“อนันดา” รับเลิก “จี๊ด” 1 เดือนแล้ว เผยยังรักจี๊ดอยู่ แต่ยังไม่พร้อมที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ไปสู่อนาคตก็เลยตัดสินใจเลิกกัน ต่างคนต่างไปทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการดีกว่า ยันไม่มีมือที่สาม
รักร้างรับต้นปีเลยทีเดียวสำหรับ “อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม” กับนางแบบสาว “จี๊ด แสงทอง เกตุอู่ทอง” ซึ่งคบกันมากว่า 4 ปี แต่ในที่สุดก็มีอันเลิกรากันจนได้หลังจากมีข่าวรักร้าวออกมาเป็นระลอก ไม่ว่าจะเป็นข่าวที่อนันดาควง “เจนสุดา ปานโต” ไปนั่งทานข้าว ล่าสุดก็มีข่าวว่าควง “จ๋า ณัฐฐาวีรนุช ทองมี” ไปแฮบปี้นิวเยียร์ถึงเชียงใหม่ ตบท้ายด้วยข่าวอนันดาซุกกิ๊กนักศึกษาที่เชียงใหม่
เมื่อหลายวันก่อนจี๊ดเปิดอกรับว่าเลิกกับอนันดาแล้ว พร้อมป้องฝ่ายชายว่าไม่ได้มีมือที่สาม พอเจอพระเอกหนุ่มในงาน “ครบรอบ 30 ปี CPS CHAPS” ที่สยามเซ็นเตอร์ เจ้าตัวก็เปิดใจถึงเรื่องราวรักร้าว
“ความสัมพันธ์ตอนนี้ห่างกันอยู่ แต่เรื่องมือที่สามที่ว่าเป็นนักศึกษานี่ผมพอนึกออกว่าพูดถึงใครอยู่ แต่ว่าไม่ใช่ เป็นเพื่อนกัน ส่วนสาเหตุเพราะมันอาจจะต้องการเวลาที่ห่างกันเพื่อที่จะมาทำงานหรืออะไรประมาณนี้ มันหลายอย่างครับ สรุปสั้นๆ ก็คือเราได้คุยกันสักพักนึงแล้วว่าเราจะทำยังไงกันต่อ ก็ได้ข้อสรุปกันว่าเดี๋ยวคงต้องมีเวลาห่างกันสักพักนึง ก็จบด้วยดีครับ ไม่ได้ทะเลาะไม่ได้อะไรกันอย่างนั้นอยู่แล้ว มันก็ดีเท่ากับที่คนเขาเลิกกันน่ะ ก็ดีประมาณนั้น มันก็คงไม่ได้ดีมากหรอก”
“คือไม่ใช่ว่าตัดสินใจกันนานแล้วหรอก แต่ด้วยความที่เราคบกันมานาน พอมันมาถึงจุดหนึ่งมันก็ต้องพูดถึงอนาคตก่อนว่ายังไงต่อ แล้วก็บางทีด้วยวัยเราต้องมาดูด้วยว่าอะไรสำคัญที่สุดในชีวิตเราบ้าง ถ้ามันจะพัฒนาไปก็ได้ คือมันก็ต้องดูศักยภาพของตัวเองด้วยว่าเราพร้อมมั้ย ถ้าสมมติว่าเราจะไปต่อ ซึ่งมันค่อนข้างชัดว่าทั้งสองคนก็ไม่พร้อม ถามว่ายังคุยกันมั้ย ก็คุย แต่ว่าก็รู้กันอยู่นะ คนที่เลิกกันก็คงต้องให้เวลากันหน่อย เดี๋ยวพออะไรต่ออะไรมันดีขึ้นก็เดี๋ยวคุยกัน”
ยอมรับต่างฝ่ายต่างมีโลกส่วนตัวสูง แต่บอกที่ตัดสินใจครั้งนี้เป็นการตัดสินใจร่วมกัน ไม่ใช่ตนเป็นฝ่ายขอเลิกก่อนแน่นอน
“ต่างคนต่างมีโลกส่วนตัวสูง แต่ไอ้เรื่องจูนเข้าหากันลำบากมันก็ไม่ใช่ เพราะกว่าที่เราอยู่ เราคบกันได้นานขนาดนี้ก็เพราะว่าเราจูนเข้าหากันได้ เพียงแต่บางทีมันมีความต้องการของแต่ละฝ่ายที่อาจจะไม่เหมือนกัน และบางทีมันก็ต้องยอมรับสภาพด้วย บางทีมันคงต้องไปทำในสิ่งเหล่านั้นก่อน ก่อนที่จะมาโฟกัสเราสองคน”
“คือเราตกลงด้วยกันทั้งคู่ครับ ไม่มีใครเป็นฝ่ายเริ่มก่อน ข่าวว่าผมขอเลิกเหรอ มันไม่ได้เป็นอย่างนั้นนะ ก็ยอมรับนะว่าเราก็คุยกันมาพักนึง เพียงแต่ว่ามันเพิ่งมาเป็นรูปเป็นร่าง คือมันคุยกันมาก่อนปีใหม่แล้ว แต่หลังปีใหม่เพิ่งมาสรุปว่าเราเอาอย่างนี้ก่อนแล้วกัน ก็เลยไม่ได้เคาท์ดาวน์ด้วยกัน คือเขาก็อยู่ที่เชียงใหม่ด้วย แต่ว่ากลับมาก่อน เขาก็อยู่กับเพื่อนแล้วก็ครอบครัวเขา ส่วนผมก็อยู่กับครอบครัวผม”
