ในหลวง และราชินี พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ “ร.ต.ม.จ.ทิพยฉัตร ฉัตรชัย” ทั้งยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้ารับพระศพไว้ เป็นพระราชานุเคราะห์ 7 วัน ด้าน “ท่านมุ้ย” เผยวงการภาพยนตร์ไทยได้สูญเสียปูชนียบุคคลที่สำคัญ ส่วนอดีตดารารุ่นเก่าที่เคยร่วมงานกับท่านทิพย์ ต่างแห่มาร่วมไว้อาลัย
เมื่อเวลา 17.00 น.วานนี้ (14 ม.ค.) ที่วัดพระศรีมหาธาตุฯ บางเขน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้ ฯพณฯท่าน อรรถนิติ ดิษฐอำนาจ องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ประกอบพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ “ร.ต.ม.จ.ทิพยฉัตร ฉัตรชัย” ผู้กำกับหนังรักโรแมนติกแห่งวงการภาพยนตร์ไทย ที่สิ้นชีพิตักษัย เมื่อวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา ณ บ้านพักในหมู่บ้านบุญโต 6 อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ด้วยพระชันษา 75 ปี หลังประชวรด้วยโรคพาร์กินสันมานาน 15 ปี
ทั้งยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าพระราชทานพระโกฐบรรจุศพ และรับไว้เป็นพระราชานุเคราะห์เป็นระยะเวลา 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 14-20 ม.ค.นี้ จากนั้นจะมีพิธีสวดพระอภิธรรมต่ออีกถึงวันที่ 27 ม.ค. 53 และจะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพในวันที่ 28 ม.ค.53 เวลา 14.00 น. ณ เมรุ1 วัดพระศรีมหาธาตุฯ บางเขน
ต่อมาเวลา 18.00 น.สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ได้ให้ พล.อ.อ.สมชาย เปล่งขำ ผู้แทนพระองค์นำพวงมาลาหลวง พร้อมพวงมาลาของพระบรมวงศานุวงศ์ประดับหน้าพระศพ
ภายหลังเสร็จสิ้นพิธีการต่างๆ หม่อมอรศรี ฉัตรชัย ณ อยุธยา พระชายาใน ร.ต.ม.จ.ทิพยฉัตร ฉัตรชัย เปิดเผยแก่ผู้สื่อข่าวว่า
“ท่านชายประชวรด้วยโรคพาร์กินสันมา 15 ปี ซึ่ง 5 ปีหลังท่านทรุดลงเรื่อยๆ กระทั่งท่านไม่สามารถดำเนินได้ และเมื่อต้นปีที่แล้วต้องถวายอาหารด้วยสายยาง เพราะมีอาการเกร็ง การกลืนสำหรับท่านจะลำบากมาก ท่านไม่กลืนเลย ก็ต้องมีการช่วยเหลือ อาการก็จะบอกอะไรไม่ได้แล้ว ที่ประสาทสมองจะไม่สั่งงาน ซึ่งก่อนหน้านี้ท่านก็ไม่ได้มีรับสั่งอะไรเป็นพิเศษ ท่านทำแต่งาน ก่อนจะสิ้นท่านยังรับสั่งอยู่เลยว่า กล้องพร้อมหรือยัง กล้องพร้อมไหม ไฟพร้อมไหม แต่ก็เคยได้ยินท่านรับสั่งก็คนใกล้ชิดว่า ท่านอยากทำเรื่องที่ 11 ซึ่งท่านเองก็ทำมาหลายเรื่องแล้ว 30 เรื่องได้มั้ง สงสัยว่าท่านจะให้เลขหรือเปล่า(ยิ้ม)”
“ตลอดระยะเวลาในการทำงานที่ดิฉันได้เห็นท่านมา พระทัยท่านดีมาก อยู่ด้วยกันมา 45 ปี ท่านพระทัยดีมาก และก็มีเมตตากับทุกคน ท่านจะติดดินมาก ท่านรับสั่งกับใครต่อใครว่า อย่าพูดคำราชาศัพท์นะ เพราะผมก็พูดไม่เป็น ท่านจะรับสั่งให้สบายใจ หลังๆท่านไม่มีเรื่องห่วงอะไรแล้วนะคะ แต่จะพะวงกับงาน ก็ได้ทูลท่านเรื่อยๆว่าไม่ต้องห่วงอะไร”
