เจ้าของร้านอาหารไทยในซานฟรานฯ ฟ้อง "โน้ส อุดม" ข้อหาหมิ่นประมาท หลังถูกพาดพิงในทำนองโกงเงินค่าตัวทอล์กโชว์ แจงเหตุที่ยังไม่ให้ส่วนที่เหลือเพราะอีกฝ่ายผิดสัญญา(ใจ) ก่อนลั่นไม่เหลือมิตรภาพที่ดีต่อกันแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเย็นที่ผ่านมาของวันนี้ (23) นางปณิชา โศภณธนภัทร หรือไก่ อายุ 52 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของร้านอาหารไทยในอเมริกา พร้อมนายไพรัช ยะวงศ์ ทนายความ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.วิบูลย์ ถิ่นวัฒนากุล พงส.(สบ3) สน.ทองหล่อ เพื่อแจ้งความเอาผิดกับ "โน้ส อุดม แต้พานิช" ในข้อหาหมิ่นประมาท หลังตลกดังไปให้สัมภาษณ์ผ่านรายการทีวีในทำนองที่ว่าถูกโกงเงินระหว่างไปแสดงทอล์กโชว์ยังต่างประเทศ
ทั้งนี้นางปณิชาได้เปิดเผยว่า ตนเป็นเจ้าของร้านอาหารชื่อ "เทพพนม" อยู่ที่เมืองซานฟรานซิสโก ซึ่งที่ผ่านมาตนได้ติดต่อให้ตลกดังมาเปิดการแสดงที่อเมริกาจำนวน 4 เมือง ประกอบไปด้วย ซานฟรานซิสโก ลอสแอนเจลิส ชิคาโก และวอชิงตันดีซี โดยอีกฝ่ายคิดเงินค่าตัวเป็นจำนวน 3 ล้านบาท ทว่าอีกฝ่ายปฏิเสธที่จะไปแสดงยัง 2 เมืองหลัง ตนจึงขอให้ไปแสดงที่นิวยอร์กแทน พร้อมกับขอลดค่าตัวลงมาเพราะเหลือเมืองที่จะแสดงเพียง 3 เมือง
ทว่าตลกดังได้ปฏิเสธ โดยบอกว่าจะโชว์เล็กๆ ที่ซานฟรานฯ เพิ่มให้อีก 1 โชว์
"เราก็จองตั๋วทำทุกอย่างที่เราคุยกัน คือพาเขาไปที่นิวยอร์กเสร็จ และก็จองตั๋วบิสซิเนสคลาสบินกลับจากนิวยอร์กมาซานฟรานฯ ด้วยกัน อันนี้คือที่เราสัญญากัน พอถึงเวลาไปเราก็โอนเงินไปให้เขาล้านห้า แล้วเขาก็ขอพาสินเจริญ(บราเธอร์ส)ไป ซึ่งก็อยู่ในคอสต์ของพี่ทั้งหมด"
"แล้วเขาก็ขอพาปั่น ไพบูลย์ไป ซึ่งจริงๆ ไม่มีปั่นเลยในเดี่ยว 8 และเขาขอปั่นไป สงสารพี่ปั่นอย่างนู้นอย่างนี้ พี่ก็ยอม โอเคอยู่ในคอสต์ของพี่ทั้งค่าบินในประเทศนอกประเทศ แล้วเขาก็บอกว่าเขาขอสุ สุนี่เป็นมือกลองเขาบอกว่าเขาจะเอาไปตีเพลงฉ่อย"
"ซึ่งเราก็คิดว่าทำไมเพลงฉ่อยต้องเอามือกลองระดับไหนก็ไม่รู้ เพราะพี่ไม่ได้รู้จักสุเป็นการส่วนตัวแต่เขาขอเราก็ให้ ขอนั่งบิสซิเนสคลาส จากที่ Eco และอัพเกรดให้ทุกคนเป็น deluxe ซึ่งขอทุกอย่างพี่ก็ทำให้"
เผยเหตุที่ยอมทุกอย่างเพราะกลัวเรื่อง "อารมณ์ศิลปิน"
"คือความรู้สึกที่ทำให้ เพราะรู้สึกว่าเราจัดโชว์ไปแล้ว ถ้าเกิดเราไม่ตามใจเขา อารมณ์ศิลปิน เกิดเขาเปลี่ยนใจไม่ไปพี่ก็แย่ เออ ไปก็ไป เพราะคิดดูแล้วมันก็คงไม่อะไรเท่าไหร่ แต่มันก็เป็นความชื่นชอบของพี่ส่วนตัวที่มีให้อุดม ก็โอเคอะไรก็เอายอมเขาทั้งนั้น"
"พอไปถึงที่ซานฟรานฯ เขาก็ไปเลือกสถานที่หนึ่งที่เขาชอบมาก แต่เป็นสถานที่ที่เล็กมาก ซึ่งถ้าพอบรรจุเก้าอี้แล้วนั่งได้ประมาณแค่สองร้อยคน พี่ก็บอกว่า เฮ้ย อุดม ตรงนี้ไม่ได้นะ โชว์คุณแพงอย่างน้อยต้องพันคน อย่างนี้เราขาดทุน เขาก็บอกว่าเล่นมันสองวันเลย ที่ซานฟรานฯ เป็นโชว์เดียว"
"นี่คือเราตกลงกันด้วยปาก เสร็จแล้วเขาก็เล่นตามที่เราตกลงกันไว้ และต่อด้วยแอลเอและนิวยอร์กที่ละวัน โชว์ออกมาดีมากอะไรทุกอย่างดีหมด"
