“เสี่ยเจียง” ไม่ปลื้มรายได้หนังปี 52 ตกวูบ เหตุเจอพิษเศรษฐกิจและปัญหาทางการเมืองเล่นงาน รับผิดหวังรายได้หนัง “จีจ้าฯ” ปีหน้าจะลดหนังบู๊และหนังฟอร์มยักษ์ เน้นหนังตลกต้นทุนน้อยแทน แกล้งทำมึนลืมโปรเจกต์หนัง “ตั๊ก บงกช” บอกยังไม่ได้คุย อีกทั้งบทยังไม่เสร็จ การันตีไม่ได้ฉายปี 53 ส่วนคดีฟ้องร้องของ “จา” เผยเจ้าตัวยอมรับเอาเงินคู่กรณีมาจริง ป้องไม่เบี้ยวพร้อมจะจ่ายหนี้เอง
div align="center">
ปีก่อนยังยิ้มหน้าบานกับผลประกอบการของบริษัท มาปีนี้เจอปัญหาเศรษฐกิจ พ่วงด้วยความวุ่นวายทางการเมืองพ่นพิษ ทำเอา "เสี่ยเจียง สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ" เจ้าของค่ายหนังยักษ์ใหญ่ สหมงคลฟิลม์ ถึงกับกุมขมับ เมื่อผลตอบรับและรายได้ของภาพยนตร์ที่ออกฉายตลอดทั้งปี 2552 ไม่เข้าเป้าตามที่ตั้งไว้ โดยบิ๊กบอสค่ายใบโพธิ์ ได้แถลงถึงผลประกอบการของบริษัทว่า ไม่ค่อยน่าพอใจสักเท่าไหร่
“ตลอดทั้งปีที่ผ่านมาถ้าพูดจริงๆก็แค่โอเค ไม่พอใจมาก เพราะหนังทำเงินของเรามีไม่มาก ไม่เหมือนปีก่อน แต่ไม่เกี่ยวกับคนไม่ดูหนังผมคิดว่าเกิดจากปัญหาการเมือง เศรษฐกิจมากกว่า เดี๋ยวก็ยิงกัน แต่เราค้าขายเราไม่เกี่ยว ก็เลยส่งผลกระทบต่องาน แต่ไม่มากแค่นิดนึง ความเสียหายก็มีบ้าง”
“ถ้านับเป็นเปอร์เซ็นต์เสียไปประมาณ10-20 เปอร์เซ็นต์ ได้ มากกว่าปีก่อนๆ มันดีแต่ไม่ดีเท่าที่เราคิด อย่างเรากะว่าจะได้150 มันก็เหลือแค่ ร้อยล้าน ร้อยสิบล้าน มันหายไปตั้ง 30-40 ล้าน แต่ทั้งนี้มันก็มีส่วนที่เราผิดเอง อย่างหนังที่เราซื้อมากะว่าร้อยกว่าล้าน มันก็ได้ 95-100กว่าล้าน ไม่ถึง150 ล้าน ทุกเรื่องที่เราทำกลยุทธ์มันดีอยู่แล้ว ก็เหมือนทุกครั้ง แต่ปัญหาบ้านเมือง เศรษฐกิจเรา คนไม่อยากใช้เงิน แล้วยิ่งเจอแผ่นซีดีผี มันมีส่วนทำลายหนังเรา ซึ่งตำรวจทำอะไรไม่ได้สักที จนป่านนี้มันกี่ปีแล้ว ผมเสียเงินเฉพาะจับแผ่นซีดีหมดไปเป็นสิบล้าน ก็ยังจับไม่ได้แล้วก็ปัญหาแยะ มันแก้ไม่จบ”
หลังผิดหวังกับรายได้หนัง “จีจ้า ดื้อ สวย ดุ” “เสี่ยเจียง” แย้มว่าปีหน้าจะลดหนังบู๊เหลือเพียงปีละ 2 เรื่อง เน้นหนังตลกมากขึ้น พร้อมบอกทีมสร้างให้ลดต้นทุนการผลิต
“ปีหน้าจะเตรียมรับมือกับเศรษฐกิจยังไง ผมคิดว่าหนังบู๊อย่าง จีจ้า คนไทยไม่ค่อยดู ก็เลยคิดว่าหนังบู๊จะทำปีละ 2 เรื่องพอ และจะเน้นหนังชาวบ้าน หนังตลกมากขึ้น ต้นทุนก็ไม่เยอะไม่เสี่ยงมาก อย่างหนังหม่ำ 20-30 ล้าน แต่รายได้เป็น100 ล้าน เราก็ขายเฉพาะเมืองไทย ไม่ต้องขายเมืองนอกก็ได้”
“ถามว่าหนังประเภทไหนที่พอใจในปีที่ผ่านมา ก็น่าจะเป็นแนวตลก ส่วนหนังบู๊เรื่อง จีจ้าฯ ผิดหวัง(ถอนหายใจ) หวังไว้มาก อาศัยว่าหนัง จีจ้า เรายังไปขายเมืองนอกได้ รายได้ที่มาจากเมืองนอกก็ได้เยอะกว่านะถ้าเป็นหนังผีก็สู้เมืองไทยไม่ได้ ได้มาบ้างนิดหน่อย แต่ถ้าเป็นหนังของ จา (ทัชชกร ยีรัมย์) ไปขายเมืองนอกจะได้เยอะหน่อย ได้มากกว่าเมืองไทย”