“ไม่เสียดายเวลาเลยครับ ถามว่าตอนนี้รู้สึกยังไง ก็รู้สึกเหมือนกับคนที่เพิ่งเลิกกับแฟนน่ะ เฮิร์ทมั้ย ก็นิดหน่อย คือมันก็มากกว่านิดหน่อยแหละ เรื่องนี้มันเป็นเรื่องของเราสองคนไม่มีคนอื่นมาเกี่ยวข้อง สำหรับเราที่คบกันมา 4 ปี ผมรู้สึกว่ามันจะจี๊ดมากเลยถ้าสมมติว่ามันจะต้องหยุดเพราะว่าคนอื่น ผมว่ามันไม่ใช่ มันไม่ใช่ผมน่ะ”
“แต่ไอ้รักน่ะมันยังรักกันอยู่ คือการตัดสินใจมันก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น แต่ถ้าจะให้พูดกว้างๆ มันเหมือนความต้องการน่ะ แล้วก็อย่างที่ผมบอกว่าคนที่คบกันมา 4 ปี มันถึงจุดหนึ่งมันก็คงต้องพัฒนาไปเรื่อยๆ และตอนนี้มันค่อนข้างชัดเจนว่าเราทั้งสองคนยังมีเรื่องส่วนตัวที่เรายังอยากจะทำให้กับตัวเองอีกเยอะ มันก็เหมือนกับต้องมาโฟกัสกับตัวเองก่อน แต่ไม่แน่ในอนาคตผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอะไรจะเกิดขึ้น”
“คือจริงๆ มันไม่ใช่แค่เรื่องของการพูดคุย จริงๆ มันเป็นความรู้สึกอะไรบางอย่างที่เรายังต้องทำอะไรมากกว่านี้ และเราเพิ่งมาคุยกันชัดเจนก็คราวนี้ ก็เพิ่งห่างกันประมาณช่วงปีใหม่นี่แหละครับ ประมาณเดือนนึง โอกาสกลับมาเหรอ อนาคตมันมีโอกาสที่จะเกิดอะไรขึ้นก็ได้นะครับ แต่ตอนนี้ผมก็โฟกัสอยู่กับปัจจุบันก่อน เรื่องงาน แล้วก็สติจิตใจของตัวเองก่อน คิดจะกลับไปหามั้ยเหรอ คือมันเร็วไปที่จะตอบคำถามนี้ มันยังเป็นเรื่องใหม่สำหรับผมอยู่ ผมยังต้องปรับตัวก่อน ปรับตัวให้ชินกับการอยู่คนเดียว”
ปัดไม่ใช่เพราะตนมีสาวคนใหม่ และไม่ใช่เพราะ “จี๊ด” มีข่าวว่าไปคบหนุ่มคนใหม่ที่เป็นนายแบบอย่างที่เป็นข่าว ส่วนโปรเจ็คงานภาพถ่ายของตน ยังคงมี “จี๊ด” ร่วมด้วยแน่นอน แต่ตอนนี้คงต้องขออนุญาตกันอีกที
“สาวคนใหม่เหรอ(หัวเราะ) มันคงไม่มีหรอกครับ เพราะว่าเหตุผลหนึ่งที่เราห่างกันออกมาก็เพื่อที่เราจะมาโฟกัสที่ตัวเราเองซะมากกว่า ถ้าเราห่างออกมาโดยที่เรามีคนอื่นมันไม่ใช่ มันไม่ใช่ประเด็นตั้งแต่แรกที่เราเลิกกัน แต่กับข่าวว่าผมมีคนอื่นเนี่ย มันก็เป็นธรรมชาติของวงการอยู่แล้ว เวลาคนเขาห่างกัน เขาก็มักจะอยากให้มันมีเหตุผลมือที่สามที่มันเข้าใจได้ง่ายขึ้น แต่ว่ามันไม่ใช่อย่างนั้นน่ะครับ”
“ส่วนที่มีข่าวว่าเลิกเพราะจี๊ดมีคนใหม่ ผมไม่รู้เรื่องนะ คือผมไม่ได้อ่านข่าวเลยไม่รู้ แต่เรื่องนี้ย้ำแล้วย้ำอีกว่ามันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคนอื่นเลย ไม่ได้มีมือที่สาม ไม่ได้อะไร คือมันไม่มีอะไรเป็นสิ่งข้างนอกที่มาเกี่ยวข้อง มันก็คือเราสองคนที่ตัดสินใจกันเองว่าดีที่สุด ณ ตอนนี้เราควรจะทำอย่างนี้”
“งานที่ว่าจะทำร่วมกัน คืออันนั้นมันเป็นโปรเจ็คของผมเอง มันเหมือนคล้ายๆ เป็นไดอารี่ของผม 99 วันเป็นรูปส่วนตัว รูปที่ผมถ่ายเอง และแน่นอนว่าจี๊ดเขาเป็นส่วนหนึ่งในปีที่ผ่านมาในชีวิตผม เขาก็คงยังมีส่วนในหนังสือ แต่แน่นอนว่าต้องคุยกับเขาก่อนว่าเขายังโอเคมั้ย”