“ท่านทรงแปลภาพยนตร์ต่างประเทศมา จนปัจจุบันเกือบสามพันเรื่องแล้ว ก่อนหน้านี้ตอนท่านป่วยแรกๆ ท่านรับสั่งว่าไม่อยากให้ใครมาเห็นขณะที่ท่านป่วย เพราะไม่เหมือนแต่ก่อน คงจะต้องทูลท่านว่าท่านหมดทุกข์แล้วค่ะ ท่านทุกข์มากเพราะโรคมันทรมาน อาการของโรคพาร์กินสันจะเกร็ง เกร็งทั่วทั้งร่างกาย ตั้งแต่พระเศียรยังเท้าเลย ท่านก็จะร้องเราก็จะถวายยา ถวายนวด”
“เรื่องสืบสานงานท่านก็เคยรับสั่งเรื่อยว่า อยากทำหนัง บทที่เขียนไว้ยังไม่ได้ทำ ยังมีอีกตั้งหลายเรื่อง ที่แปลตอนนี้ลูกสาวคนโตแปลแทนมาหลายปี ท่านไม่ได้แปลเองมา3-4ปีแล้ว ท่านเห็นว่าลูกสาว(หม่อมราชวงศ์หญิงเอื้อมทิพย์ เศวตศิลา) ทำได้แต่ลูกสาวก็ยังใช้ชื่อท่านอยู่นะคะ สไตล์การแปลอาจจะไม่เคี่ยวเท่าท่านพ่อ แต่ทุกคนก็ยอมรับได้ แต่งานแปลตอนนี้ไม่มากเหมือนเมื่อก่อน แต่ก่อนเดือนนึง 8-9เรื่อง ภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายที่ท่านได้แปลไว้ ถ้าจำไม่ผิด มิสคอนจิเนียริตี้ หลังจากนั้นอีกไม่กี่เรื่องและลูกสาวก็ทำต่อ ท่านเป็นต้นแบบในการแปลบทภาพยนตร์ ท่านแปลโดยเป็นธรรมชาติ”
ด้าน “ท่านมุ้ย ม.จ. ชาตรีเฉลิม ยุคคล” ที่ได้เดินทางมาร่วมในพิธีด้วยกล่าวว่า รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากที่วงการภาพยนตร์ต้องสูญเสีย ผู้กำกับฝีมือดี พร้อมยกย่อง “ท่านทิพย์” ให้เป็นปูชนียบุคคล
“ผมกับท่านทิพย์รู้จักกันมาครึ่งศตวรรษ ทำหนังร่วมกันก็นานพอสมควร แต่ก่อนเป็นแก๊งค์ทำหนังร่วมกัน ก็ถือว่าท่านทิพย์เป็นปูชนียบุคคลเลยก็ว่าได้ เพราะท่านเป็นผู้ที่ริเริ่มทำหนังฟีลกู๊ดเป็นคนแรกๆเลย ความประทับใจที่ผมมีต่อท่าน ผมว่าท่านเป็นคนใจดีนะ อารมณ์ดี ท่านทำหนังต้องสวยงาม ท่านต้องหาวิวสวยๆ อันนี้เป็นสิ่งที่มันตรงข้ามกับผม(หัวเราะ) ผมเองมองเห็นแต่สิ่งน่าเกลียด”
“ผมคิดว่าผู้กำกับหนังสมัยนี้ น่าจะเอาท่านทิพย์เป็นแบบอย่าง รู้สึกว่าจีทีเอชก็เริ่มทำหนังในลักษณะของท่านทิพย์เหมือนกัน คือเป็นหนังฟีลกู๊ด แต่ท่านทิพย์เป็นยุคบุกเบิกหนังรัก ผมจำได้มีอยู่เรื่องหนึ่งที่คุณเบิร์ด (ธงไชย แมคอินไตย์) เล่นเป็นพระเอก และมีคุณปุ๊ (อัญชลี จงคดีกิจ) เป็นนางเอก ตอนนั้นไม่มีใครรู้จักคุณธงไชยเลย และเขาก็กล้านะที่เอาคุณธงไชยมาเล่น ขณะที่มิตรชัย บัญชากำลังดัง”
“ก็เสียใจนะครับ เสียใจอย่างยิ่ง ที่ท่านทิพย์ต้องจากเราไป ทั้งๆที่ท่านอาจจะประชวรมานานพอสมควร แต่ยังไงท่านก็ยังมีผลงานมาต่อเนื่องคือการแปลซับไตเติ้ล ก็จะได้เห็นตลอดหม่อมเจ้าทิพยฉัตร ฉัตรชัย แม้กระทั่งเรื่อง Sherlock Holmesก็ยังมีชื่อท่านปรากฏ”
ฟาก “บดินทร์ ดุ๊ก” อดีตพระเอกที่เคยได้ร่วมงานกับท่านทิพย์มาถึง 5 เรื่อง ได้กล่าวยกย่องท่านทิพย์เป็นเจ้าพ่อหนังรักโรแมนติกของเมืองไทย
“ความประทับใจที่ได้ร่วมงานกับท่านทิพย์ ท่านจะเป็นผู้กำกับที่สุภาพ มีความเป็นสุภาพบุรุษและก็เป็นกันเอง ใจดีใจเย็น พูดง่ายๆในสมัยก่อนไม่มีผู้กำกับคนไหน ไม่มีใครที่จะพูดจาไพเราะและให้เกียรตินักแสดงขนาดนี้ พูดจาดีมากให้กำลังใจกับนักแสดงทุกคน อย่างเรื่องแรกที่ผมเล่น 20 กว่าเทค ผมผิดตลอดทำไม่ได้ ท่านก็ไม่เคยว่าสักคำไม่เคยเลย ท่านก็จะบอกว่าใจเย็นๆดุ๊ก ใจเย็นๆค่อยๆทำ จะให้กำลังใจเราตลอด”
“ท่านเป็นผู้กำกับที่มีความโรแมนติกเป็นอย่างมาก หนังท่านทั้งสวยเพลงเพราะ ดูแล้วสบายใจ เคยไปเช็คเรตติ้งตัวเองในสมัยก่อน หรือจากที่แฟนๆเขียนจดหมายมาหาสมัยก่อน หนังที่ผมเล่นแฟนๆ บางคนดูเป็น 10 รอบ เราก็แปลกใจว่าทำไมเขาถึงดูได้ ได้มีโอกาสถามแฟนๆก็บอกว่า เป็นหนังที่ดูแล้วสบายใจ ดูแล้วอารมณ์ดี พูดง่ายๆท่านเป็นเจ้าพ่อหนังรักโรแมนติกแห่งเมืองไทยเลยก็ว่าได้ ไม่ใช่แห่งยุคด้วย จนเดี๋ยวนี้เองหลายๆคนจะเอาหนังท่านไปทำใหม่ ก็ทำได้ไม่ถึง เพราะท่านมีอารมณ์โรแมนติกมากไม่ว่าจะเป็นคำพูดหรืออะไรต่างๆ ท่านเก่งเป็นอัจฉริยะบุคคลจริงๆ”
นอกจากนี้ยังมีนักแสดงรุ่นใหญ่ ที่เป็นอดีตนางเอกเด็กปั้นของท่านทิพย์อย่าง “จุ๋ม อัญชลี ชัยศิริ” ซึ่งก็ได้เผยความรู้สึกว่า ท่านทิพย์เปรียบเสมือนพ่อคนที่สอง และเป็นผู้ชักนำตนเข้าสู่วงการบันเทิง
“สมัยก่อนท่านพ่ออาจจะเป็นผู้กำกับคนแรกที่ทำหนังเร็วที่สุด ท่านเป็นคนแรกของเมืองไทย ที่ถ่ายหนังเรื่องนึง15วันได้จบเลย แล้วท่านพ่อก็สอนตอนที่จุ๋มเล่นหนังเรื่องแรก มนต์รักบ้านนา พอถ่ายได้ไปสักพักนึงพ่อจุ๋มตาย ท่านพ่อก็เป็นคนจัดการเรื่องงานศพให้ ท่านพ่อเลยเป็นเหมือนพ่อคนที่สองเลยค่ะ ความผูกพันเลยจะมีต่อท่านพ่อมากในตอนนั้น”
อดีตนางเอก “ต้อม มธุรส พิทยะ(รัตนา)” จากภาพยนตร์เรื่อง “เพลงรักบ้านนา” และยังเคยร่วมแสดงในเรื่อง “รักเอย” และ “เพลิน” กล่าวถึงความประทับใจที่มีต่อท่านทิพย์ว่า
“ความประทับใจคือ ได้เปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเองตอนได้มาเป็นดารา เพราะท่านให้โอกาสเราตรงนี้ เราเองก็ไม่คิดจะทำได้ ท่านก็บอกว่าไม่เป็นไรหรอกลองดู ก็ดีใจ ประทับใจท่านมาก ท่านเป็นคนน่ารักดี เราก็เหมือนลูก ท่านดูแลสอน ต้องทำอย่างนี้ๆสอนทุกอย่าง แต่เรามีโอกาสได้เล่นน้อย เพราะบางบทไม่เหมาะกับเรา ก็ประทับใจท่านถึงทุกวันนี้ ตอนท่านป่วยเราก็ได้มีโอกาสเข้ามาเยี่ยมท่านบ้าง”
เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540 ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก ระบบ True Move และ Hutch - เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก |