xs
xsm
sm
md
lg

“เอ” ไม่รู้เรื่อง “ป๋อ” จะชิ่ง 7 สี แต่ยันพระเอกหนุ่มรักวิกหมอชิต แถมสัญญายังเหลือถึงสิ้นปี 53

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“เอ” ยัน “ป๋อ” รักและภักดี 7 สี แถมสัญญายังเหลืออีกยาวถึงสิ้นปี เผยพระเอกหนุ่มไม่เคยปรึกษาเรื่องดังกล่าว ตอบไม่ได้เจ้าตัวจะต่อสัญญากับวิกหมอชิตหรือไม่ รับเรตติ้งละคร "ใต้ฟ้าตะวันเดียว" ยังไม่เป็นที่พอใจ เชื่อต่อไปดีขึ้นเพราะมีเนื้อหาเข้มข้น แย้มควักเนื้อขาดทุนกว่า 9 ล้าน แต่ไม่เข็ด และขายลิขสิทธิ์ฉายที่เกาหลีกับญี่ปุ่นได้แล้ว เตรียมดันโปรเจกต์ละครใหม่ เน้นถ่ายต่างประเทศและใช้นักแสดงเกาหลีเหมือนเดิม

หลังจากมีกระแสข่าวลือว่า พระเอกผิวเข้มแห่งวิก 7 สีอย่าง “ป๋อ ณัฐวุฒิ สกิดใจ” จะชิ่งหนีจากบ้านเกิด 7 สี ไปซบอกช่องคู่แข่งอย่างวิก 3 ส่งผลทำให้ละครเรื่อง "ลุย" ที่วางตัวป๋อเป็นพระเอก เกิดปัญหาทำพิธีบวงสรวงเปิดกล้องละครไม่ได้ ล่าสุดมีโอกาสเจอผู้จัดการของพระเอกหนุ่มอย่าง "เอ ศุภชัย ศรีวิจิตร" จึงได้เข้าสอบถาม เจ้าตัวรีบชี้แจงให้ฟังว่า เรื่องละครทางช่อง 7 จะเป็นคนดูแลป๋อเอง ส่วนตนยันได้แค่ว่าสัญญากับทางช่องยังเหลืออีกยาวถึงสิ้นปีนี้

“ได้ยินแล้วตกใจหมดเลย เราเองก็พอจะได้ยินข่าวมาก่อนหน้านี้แล้ว ก็มีการพูดคุยกัน เอก็ขอพูดในฐานะผู้จัดการของป๋อเลยครับว่า คนที่ดูแลป๋อคือช่อง 7 ส่วนผมก็จะเป็นคนที่ดูแลป๋อ พาป๋อเข้ามาที่ช่อง 7 และก็พูดตรงนี้เลยว่า สัญญาของป๋อยังอยู่อีกนานระยะยาว ประมาณถึงสิ้นปีนี้ เขาคงยังไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้น คือตัวเราเองจะดูแลเรื่องของงานโฆษณาให้เขามากกว่า ส่วนเรื่องละครและพิธีกรต่างๆ ทางช่องจะเป็นคนดูแลรับผิดชอบเอง เราเลยไม่ทราบว่าทางช่องได้เรียกป๋อไปคุยเรื่องสัญญาแล้วหรือเปล่า หรือว่าอะไรยังไง"

“งานตอนนี้ที่ยังเหลือของพี่ป๋อ ก็มีงานพิธีกรของเจเอสแอล แล้วก็มีละครเรื่องใหม่ของช่อง 7 ซึ่งเราไม่รู้เรื่องเลยที่ละครเรื่อง ลุย มีปัญหาเรื่องนักแสดงว่า อาจจะมีการเปลี่ยนตัวยังไง เท่าที่ทราบป๋อรับเล่นไปแล้ว แต่ถ้าเขาบอกว่าไม่แน่จะเป็นป๋อเล่นหรือเปล่า ตรงนั้นคงต้องเป็นเรื่องของผู้ผลิตและทางช่อง ผมต้องขอออกตัวไว้ตรงนี้ก่อนเลยว่า ไม่รู้เรื่องละครของป๋อเลย แต่อยากให้ทุกคนรู้ไว้อย่างหนึ่งว่า ป๋อรักช่อง 7 และรักคุณแดง สุรางค์ เปรมปรีดิ์มาก"

“เขาหมดสัญญาแล้วจะต่อหรือไม่นั้น ป๋อไม่เคยมาคุยกับเราเลย เขาจะพูดแค่ว่าอยากตั้งใจทำงาน เพราะอาชีพนักแสดง เป็นอาชีพที่เขารักมาก และเหมือนที่ผ่านมาเขาก็พยายามค้นหาตัวเองมาทุกอย่างแล้ว และเขาก็ค้นพบว่า สิ่งที่เขารักที่สุดคือการแสดง ถามว่ามีแนวโน้มมั้ยที่ป๋อจะต่อสัญญา แล้วรับเป็นนักแสดงอิสระตรงนี้ไม่ทราบเลยจริงๆ เราไม่สามารถตอบแทนได้ เราเองก็ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ก็จะทำหน้าที่ดูแลภาพลักษณ์ของป๋อ คือด้วยความที่ตอนนี้ป๋อเอง ก็มีอายุมากขึ้นเยอะแล้ว บวกกับตอนนี้คุณพ่อเขาก็มาป่วยด้วย เราก็ไม่ทราบเหมือนกันว่า เขาจะตัดสินใจอะไร”

รับฟีดแบคละคร "ใต้ฟ้าตะวันเดียว" ยังไม่เข้าตาประชาชนหมู่มาก หวังเรตติ้งจะกระเตื้องขึ้นจาก 1 เนื่องจากเนื้อหาละครเข้มข้น ทั้งยังเผยได้ขายลิขสิทธิ์ละครให้ประเทศเกาหลี และญี่ปุ่นเรียบร้อยแล้ว

“ละครเรตติ้งดีมากนะในกลุ่มวัยรุ่น แต่สำหรับวัยผู้ใหญ่วันเริ่มต้นออกอากาศยังไม่ดีเท่าที่ควร แต่ด้วยเนื้อหาละครที่เข้มข้น เรามั่นใจว่าเรตติ้งจะต้องดีขึ้นเรื่อยๆแน่นอน เรื่องแรกเจอแบบนี้เราไม่เสียเซลฟ์เลย คือคิดไว้อยู่แล้วว่า มันจะต้องเป็นแบบนี้ ฐานของเราจริงๆคือต้องการเจาะกลุ่มตลาดวัยรุ่น แต่วัยผู้ใหญ่เราไม่ได้เจาะ แต่ก็อยากให้เขามาดูเรื่องนี้ เพราะมีนักแสดงเก่าๆที่มีชื่อเสียงอีกหลายท่านเล่นด้วย คนอาจจะมองภาพว่าเราเป็นละครเด็ก เพราะเอานักแสดงเกาหลีมาเล่น แต่จริงๆแล้วไม่ใช่เลย ละครเราเข้มข้นทุกหยด”

“ตัวกึ้ง (เฉลิมชัย มหากิจศิริ) เองก็แฮปปี้นะ จริงๆแล้วกระแสดีมาก แต่บางทีตัวเรตติ้งมันก็ไม่สามารถวัดกระแสที่ออกมาจริงๆได้ ที่หลายๆคนพูดกันเรื่องเสียงที่ฟังแล้วมันดูขัดหู ขออธิบายนิดนึงว่าเรื่องนี้เราใช้เสียงพากย์ เพราะเราต้องออนแอร์หลายประเทศ ตอนนี้ละครเราขายไปให้ประเทศเกาหลีและญี่ปุ่นแล้ว ซึ่งเราจำเป็นที่จะต้องใช้การพากย์ ซึ่งในห้องพากย์มันจะเงียบ นี่ขนาดเราเก็บเสียงบรรยากาศมาลงผสมแล้ว แต่เสียงมันก็ยังกระโดดอยู่นิดนึง แต่ตอนนี้เราปรับปรุงแก้ไขแล้ว ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรแล้ว”

“ตอนนี้ก็ได้แต่ภาวนาให้เรตติ้งมันดีขึ้น ก็อยากให้ทุกๆคนช่วยกันเชียร์เยอะๆ เพราะเรตติ้งเองก็เป็นเหมือนผลสอบ เป็นตัววัด คือถ้าเราสอบได้ไม่ดี ถึงเราจะอ่านหนังสือให้ตาย ทั้งๆที่คุณครูเองก็รู้ว่าเราอ่านหนังสือมาเยอะ แต่สุดท้ายมันขึ้นอยู่กับตัวคะแนนสอบก็คือผลเรตติ้ง”

ยันยังไม่ท้อกับการเป็นผู้จัดละคร แม้จะควักเนื้อเข้าตัวไปแล้วกว่า 9 ล้านบาท เผยละครเรื่องใหม่ยังคงคอนเซ็ปต์ถ่ายต่างประเทศ และใช้นักแสดงเกาหลีเช่นเดิม

“ยังไงโปรเจกต์นี้เรายังทำต่อแน่นอน ตอนนี้ก็เอาบทไปให้เขาอ่านแล้วเรื่องนีง เขาก็บอกว่าเอาอีกแล้วเหรอ ต่างประเทศอีกแล้วเหรอพี่เอ เราก็บอกใช่สิ เล็กๆไม่ใหญ่ๆเอเอา ดาราก็ยังคงเอาเกาหลีมาเหมือนเดิม เพราะชอบกิมจิ (หัวเราะ) แต่ถามว่าเข็ดมั้ย เราเองก็เข็ดเหมือนกัน เข็ดที่เหนื่อย ไม่ได้เข็ดที่ฟีดแบคไม่ดีเลย ไม่ใช่ว่ามันไม่คุ้มอะไรนะ คือเมื่อก่อนเป็นผู้จัดการดารา เราเดินไปเดินมาได้ 5 พัน เป็น 1-2 แสน"
 
"แต่อันนี้เดินทั้งวันทั้งคืนก็ยังไม่รู้ว่าได้กี่บาทเลย ไหนจะต้องมาเจอคนหมู่มาก วีนใครไม่ได้ด้วย เพราะเราต้องดูแลทุกคน เหนื่อยแต่ก็คุ้มนะเรื่องของประสบการณ์ เรื่องเงินไม่คุ้มหรอก นี่เราก็ควักเนื้อเข้าตัวไป 8-9 ล้านแล้ว ยังคิดอยู่ในใจเลยว่า เราคิดถูกหรือคิดผิด แต่ไม่ลองมันก็ไม่รู้ถูกมั้ย เรื่องนี้เราทุ่มงบกันเยอะจริงๆเกือบ 40 ล้าน ต่อให้ขายโฆษณาให้เต็ม ก็ยังไม่ได้กำไรเลย แต่ก็ถือซะว่าเราซื้อประสบการณ์”

“คือเราอาจจะพลาดตรงที่เรื่องแรกก็เล่นต่างประเทศเลย มันเหมือนข้ามขั้น แทนที่จะเป็นประถม มัธยม แต่เรามาถึงก็ล่อมหาวิทยาลัยเลยไง แต่เราก็เป็นคนที่นิสัยอย่างนี้ ทำอะไรเล็กๆไม่เป็น ถ้าเราเริ่มที่ในประเทศก่อน อะไรๆมันอาจจะดีกว่านี้นะในความคิดของเรา”







เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย
ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540
ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก
ระบบ True Move และ Hutch - เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000
*ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก


กำลังโหลดความคิดเห็น