“อั้ม” ไม่ขอออกความเห็น “จิ๊ก” ถ่ายแฟชั่นเลียนแบบท่าเดียวกัน แถมเหน็บให้ดูใครสวยกว่า บอกไม่ได้ยินกับหูตัวเอง และแต่ละคนมีสิทธิ์ทำอะไรก็ได้ พร้อมโต้โดนถอดจากโฆษณา เหตุทะเลาะถึงขั้นฟ้องร้องกับไฮโซ “แพรว” เผยคืบหน้าคดีได้ยื่นโนติสท์ให้อีกฝ่ายเรียบร้อยแล้ว
ตอนที่พระเอกหนุ่มปากแดง “อั้ม อธิชาติ ชุมนานนท์” ลุกขึ้นมาถ่ายแฟชั่นสุดเซ็กซี่ ว่ากันว่าเรียกเสียงฮือฮาไปทั่วประเทศแล้ว แต่ปรากฏมีการโค่นแชมป์ โดยนางเอกรุ่นเก๋า “จิ๊ก เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์” ได้ลงทุนเปลือยกายล่อนจ้อน แล้วนั่งกอดเข่าถ่ายแฟชั่นทำท่าเหมือนหนุ่มอั้มเป๊ะ แถมดาราสาวรุ่นใหญ่ยังมีพูดให้เจ็บใจอีกว่า ถึงท่าจะเหมือนกัน แต่ให้เทียบดูระหว่างตนกับพระเอกหนุ่ม ใครจะสวยกว่ากัน ซึ่งงานนี้หนุ่มอั้มขอปิดปากไม่ออกความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับคำพูดของอีกฝ่าย อ้างไม่ได้ยินกับหูเอง ทั้งยังเป็นสิทธิของแต่ละคนที่จะทำอะไรก็ได้
“กับภาพที่พี่จิ๊กถ่ายเหรอ จริงๆถ้าถามผมไม่มีความคิดเห็นอะไรเลย อย่าถามผมเลย เพราะหนึ่งผมยังไม่ได้เห็นหนังสือ แล้วเวลาที่ใครถ่ายผมว่ามันก็เป็นอิสระของเขา ที่เขาจะทำอะไรอยู่แล้ว มันไม่ได้ผิดกับใคร อีกอย่างนึงไม่เห็นอะไรด้วยเลย เพราะฉะนั้นอันนี้ก็คงตอบไม่ได้เหมือนกัน”
“พี่เขาบอกว่าให้ดูแล้วกันว่า ท่าเดียวกันแต่ใครสวยกว่าเหรอ อันนี้ผมไม่ทราบนะ เพราะไม่ได้ยินมาเอง แต่อย่างที่ผมบอกว่าภาพที่ถ่ายออกมา เป็นเพราะเราลองเลือกภาพ ลองเลือกแสงแล้ว และทางทีมงานก็สรุปว่าอยากได้อะไรประมาณนี้ ซึ่งจริงๆตอนที่ถ่ายเรามีหลายช็อต มีหลายแบบ มีหลายท่า แต่ถ้าถามว่าตั้งใจจะไปอะไร หรือทำให้คนไปคิดอย่างนั้นมั้ย มันก็แล้วแต่มุมมองของคน อย่างที่ผมบอกว่าแฟชั่นมันก็มองได้หลายอย่าง แต่ในสิ่งที่เราทำ ไม่ได้มีเจตนาหรือไม่ได้อยากจะทำเพื่อให้มันออกมาในรูปแบบไหนเลย”
“กับคำพูดพี่จิ๊ก เอาอย่างนี้ดีกว่าผมไม่ได้ฟังอะไรเอง คือขึ้นชื่อว่าทำงานสาธารณะ เป็นงานที่ต้องออกสื่อให้คนเห็นอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นมันก็ต้องมีเสียงวิจารณ์กันบ้าง แต่วิจารณ์ยังไงนั้นมันก็เป็นสิทธิ์ของคน ที่จะมองแล้วก็คิด แต่ส่วนที่ว่าเขาจะมองแล้วพูดต่อ หรือยังไงผมไม่ได้ยินกับตัวเอง ก็เคารพในสิทธิ์คนอื่น ใครอยากจะทำอะไรก็ทำในสิ่งนั้นแล้วกัน ถ้าเกิดมันไม่ได้ไปเดือดร้อนต่อใคร”
