“จ๋า” บ่นซวยเจอข้อหามือเสียบทำ “จี๊ด-อนันดา” เลิกกัน ลั่นเจออนันดาแค่ครั้งเดียว ไม่มีอะไรเกินเพื่อนแน่นอน ส่วนกรณีป๊ะหน้ากับโจทย์เก่า “หยาดทิพย์” ในงานแห่งหนึ่ง จนฝ่ายคู่กรณีเอ่ยปากถ้ารู้ว่าจ๋ามาร่วมงานคงไม่รับงาน เจ้าตัวไม่ขอพูดถึงและยินดีร่วมงานด้วยเหมือนเดิม
มีข่าวชอบเป็นมือที่ 3 จอมเสียบอยู่เสมอสำหรับสาว “จ๋า ณัฐฐาวีรนุช ทองมี” ที่ล่าสุดก็มีชื่อไปพัวพันกลายเป็นเมือที่สามทำรักของ “จี๊ด แสงทอง เกตุอู่ทอง” กับ “อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม” ล่ม แถมพอเจ้าตัวมาร่วมงานเดอะ เกรต ไชนีส นิว เยียร์ เซล บาย เซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัลพลาซ่า เซ็นทรัล เฟสติวัล ก็ยังต้องมาป๊ะหน้ากับ “หยาดทิพย์ ราชปาล” โจทย์เก่าซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีข่าวว่าเกาเหลากันเพราะ “ไผ่ วันพ้อยท์” หรือไผ่ ลิกค์
“ก็รู้สึกซวยค่ะ เพราะมันไม่เกี่ยวกับจ๋าเลย ยังไงก็ขอยืนยันว่าไม่เกี่ยว เขาเลิกกันเราก็ไม่ได้รู้เรื่องด้วยเลย เหนื่อยแล้ว จ๋าไมได้ทำอะไรแล้วไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย จนวันนี้ก็ยังไม่ได้คุยกับอนันดาเลย ตอนที่เจอกับอนันดาที่เชียงใหม่จ๋าก็ไม่ทราบว่าเขาเลิกกัน เขาจะไม่เคยพูด เคยเล่าอะไรให้เราฟัง วันที่เจอเขาก็ไม่ได้ดูเศร้า ก็แค่มาเจอทักทายกันแล้วก็มีเพื่อนๆ คนอื่นด้วย คือจริงๆแล้วจ๋าเจออนันดามาก่อนหน้านี้ประมาณ 5 – 6 เดือนที่แล้ว ตอนปีใหม่นั้นเป็นการเจอกันครั้งแรกหลังจาก 6 เดือน จ๋าก็เลยรู้สึกว่าอย่าโยนอะไรมาให้จ๋านักเลยจ๋าไม่ได้ทำอะไร”
“จ๋ากับอนันดาเป็นเพื่อนกันมาหลายปีมาก คือถ้าเขาอยากจะเล่าอะไรเขาก็เล่า มันก็ไม่ใช่ธุระเราที่จะไปถาม เราก็เห็นว่าเขาคบกับแฟนเขามาตั้งหลายปีไม่ได้คิดว่ามันจะมีเรื่องอะไรกันอยู่แล้ว ที่ไปเชียงใหม่เราก็ไม่ได้เจอกันโดยบังเอิญเรารู้อยู่แล้ววาเขาอยู่ที่นั้น พอเขารู้ว่าเราอยู่ก็เลยบอกว่าเดี๋ยวมาเจอกัน มันเป็นเรื่องที่ธรรมดามากที่เราจะแวะมาเจอกัน แต่พอมีข่าวมีเรื่องมีอะไรก็มาโยนให้เรา เราเลยรู้สึกว่ามันไม่แฟร์สำหรับเราเลย แล้วเราเจอกันวันที่ 3 ม.ค. เราไม่ได้ไปเคาท์ดาวน์แฮปปี้นิวเยียร์อะไรด้วยกัน มันไม่ใช่อย่างนั้น”
“คือถ้าทุกคนได้เห็นเวลาจ๋าอยู่กับเขา และเขากับจ๋าเป็นยังไงกัน แบบว่าเฮ้ยเป็นเพื่อนคุยบางทีเขาก็พูดภาษาไม่เพราะกับเรา เราก็พูดไม่ได้ดีกันสักเท่าไหร่ จ๋าก็คิดว่าไม่มีใครจะมาคิดว่าเราจะไปมีอะไรกันหรอก คือจ๋าบอกตรงๆ ว่าไม่แฮปปี้กับข่าวนี้ เพราะว่าเราไมได้ทำอะไรแล้วทำไมต้องมาคอยรับเคราะห์ให้คนอื่น คือจริงๆ แล้วจ๋าไม่รู้ว่าเรื่องนี้มันเกิดมาจากเรื่องของใคร แล้วใครเป็นยังไงกัน แต่จ๋าขอบอกว่ามันไมได้เกี่ยวกับจ๋าเลย”
“จริงๆ เราคบกันที่ใจมาตั้งนานแล้ว เราไม่ได้เจอกันบ่อยอย่างที่จ๋าบอกว่าจ๋าเจอเขาก่อนหน้านี้เมื่อ 5-6 เดือนที่แล้ว แล้วนี่มาเจอกันครั้งแรกหลังจาก 5 เดือน มันไม่แฟร์สำหรับเราเลยจริงๆ ครั้นจะมาบอกว่าต่างคนต่างโสดกันแล้วมันก็ไม่ใช่ เพราะจ๋าโสดของจ๋ามาอยู่แล้ว ส่วนเขามันก็เป็นเรื่องของเขาซึ่งจ๋าไม่รู้ไง เราไม่ได้อัพเดทเรื่องส่วนตัวกัน พอมารู้เรื่องนี้เพราะว่าถูกถามนี่แหละ จะมีพัฒนามั้ยคือเราเป็นเพื่อนกันไงค่ะ ยังไงก็เป็นแค่เพื่อน”
“เรื่องของอนันดาจ๋าไม่อยากจะพูดอะไร ถ้าเกิดเขามีความสุขมันก็ดี ถ้าเกิดเขาทำอะไรทั้งสองฝ่ายแล้วมีความสุขมันก็ดี อะไรก็ได้ ถามว่าเสียดายแทนมั้ยจ๋าเองก็อยากให้คนรักกันแหละ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องของเรา พอรู้ว่าเขาเลิกกันแล้วเราก็ไมได้โทรไปถาม ก่อนหน้านั้นมีโทรถามครั้งเดียวเรื่องข่าวว่านี่มันคืออะไร เพราะจ๋ารู้สึกว่าทำไมงานมันมาเข้าจ๋า เป็นครั้งเดียวที่โทรไปถามว่ามันคืออะไร อนันดาเขาก็บอกว่ายูก็ตอบแค่เรื่องที่เราเจอกัน พูดไปตามเรื่องจริงว่ามันคือยังไง แต่เรื่องอื่นขอเป็นเรื่องของเขาสองคน จ๋าก็โอเคไม่ยุ่งอยู่แล้ว ตอนแรกที่ได้ยินข่าวเราไม่ได้รู้สึกไรเลยคิดแค่ว่าพอดีกับข่าวเราเลยเนอะ แต่พอมันมาเป็นเรื่องยาวๆ แล้วจ๋ารู้สึกว่ามันไม่แฟร์เพราะจ๋าไม่ได้ทำอะไร แค่เจอกันวันเดียว กลับมาก็ไม่ได้เจอ โทรคุยก็ไม่ได้โทรคุยก็เลยรู้สึกว่ามันไปกันใหญ่แล้ว”
“คือถ้าคนที่ไปเจอไม่ได้เป็นจ๋าก็คงเป็นสาวนิรนาม ณ เชียงใหม่ค่ะ อย่างที่มีข่าวบอกว่าอนันดามีแฟนใหม่อยู่แล้วที่เชียงใหม่อันนี้ไม่ทราบ แต่จ๋าเจอเขาแค่คนเดียว คือด้วยความที่เราไม่ได้ถามไถ่อะไรมาก คือเขาก็ไม่ได้เล่าอะไรให้เราฟัง ดังนั้นจ๋าเลยไม่รู้ ก็เห็นเขามาแค่คนเดียวนะไม่มีใครข้างมาด้วย แล้วเราก็ไม่ได้ถามอะไรเรื่องของเขาจริงๆ”
ส่วนกรณีที่โคจรมาเจอ “หยาด” ในงานอีเว้นท์ ซึ่งฝ่ายหยาดพูดชัดเจนว่าถ้ารู้ว่า “จ๋า” มาร่วมงานนี้ก็อาจจะปฏิเสธไม่รับงาน ส่วนจ๋านั่นปฏิเสธที่จะพูดถึงเรื่องดังกล่าว
“จ๋าขอไม่ตอบเรื่องนี้แล้วกันค่ะ ไม่มีอะไร ก็ไม่มีคุยกอะไรกันแต่ว่าขอไม่ตอบดีกว่า ก่อนรับงานก็ทราบค่ะว่าเขาจะมาร่วมงานด้วย เราก็ไม่มีปัญหาอะไรด้วยตัวเรา เราไม่มีอะไรอยู่แล้ว เราก็แต่งหน้าห้องเดียวกันไม่มีขอแยกห้องแยกอะไร ก็ไม่มีทักทายกัน เราก็อยู่คนละกลุ่ม คนละโซน จ๋าขอไม่ตอบอะไรแล้วกันเพราะไม่อยากให้มันเป็นเรื่องยาว”
“ที่ไม่พูดนี่ไม่ใช่ว่าไม่อยากพูดถึงชื่อเขานะ แต่ไม่อยากให้มันเป็นเรื่องยาว ไม่ได้ลำบากใจอะไรนะ เพียงแต่ไม่อยากตอบเพื่อเป็นการต่อเรื่องเท่านั้นเอง เรื่องงานเราสามารถร่วมงานกันได้อยู่แล้ว เพราะเราทราบตั้งแต่แรกอยู่แล้วไม่ได้เป็นการที่เราไม่รู้ตัวว่าจะมาเจอกัน คือจริงๆ แล้วเราไม่มีอะไรไง เพราะจ๋าก็บริสุทธิ์ใจที่จะมาทำงาน แต่ถ้างานต่อไปถ้ามาเจอกันแล้วเขาจะขอดูก่อนว่าจะมาร่วมงานหรือเปล่าก็ไม่เป็นไร ขอไม่พูดเรื่องนี้แล้วกัน”
“ถามจ๋าว่ารู้สึกยังไงที่เขาค่อนข้างที่จะชัดเจนว่าไม่อยากมาร่วมงานกับเรา คือจ๋าสบายใจที่เป็นแบบนี้ แล้วจ๋าขอไม่พูดถึงเรื่องนี้ดีกว่า เราก็ชัดเจนเหมือนกันว่าทำงานกับใครก็ได้ จ๋าไม่ได้มีปัญหาและไม่อยากมีปัญหาด้วย เราก็ทำงานของเรา เอาให้เต็มที่ จริงๆ ปีนี้ไม่ใช่ปีชงของจ๋า จ๋าดวงชงไปตั้งปีที่แล้วก็น่าจะจบเรื่องไม่ดีได้แล้วนะ ก็ขอให้หายไปสักทีแล้วกันสำหรับอะไรชงๆ”