“ส่วนหนังของเมืองนอกก็เจอปัญหาเดียวกับเรา ขายไม่ได้ขายไม่ดีเท่าที่แล้วมา การเงินเขาก็มีปัญหา เราคาดหวังว่าหนังเราที่จะเอาไปขาย น่าจะได้ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่สุดท้ายได้กลับมาเพียง 60-70 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ทุกครั้งที่ไปงานคนเดินบู๊ธเข้ามาดูหนังเราทุกวันไม่เคยว่าง แต่ปีนี้ไปที่อเมริกามาผิดหวังมาก รายได้หายไปเกือบ 30 เปอร์เซ็นต์ คนไปงานก็น้อย ประเทศที่มาซื้อหนังก็น้อย”
“เรื่องลดต้นทุนหนังก็คิดอยู่ ผมเลยเรียกปรัชญา (ปิ่นแก้ว) ของ บาแรมยู ที่เป็นฝ่ายสร้างหนัง มาคุยกันหาทางแก้ไขว่า ให้ลดต้นทุนหน่อยแต่คุณภาพต้องดีกว่าเก่า เพราะสมัยนี้การใช้ฟิลม์ถ่ายหนังไม่ต้องใช้แล้ว ให้ใช้กล้องดิจิตอลแทน แต่หนังต่างประเทศผมคงไม่ลดจำนวนเรื่องที่ซื้อขึ้นมา แต่ราคาที่ซื้อต้องลดลงมาให้เอาไม่แพง เราก็เล่าให้เขาฟังตรงๆ ซึ่งทางต่างประเทศก็รู้ตัว เขาก็เห็นใจ”
แกล้งทำมึนลืมโปรเจกต์หนังของสาวอกโต “ตั๊ก บงกช คงมาลัย” บอกยังไม่ได้คุยกัน อีกทั้งบทมีปัญหา ฟันธงไม่มีทางได้ฉายปีหน้าแน่
“หนังของตั๊กผมไม่รู้ครับ ลืมไปแล้ว ผมไม่ได้ทำ เรื่องมันอยู่ที่บาแรมยู บาแรมยูยังไม่ได้เสนอเรื่องนี้มา เราก็เลยไม่ได้คุย แต่จะให้หนังมาออกปีหน้านี้เป็นไปไม่ได้หรอก หนังยังไม่ได้สร้างเลย ผมเข้าใจว่าบทมีปัญหา และทางฝ่ายเราแคร์เรื่องบทมาก ถ้าบทไม่เรียบร้อยก็ไม่ได้”
ส่วนคดีของพระเอกลูกรัก “จา ทัชชกร ยีรัมย์” ที่ถูกนักธุรกิจสาวแดนโสม ยื่นฟ้องร้องโกงเงิน 1 ล้านบาท บิ๊กบอสค่ายใบโพธิ์เผยพระเอกนักบู๊ยอมรับเอาเงินอีกฝ่ายไปจริง และจะใช้คืนเอง
“เรื่องจาไม่เป็นไรหรอกมั้ง มันเป็นเรื่องนิดเดียว เงินเขาจามันก็เอามาจริง ผมถามแล้ว ถ้ามีหลักฐานว่าจาไปเอาเงินเขามาจริง เขาจะคืนให้ จาก็มีเงิน โธ่!จาเล่นหนังเรื่องนึงได้ตั้งหลายตังค์ จะไม่มีเงินได้ไง ในเมื่อเอาเงินเขามาใช้ก็คืนเขาไปเถอะ ส่วนเรื่องสัญญาจาจะไปเซ็นเล่นหนังกับทางนั้นได้ไง จามีสัญญากับทางนี้อยู่เป็นไปไม่ได้ มันเซ็นซ้ำซ้อนไม่ได้ ผมไม่รู้เขาตกลงกันยังไงนะ แต่ไปเซ็นซ้ำซ้อนไม่เป็นประโยชน์หรอก”
“ซึ่งจาเองก็เข้ามาปรึกษาว่าจะเคลียร์เงินให้ โอเคจะรับผิดชอบ เขาไม่ได้โกง และไม่ได้ขอเงินผมด้วย เขาจะเอาเงินเขาจ่ายเอง พร้อมที่จะรับผิดชอบอยู่แล้ว และก็ไม่กลัวว่าภาพพจน์เขาจะเสียหาย และส่งผลกระทบต่อบริษัทผมด้วย เพราะเราเอาเงินเขามาแล้วใช้คืน มันก็ไม่เสียหายนะ แต่ถ้าไม่ใช้คืนแล้วปล่อยให้เขาฟ้องนี่สิเสียหายกว่า”
เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540 ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก ระบบ True Move และ Hutch - เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก |