูแลตรงนี้ ได้รายได้จากพี่ชายคนเดียวประมาณเดือนละ 5 พันบาท เราก็หยุดดูแลคุณหยาด ตอนนี้น้องก็เรียนกศน. คนโต คนเล็กเรียนเทพศิรินทร์ม.5"

"ตอนนี้ก็มีแฟนเพลงทั้งไกลและใกล้ที่ช่วยมา และแฟนเพลงที่อยู่ต่างประเทศ ก็มีมาช่วยบ้าง เขาติดต่อมาทาอินเตอร์เน็ตบ้าง หนังสือพิมพ์บ้างก็ขอบคุณผ่านสื่อทุกสื่อที่ช่วยเหลือเรื่องนี้มาตลอด ที่คุณเท่ห์บอกว่าจะช่วยทำคอนเสิร์ตให้ ก็อยากให้มีนะคะ ถ้าทำได้"

ด้าน "เท่ห์ อุเทน พรหมมินทร์" วอนให้คนช่วยครอบครัว
"ผมฟังเพลงมาตั้งแต่เด็กๆ ถือเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของวงการเพลงลูกทุ่ง ซึ่งเรื่องให้การช่วยเหลือก็ คือในส่วนของผมก็มีเพื่อนผม ผมว่าตรงนี้ต้องขอบใจแต่ละคนที่รู้เรื่องตรงนี้แล้วก็รีบช่วยกัน ก็ใจล้วนๆ"

"สำหรับผมกับทางครอบครัวคุณอา(หยาด นภาลัย) มีโครงหรือว่าคอนเสิร์ตเพื่อจะหาเงินรายได้ช่วยครอบครัว ผมยินดีเพราะว่าผมมีเพื่อนๆ หลายคน เขาก็อยากช่วยเรียกว่าน้ำใจ ผมเชื่อว่าผมเรียกได้ ผมช่วยได้ คนที่มีความรักในเสียงเพลง รักในผลงานของคุณอา ผมว่ามันน่าจะหมดยุคแล้วนะ ในเรื่องของการมาโกงกันในตัวเงิน "

"การทำงานตรงนี้มันเป็นการทำงานที่ละเอียดอ่อน ทำงานให้คนมีความสุข ฉะนั้นตัวคนร้องหรือคนทำงานมันก็ต้องมีความสุขด้วย ก็น่าจะเป็นตัวอย่างสุดท้ายที่จะมีการเอาเปรียบกันในเรื่องของการโกง ผมว่ามันสมัยใหม่ สื่อทุกสื่อเขาชัดหมดแล้ว ก็อยากจะบอกว่าถึงอาท่านจะจากไปแล้ว แต่ท่านก็ยังมีครอบครัว ถ้าอยากจะให้สิ่งดีๆ กับผู้เสียชีวิตก็ช่วยเหลือครอบครัวเขาก็ได้ ผมว่าน่าจะได้บุญครับ"

ส่วน "ตุ๊กตา อุบลวรรณ บุญรอด" รู้สึกช็อก เพราะตั้งใจจะเอาเงินที่คิดโครงการมาช่วยในวันเกิดที่ 13 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันเกิดของตน แต่ “หยาด นภาลัย” เสียชีวิตซะก่อน เลยมอบเงินช่วยเหลือ 4 หมื่นบาท

"ตุ๊กตาค่อนข้างช็อกคะ เพราะก่อนหน้านี้ตั้งใจที่จะนำเงินมามอบให้อาหยาดอยู่ ตอนนี้จัดรายการอยู่และมีช่วงที่จัดคือย้อนรอยคนดังฟังเพลงลูกทุ่ง จะพูดถึงนักร้องลุกทุ่งคนต่างๆ ก็เลยคิดโครงการขึ้นมา เพราะใกล้จะวันเกิดของตุ๊กตาแล้ววันที่ 13 กุมภานี้เลยตั้งใจไว้ว่าอยากจะหาเงิน ซึ่งก็ได้โทรมาหาภรรยาของอาหยาดว่าจะนำเงินมาให้"

"หลังจากที่รู้ประวัติว่าโดนโกง ร้องเพลงแต่งเพลงและไม่ได้ตังค์ เลยอาจจะทำให้คนเข้าใจผิดเรื่อยมาในการร้องเพลงลุกทุ่ง หลายคนอาจจะมองว่าทำไมอาหยาดไม่ออกมาให้เห็นหน้า เลยอาจจะมองว่าอาหยาดหน้าตาไม่ดี แต่เรามองลึกๆ จากประวัติ พอคุยแล้วก็ได้ถ่ายทอดทางวิทยุ เรื่องหันหลังเข้าวงการเลยเพราะว่าไม่ได้ตังค์ ได้คุยก็อิน เพราะว่าโดยส่วนตัวชอบอยู่แล้ว"

"คือเพิ่งเริ่มติดต่อกับทางสมาคมเพลงลูกทุ่งไทย ว่าอาโดนหนักมา อาโดนแบบนี้ ซึ่งโดยส่วนตัวคิดว่าเป็นการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ เพราะจัดรายการเพลงลูกทุ่งด้วย เพราะว่าเราตั้งใจที่จะหาเงินให้ได้เยอะที่สุดมาเพื่อช่วยอา เพราะรู้ว่าอาระบบลำไส้ไม่ดี วันนี้มาช่วย 4 หมื่นบาท ซึ่งเป็นในโครงการที่หลายๆ คนร่วมกันทำ"

"ถึงแม้ว่าท่านจะจากเราไปแล้ว แต่ว่าสิ่งต่างๆ ยังอยู่ ความทรงจำ ทุกคนระลึกถึงท่าน อยากให้คิดด้วย สำหรับค่ายเพลงหลายๆ ค่ายที่เคยทำร้ายอา ตอนนี้อายังมีลูกมีเมียอยู่ ช่วยเถอะค่ะ เอาเพลงเขาไปทำก็ช่วยเอาเงินมาให้ค่าลิขสิทธิ์เขาหน่อย ก็อยากจะฝากด้วยคะ"

ด้าน "หนุ่ม ภูไท" ผู้เรียบเรียงเสียงประสาน และนักแต่งเพลงคู่ใจ “หยาด นภาลัย” เผยผู้ตายเป็นศิลปินที่น่าสงสาร
"เรื่องที่แกล้มลงป่วยเพราะแกไปร้องเพลงอยู่ แล้วก็ล้มในห้องน้ำแล้วไม่ได้เอาไปส่งโรงพยาบาล กินยาหม้อสมุนไพร ถ้าเอาไปส่งโรงพยาบาลคงหาย ผมจะคอยดูว่าคนที่เอาไปร้องเพลงเนี่ยจะมามั๊ย ล้มแล้วแกเดินไม่ได้เลย ป่วยล้มหมอนนอนเสื่อมาเป็นสิบๆ ปี และแกอาภัพหลายอย่าง เช่น เรื่องรูปร่างเพราะว่ามีแต่คนอยากได้นักร้องหล่อๆ ถ้าไม่หล่อเขาไม่ให้ออกในทีวี ความน้อยเนื้อต่ำใจมันมีมาก แกเป็นคนเก็บกดแกไม่พูด กลุ้มก็เอาเหล้ามากินจบ"

"เป็นนักร้องที่น่าสงสารมาก ชุดแรกที่ผมทำให้มีหลายเพลง ลำน้ำพอง น้ำพองสะอื้น อยู่แต่ละบริษัท ทำกับหลายบริษัท ซึ่งบริษัทที่มีการโกงฟ้องกัน โดนยึดตึก เพราะอ้างว่าเบิกเงินเกิน ผมคิดว่าไม่น่าทำกันได้ ผมเศร้าใจเหลือเกิน ซึ่งเพลงที่ผมทำให้กับหยาดตอนนี้ก็ยังเอาเพลงไปวางขายอยู่”

“ที่ผ่านมาหยาดเขาไม่ออกต่อหน้าสื่อ เพราะบริษัทคิดว่า ถ้าเขาออกไปแล้วคนจะไม่ซื้อ หน้าตาแกก็ไม่ใช่ขี้เหร่หรอก แต่ว่ามุมมองคนมันมองคนละอย่าง จุดด้อยแกมีเยอะเลยไม่อยากให้ออกต่อหน้าสื่อ สมัยนี้ไม่มีแล้วนักร้องระดับนี้แล้ว เขาร้องเพลงดีมากแต่ละเพลงที่ร้องใส่อารมณ์เยอะมาก เพลงที่จะเพราะได้ ดีได้จะมีแต่ดนตรีไม่ใช่นะ มันต้องประสานกันดนตรีดี ร้องดีอันดับแรกมันอยู่ที่อารมณ์เพลง แต่แกก็ไม่ค่อยจะเข้าในวงการเท่าไหร่ ซึ่งลิขสิทธิ์เพลงตอนนี้อยู่ที่ภรรยาแล้ว แต่ใครจะเอาผมก็ขายได้"

สุดท้าย "สมมาตร ไพรหิรัญ" ซึ่งเล่นมิวสิควีดีโอให้กับ “หยาด นภาลัย” มาโดยตลอด จนคนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นหยาด นภาลัย ก็ได้กล่าวถึงหยาด นภาลัยว่า เป็นนักร้องที่มอบความสุขคนอื่นมาตลอดแต่กลับลำบากเป็นทุกข์ วอนทุกคนให้ความช่วยเหลือ
"ผมก็เสียใจนะ เพราะว่าก็เป็นศิลปินนักร้องที่ให้ความสุขกับคนเยอะ ในขณะเดียวกันคนที่ให้ความสุขคน แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นว่าลำบาก ตอนที่มีความสุขคนก็ชื่นชม แต่พอถึงวันนี้กลับกลายเป็นมีเพียงครอบครัวที่อยู่ด้วย ตอนที่แกป่วย"

“เราก็ช่วยเหลือตามอัตภาพ ผมสงสารแกนะครับ เพราะเราก็ไม่ได้มีอะไรมาจุนเจือแกขนาดนั้น วันนี้ก็อยากจะฝากในแง่ของพระพุทธศาสนาเราก็อยากให้ไปสู่สุคติ ใครอยากจะช่วยก็ได้ อย่างผมผมมีเบอร์บัญชี และอย่างลูกเขาออกจากโรงเรียน ถ้าผมเป็นค่ายเพลง ผมก็จะช่วยนะ ผมก็พยายามบอกหลายๆ คนให้มาช่วยทำบุญกัน เขารู้ก็ช่วยกัน รวบรวมแล้วเอามาให้ในเบื้องต้นก่อน ไม่ให้เดือนร้อน ก็บอกเขาให้สู้ๆ ชีวิตคนมันก็อย่างนี้แหละ ผมก็ช่วยที่ผมทำได้"

สำหรับประวัติของ หยาด นภาลัย แทบจะไม่เคยมีปรากฏให้เห็นเลยตามสื่อ เพราะสมัยที่ร้องเพลงบันทึกเสียงนั้น หยาด เป็นนักร้องที่แทบไม่มีใครเคยเห็นหน้าตาที่แท้จริงของเขา เพราะในมิวสิกวิดีโอ กลับกลายเป็นดาราหนุ่ม สมมาตร ไพรหิรัญ ผูกขาดรับบทเป็นพระเอกมิวสิกฯ แทบทุกชุด จนทำให้หลายคนเข้าใจว่า สมมาตร คือหยาด นภาลัย

หยาด นภาลัย มีชื่อจริงว่า หยาดฟ้า กาลวิบูลย์ (ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น สุริยพงศ์) เป็นคน อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี เป็นลูกคนสุดท้องในบรรดาพี่น้อง 18 คนของ นายเสมา กับ นางอ่อนจันทร์ หลังจบ ม.ศ. 3 จึงหนีเข้ากรุงเทพฯ เพื่อเรียนต่อพร้อมกับร้องเพลง

กระทั่งได้มาพบกับ นคร ถนอมทรัพย์ และครูนครได้พาเข้ามาอยู่กับ วงดนตรี จุฬารัตน์ ของครู มงคลอมาตยกุล ในช่วงท้ายๆ ก่อนที่วงจุฬารัตน์จะเลิกราไป หยาดได้ทำหน้าที่เด็กแบกกลองโดยบางครั้งก็ได้ร้องเพลงเป็นครั้งคราว

ด้วยเสียงและลีลาการร้องที่นุ่มฟังสบาย ทำให้ หยาด กลายเป็นที่เอ็นดูของผู้ใหญ่โดยเฉพาะ ครูไพบูลย์ บุตรขัน ครูมงคล อมาตยกุล พร ภิรมย์ และ นคร ถนอมทรัพย์ หยาดจึงได้รับการแนะนำการแต่งเพลง โดยให้เหตุผลว่า "ฝึกแต่งเพลงไว้อย่าเป็นนักร้องอย่างเดียวชีวิตจะได้ไม่ตกอับมาก เพราะการเป็นนักร้องไม่แน่นอน"

ขณะนั้น หยาด ลงทุนทำเพลงเองโดยใช้ชื่อว่า ประสพชัย กาลวิบูลย์ ชื่อชุด วันพระไม่มีหนเดียว ซึ่งเป็นเพลงที่แต่งเองแต่ไม่ดัง ก่อนที่จะมีนายตำรวจยศพ.ต.อ. ลงทุนทำเพลงให้ โดยหยาดเปลี่ยนชื่อว่า นรินทร์ พันธนาคร (ด้วยเพราะร่องเสียงคล้ายกับ ชรินทร์ นันทนาคร) โดยมีเพลง ลำน้ำพอง กับ สาวน้ำพองสะอื้น อยู่ในชุดด้วย

ครูนครได้นำเพลงไปให้ สมโภชน์ ปัจฉิมมานนท์ เจ้าของรายการ 120 นาทีมัลติเพล็กซ์ ซึ่งออกอากาศทาง วิทยุ ขสทบ. และนำแผ่นเสียงชุดดังกล่าวไปให้แก่ห้างแผ่นเสียงทองคำ เป็นผู้ขาย โดยครูนครเป็นผู้ตั้งชื่อให้ว่า หยาด นภาลัย โดยนำคำหน้าชื่อจริงมาตั้ง

เมื่อหยาดเริ่มมีชื่อเสียงเข้าจึงเริ่มออกไปเผชิญชีวิตด้วยตัวเอง โดยเข้าสังกัดค่ายเพลงหลายค่าย เช่น จระเข้โปรโมชั่น พีจีเอ็มเรคคอร์ด และ นิธิทัศน์โปรโมชั่น ฯลฯ แต่ก็มีปัญหาในการทำงานมาตลอด

ส่วนที่มาของการไม่ยอมปรากฏใบหน้าออกโทรทัศน์นั้น หยาดเคยบันทึกไว้ช่วงก่อนที่จะล้มป่วยว่า บริษัทต้นสังกัดได้ทำอัลบั้ม อมตะเงินล้าน ออกมา ทำให้มีงานเข้ามามากมายแต่ทางบริษัทไม่จ่ายค่าตัวกับค่าร้องให้ เขาจึงหมดกำลังใจ และตัดสินใจหนีกลับไปอยู่อุดรฯ บ้านเกิด จนทางบริษัทไม่สามารถตามตัวเจอ ช่วงนั้นพอดีต้องถ่ายมิวสิกวิดีโอ บริษัทจึงให้ สมมาตร ไพรหิรัญ มาเป็นพระเอกมิวสิก จนทำให้หลายคนเข้าใจผิดว่า สมมาตร คือ หยาด นภาลัย

ก่อนที่จะเสียชีวิตหยาด นภาลัย พักอยู่กับครอบครัวที่บ้านย่านซอยสวนผัก 32 โดยมีนาง พัชรีรัตน์ กาลวิบูลย์ อายุ 44 ปี ภรรยาเป็นผู้ดูแลมาตลอด 13 ปีที่ล้มป่วย หยาดมีทายาทด้วยกัน 2 คน คนโตชื่อ ปุณณรัตน์ กาลวิบูลย์ อายุ 16 ปีซึ่งต้องออกจากการเรียนมาทำงานโรงกลึงนำเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัว ส่วนลูกสาวคนเล็กชื่อ ชมพูนุช กาลวิบูลย์ อายุ 15 ปี กำลังเรียนอยู่ชั้นม.3 ที่โรงเรียนเทพศิรินทร์ นนทบุรี (ข้อมูลประวัติคมชัดลึก)















กำลังโหลดความคิดเห็น