“เคืองมั้ย อย่างที่บอกว่าไม่ได้เห็นและไม่ได้ยินอะไร และมันก็เป็นสิทธิ์ของเขา คือเรามองงานอื่นเราก็วิจารณ์ เราก็มีสิทธิ์คิดในใจ หรือเราก็มีความคิดเห็นเป็นของเราเอง มันก็เป็นเรื่องปกติของมนุษย์ทุกคนอยู่แล้ว โดยเฉพาะงานตรงนี้ ถ้าเกิดว่าใครจะบอกยังไงหรืออะไรก็แล้วแต่ คือหนึ่งผมไม่ได้ยินกับตัวเอง สองมันเป็นเรื่องความคิดของเขา ผมก็ไม่สามารถที่จะไปอะไรได้”
แจงภาพหลุดกอดคอดีเจปากจัด “มดดำ คชาภา ตันเจริญ” อย่างสนิทสนม เพราะอีกฝ่ายเป็นเพื่อนที่ดี วอนอย่ามองคนด้วยการแบ่งเพศ พร้อมบ่นเบื่อที่ยังถูกมองเป็นเกย์ไม่เลิก
“เรื่องมดดำนี่ถามกันบ่อยมาก คือผมอยากจะบอกตรงนี้เลยว่า กับมดดำเป็นเพื่อนที่ดีมากคนนึง ไม่ว่าใครจะมองเขาว่าเป็นเพศไหน ไม่ว่าใครจะมองเขาเป็นยังไง แต่สำหรับผมคือเพื่อนที่ดี ผมก็อยากจะบอกเลยว่า ถึงแม้จะมีข่าวแบบนี้เขาก็ยังเป็นเพื่อนผม ผมก็ยังกล้าที่จะไปออกงานหรือเจอกัน หรือว่ามีการทักทายกันเป็นปกติ เพราะผมถือว่าเพื่อน เราอย่าไปแบ่งแยกว่า พอมีข่าวแบบนั้นมาแล้วเราจะต้องเป็นแบบไหน คนเรามันคบกันที่จิตใจครับ เขาจะเป็นยังไง ผมว่าเขาก็เป็นเพื่อนที่ดีสำหรับผม และอาจจะหลายๆ คนด้วย”
“เคยบอกไปแล้วว่ามันไม่มีอะไร ถ้ามีอะไรก็คงไม่มานั่งปิดบัง ผมจะไปไหน หรือจะไปเจอกันทักทายที่งานไหน ไปทำบุญกันก็บอก ก็ดูให้เห็น เพราะไม่มีอะไรจะต้องมาปิดบังกัน เพียงแต่คนเราพยายามจะคิดให้มันมี คือคิดให้มันต่างให้ได้ ในเมื่อเราบอกอยู่ตรงนี้ว่า มันไม่มี แล้วยังไงล่ะ ต้องให้ตอบว่าอะไรกันอีก มันขึ้นอยู่กับคนที่จะคิด คือเบื่อมากกับไอ้คำถามเกย์ หรือจะมองใคร หรือจะคบใคร คือผมมาบอกชัดๆ หลายรอบแล้ว บอกจนไม่รู้จะบอกยังไง ให้หาคนมาบอก หรือว่าแต่งงาน คือใช้ชีวิตอยู่ตรงนี้มันก็ไม่ได้ง่าย บอกว่ามดดำคือเพื่อนก็คือเพื่อน อย่าตัดสินคนในการคบกับใครด้วยข่าว หรือสิ่งที่เขาเป็น หรือเพศของเขาเลย ผมว่ามันไม่ยุติธรรมกับคน”
ยันไม่มีวันแต่งงาน เพื่อยืนยันความเป็นแมนของตน บอกถ้าแต่งจริงต้องอยู่ที่ความพร้อมของทั้งสองฝ่าย แย้มสัมพันธ์กับม่ายสาว “นัท มีเรีย” กำลังคืบหน้าไปเรื่อยๆ
“คือถ้าตัดสินใจแต่งงาน จะแต่งเพราะความเหมาะสม เพราะว่าใจ เพราะความพร้อมกับคนที่เราเจอ หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่จะไม่แต่งเพราะไม่อยากให้ใครมอง หรือว่าอะไรตรงนั้น มันไม่มีส่วนในการตัดสินใจ และไม่ใช่กฎเกณฑ์อะไรเลย”
“กับคุณนัทค่อยๆ ไปดีกว่ามั้ย ค่อยๆ ผ่านไป เดี๋ยววาเลนไทน์ ตรุษจีน วันเกิด สงกรานต์ มันก็มีอีกหลายๆ วัน ก็ค่อยๆ ดูๆ กันไป ไม่รีบๆ ส่วนที่รับงานคู่กับน้องพิ้งกี้ ก็อย่างที่บอกว่าผมกับน้องพิ้งกี้ไม่ได้มีปัญหาอะไรกันเลย ก็ยังเป็นพี่เป็นน้อง มีอะไรก็ทักทายพูดคุยกัน เพราะฉะนั้นก็ไม่ได้มีอะไรตรงนั้นที่จะเจอกันที่งานไม่ได้ อีกอย่างมันเป็นงานซึ่งผมอยากทำ”
เผยความคืบหน้าคดีฟ้องร้องไฮโซสาว “แพรว ภูษณิศา พงศาโภคิน” ว่า ได้ยื่นโนติสท์ไปถึงคู่กรณีแล้ว พร้อมโต้ข่าวดังกล่าว เป็นชนวนเหตุทำให้ตนถูกถอดออกจากงานโฆษณา
“เรื่องฟ้องร้องตอนนี้คือ ทางทนายส่วนตัวได้มีการส่งใบโนติสท์ไปถึงคู่กรณีแล้ว แล้วก็รอดูว่าเขาจะมีการตอบรับกลับมายังไงบ้าง แต่ส่วนในขั้นตอนอื่นๆ ผมคงจะต้องขอให้ทางทนาย หรือว่าทางตัวแทนออกมาพูดดีกว่า เพราะตอนนี้เท่าที่ผมทราบคือแค่นั้น มีการติดต่อไกล่เกลี่ยมั้ย อันนี้ยังไม่ได้มีการสอบถามตัวแทนของผมเลยว่า ไปถึงไหนแล้วยังไงบ้าง”
“เรื่องถูกถอดออกจากโฆษณาเพราะกรณีนี้ จริงๆคือยังไม่ได้มีการถอดจากโฆษณา หรือว่าในงานชิ้นไหนเลย แต่จะมีการไถ่ถามถึงสำหรับลูกค้าเอง สำหรับผู้ใหญ่ที่เป็นห่วงเรา หรือว่าผู้ใหญ่ที่ได้เห็นข่าวก็จะถามว่าเรื่องราวเป็นยังไงบ้าง แล้วทำไมเขาถึงพูดอะไรขนาดนี้ เป็นเพราะสาเหตุอะไร ก็ได้มีการถาม ได้มีการเช็คข้อมูลกันบ้าง แต่ไม่มีการถอดครับ ยังไม่มีงานไหนถอด ทุกอย่างผมก็ได้มีการเคลียร์ในวันแถลงข่าวไปแล้วว่า จริงๆ มันไม่มีอะไร แต่บางทีคนก็อาจจะมีข้อสงสัยบ้างว่าทำไมอะไรยังไง”
“แต่สิ่งที่เดือดร้อนก็คือ ผมต้องไปคอยบอกกับผู้ใหญ่ว่า มันไม่ได้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจากเราเลย แต่เป็นคนที่ได้รับผลกระทบเองทุกอย่าง เพราะฉะนั้นก็เลยต้องมีการเคลียร์ กับคนที่ไม่ได้เข้าใจกับข้อมูลทั้งหมดบ้าง กับผู้ใหญ่ที่ผมรับงานเป็นพรีเซนเตอร์ให้ ท่านก็มีถามบ้าง เพราะข่าวมันก็ดูเป็นเรื่องเป็นราวนิดนึง ผมแถลงข่าวไป เขาแถลงข่าวกลับ ก็เลยต้องมีการชี้แจงกันนิดนึง”
| เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540 ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก ระบบ True Move และ Hutch - เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก |
