ส่อเค้าจบลงด้วยดี ทนาย “จา พนม” เตรียมนัดไกล่เกลี่ยนอกรอบทนายนักธุรกิจสาวเกาหลี คดีกู้ยืมเงิน 1 ล้าน เผยพระเอกนักบู๊ไม่เคยคิดหนีหนี้ เพียงแต่ติดต่ออีกฝ่ายไม่ได้ และเคยจ่ายชำระไปแล้ว 5 แสน ซึ่งถ้ายังตกลงยอมความกันไม่ได้ ศาลนัดไกล่เกลี่ยใหม่ 1 มี.ค.
เกี่ยวกับกรณีที่พระเอกนักบู๊ “จา พนม ยีรัมย์” หรือชื่อใหม่ “ทัชชกร ยีรัมย์” จากภาพยนตร์เรื่อง “ต้มยำกุ้ง” และ “องค์บาก” ถูกนักธุรกิจสาวชาวเกาหลี “อุน ฮี ปาร์ค” เป็นโจทก์ยื่นฟ้องฐานผิดสัญญากู้ยืมเงิน 1 ล้านบาท โดยโจทก์ได้โอนเงินเข้าบัญชีของจำเลย และจำเลยสัญญาว่า หลังหนัง “องค์บาก 2” ออกฉายจะคืนเงินให้ แต่จนถึงบัดนี้ยังไม่มีการชำระคืน พอทวงถามก็ทำเมินเฉย จึงได้มายื่นเรื่องฟ้องร้องให้จำเลยชดใช้เงินต้น พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (25 ม.ค.) ที่ศาลแพ่ง รัชดา คู่ความทั้งสองไม่ได้เดินทางมาไกล่เกลี่ยเจรจา ตามที่ศาลนัดด้วยตัวเอง แต่ส่งทนายความมาเป็นตัวแทน โดยฝั่งโจทก์อ้างว่า น.ส.อุน ฮี ปาร์ค ป่วยเป็นโรคมะเร็ง และกำลังรักษาตัวอยู่ที่อเมริกา ด้านพระเอกนักบู๊ติดถ่ายหนังเรื่อง “องค์บาก 3” อยู่ที่จ.ระยอง จึงไม่สามารถเดินทางมาได้เช่นกัน ซึ่งหลังจากพิจารณาคดีแล้วทางศาลเห็นว่าไม่มีความยุ่งยาก จึงไม่มีการนัดชี้สองสถาน และศาลก็ไม่รับฟังคำให้การ เพราะทนายความ 2 คนของฝั่งจำเลยแถลงคำให้การขัดแย้งกัน ศาลจึงนัดให้มาไกล่เกลี่ยกันใหม่วันที่ 1 มี.ค.นี้
ทั้งนี้นายจารุพล เรืองเกตุ ซึ่งเป็นทนายความของโจทก์ และนายธนกร เทวโรธร ที่เป็นผู้รับมอบอำนาจมาจาก น.ส.อุน ฮี ปาร์ค ได้กล่าวเปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า คดีมีสิทธิ์จบก่อนวันที่ 1 มี.ค. เพราะอาจมีการไกล่เกลี่ยกันนอกรอบ ขึ้นอยู่กับฝั่งพระเอกนักบู๊จะนำเอกสารอะไรมาให้ดู และตกลงยอมความเรื่องจำนวนเงินได้แค่ไหน
“วันนี้ทางคุณจาส่งทนายมา 3 ท่าน มีจากของทางคุณจา พนม เอง และมีของทางบริษัทไอยราฟิล์ม 2 คน ซึ่งอีก 2 ท่านเป็นทั้งของส่วนตัว และตัวแทนของบริษัทไอยราฟิล์ม ที่คุณจาเป็นกรรมการของบริษัทอยู่ ที่ศาลเลื่อนไกล่เกลี่ย เพราะกำลังรอคำของคุณจาว่า จะเลือกคำให้การของทนายท่านใด และจะเลือกให้ทนายท่านใดเป็นผู้ดำเนินการกระบวนการพิจารณาต่อ”
“วันที่ 1 มี.ค.คุณจาอาจจะไม่ต้องมาก็ได้ ถ้าเราสามารถสรุปกันได้ ก็จะทำคำร้องมาที่ศาล คือถ้าเราสามารถไกล่เกลี่ยกันได้นอกรอบ มาสรุปยอดชำระหนี้เหลือกันเท่าไหร่ ถ้าตกลงยอมรับกันได้และจบคดีได้ ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร คงไม่ต้องดำเนินกระบวนการพิจารณาต่อ เราก็อาจจะมายื่นถอนฟ้องออกไป”
“ซึ่งจำนวนเงินตอนนี้ เราขอดูเอกสารของทางคุณจาก่อนว่า จะมีอะไรมาไกล่เกลี่ย และเราสามารถยอมความได้แค่ไหน แนวโน้มไกล่เกลี่ยขึ้นอยู่กับคุณจามากกว่า ถ้าเขาพร้อมเราก็พร้อม มันก็มีสิทธิ์เป็นไปได้ที่จะยกฟ้อง เพราะทนายทั้ง 3 ท่านของคุณจา ก็มีแนวทางใกล้เคียงกัน เขาก็อยากจะพูดจาตกลงกันด้วยดี”
ฟาก 2 ทนายความของ “จา พนม” อย่างนายอภิรมย์ ธีระเดช และนายนิคม โชติพันธ์ ก็พูดไปในทำนองเดียวกันว่า อาจมีการไกล่เกลี่ยกันนอกรอบ พร้อมยันพระเอกนักบู๊ไม่เคยคิดหนีหนี้ แต่ติดต่ออีกฝ่ายไม่ได้เอง
“ผมคิดว่าคงไม่ถึงครั้งหน้าหรอก เดี๋ยวก็มีการไกล่เกลี่ยกันนอกรอบแล้ว เดี๋ยวเราจะไปเคลียร์กันจริงๆว่า เหลือเงินเท่าไหร่ที่คุณจาจะต้องชดใช้ ถ้าเรียกร้องมาเรายินดีที่จะจ่ายอยู่แล้ว แต่ต้องดูว่าตอนนี้เงินที่เป็นหนี้เหลืออยู่เท่าไหร่ คือตอนนี้เขาเรียกร้อง 1 ล้าน แต่เราจ่ายไปแล้วเป็นจำนวนเงิน 5 แสนบาท ซึ่งถ้าเกิดโอเคยอมรับกันได้เราก็จ่ายไป โดยไม่ต้องมาศาลอีก หรือถ้าเกิดมาก็คงมาแถลงปิดคดี ถอนฟ้องกันไป”
“ใจจริงทางคุณจายินดีที่จะจ่ายอยู่แล้ว คุณจามีการติดต่อไปทางคุณอุน ฮี ปาร์ค อยู่ตลอด แต่เหมือนติดต่อฝั่งนั้นไม่ได้ ก็เคยติดต่อไปโดยตรง เพราะเราคิดว่าเอาเงินไปจากใคร ก็จะจ่ายคนนั้น แต่ติดต่อไม่ได้ คุณจาไม่ได้มีเจตนาจะหนีหนี้เลย ที่ทางนั้นบอกว่าคุณอุน ฮี ปาร์ค ป่วยเป็นโรคมะเร็งอยู่อเมริกา เขาก็พูดไปพูดมากันอย่างนี้แหละ มาตอนนี้บอกว่ารักษาโรคมะเร็ง จริงๆก็ไม่รู้เป็นยังไง ถ้าเกิดอุบัติเหตุก็บอกมาก็จบแล้ว เพราะว่าคุณจาพยายามติดต่อมาโดยตลอด จริงๆแล้วมันไม่มีอะไร”