เจ้าของร้านอาหารไทยเผยต่อไปว่า หลังจากตลกดังโชว์เสร็จกลับไม่กลับมาแสดงโชว์ที่ซานฟรานฯ ตามที่ตกลงกันไว้ และนั่นก็เป็นเหตุให้อีกฝ่ายไม่ได้รับเงินส่วนที่เหลือ ซึ่งหลังจากที่กลับไปประเทศไทยก็ไม่สามารถติดต่อได้เลย
"แต่การที่เขาสัญญาว่าจะมาเล่นโชว์เล็กให้ตามที่สัญญาที่ซานฟรานฯ เขาไม่กลับ เขาบอกเขาขอเที่ยวก่อน พี่ไก่บินกลับไปก่อน ผมขอเที่ยว หลังจากนั้นเขาก็หายเลย กลายเป็นว่าส่วนสุดท้ายที่เขาต้องไปเอาที่ซานฟรานฯ เขายังไม่ได้รับ"
"แต่ในเมื่อเขายังไม่ได้รับควรโทรมาหาพี่ เขาไปอยู่ที่นู่นพี่ให้โทรศัพท์เขาใช้ มือถือใช้โทรทางไกลไม่อั้น เขาก็เอาโทรศัพท์ไปทิ้งไว้ที่ร้านอาหารที่นิวยอร์ก แล้วก็หายตัวไปเลย กลับไม่กลับยังไงพี่ไม่รู้ เสร็จแล้วไม่มีการติดต่อมา จะให้แต่เลขาโทรมาผ่านตลอด พี่ก็บอกพี่ไม่คุยกับเลขา คุณโทรมาเองเพราะพี่ไม่ต้องการคุยกับเลขา"
"พี่ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงผิดสัญญา เป็นโชว์เดี่ยวชั่วโมงครึ่ง แต่ที่โชว์ผ่านมาเป็นโชว์สามคน มีเขา ปั่น สินเจริญ และก็สุ"
ต่อคำถามของผู้สื่อข่าวที่ว่า เพราะอีกฝ่ายไม่มาแสดงเลยไม่มีการจ่ายส่วนที่เหลืออีก 1.5 ล้านใช่หรือไม่? เรื่องนี้นางปณิชาบอกว่า...“คือถ้าเขาโทรมาคุยดีๆ เราต่อรองกันได้ ไม่ใช่ 1.5 ล้านเขาเบิกไปอีก เขาเบิกไปให้สินเจริญ 9 พันเหรียญ คือจะเป็นเงินประมาณ 3 แสน และเขาก็เบิกไปให้ปั่นอีก ปั่นเอาไป 3 พัน 4 และก็เบิกค่าใช้จ่ายที่อยู่ในนั้นเป็นเงินสด"
"ซึ่งอันนี้ยังให้พวกคุณไม่ได้เพราะเป็นเงินดอลล่าร์ เขาเบิกไปเรื่อยๆ แต่มันจะมีเงินเหลืออยู่อีกจำนวนหนึ่ง ประมาณถ้าให้พี่คิดก็ประมาณ 5-6 แสน ที่ยังไม่จ่ายเขา ซึ่งว่าพี่กำลังคิดว่าคุณไม่กลับมาเล่นให้เรา โชว์นี้คุณต้องกลับมาเล่นให้เราก่อน"
"เป็นสัญญาใจ ไม่มีการเซ็นสัญญา เพราะเขาจะบอกว่าเป็นสัญญาใจ เพราะเขาจะใช้คำพูดกับพี่ว่าเรานะ กากีนั้ง ทัวร์นี้ไปทัวร์มิตรภาพ และเขาบอกว่าที่ไปทัวร์นี้เพราะไปตอบแทนข้าวแดงแกงร้อนของพี่ไก่ ซึ่งรู้สึกว่าเขากำลังเอาแกงร้อนมาสาดใส่พี่อยู่”
บอกตนรับไม่ได้กับบทสนทนาของพิธีกรหญิง "กาละแมร์ พัชรศรี" ที่บอกกับตลกดังว่า แกถูกโดนโกง! ส่วนที่ต้องมาแจ้งความเพราะเรื่องนี้กระทบต่อความน่าเชื่อถือกับงานที่ตนเองทำอยู่
"และอีกอันหนึ่งนะ ที่พี่อยากจะให้ดูหลังจากรายการตีสิบ พี่ไม่อยากพูดอะไรนะ แต่ก็พยายาม ไม่อยากแจ้งความอะไร เพราะว่าพี่ก็ถือว่าเราได้พูดออกสื่อไปบ้างแล้ว เราก็พอใจแล้ว แต่ว่าพี่มาเจอข้อความอันนี้ในคุณกาละแมร์ พัชรศรี ว่านั่งอยู่กับพี่โน้สเลย เล่าเรื่องให้เป็นข่าว"
"ปรากฎเรื่องกลับตาลปัตร แกแหละโดนโกงอีกล้านกว่าบาทมานานเป็นสามเดือนแล้ว คือพี่ไม่รู้จะพูดว่ายังไง แต่พี่ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงไม่ถามอีกฝ่าย นี่เรียกว่าเป็นรายการผู้หญิงให้ร้ายผู้หญิง สำหรับคุณกาละแมร์พี่เลิกนับถือเลย เพราะอย่างนี้เลยตัดสินใจมาแจ้งความ เพราะว่าพี่ก็ไม่อยากให้เขาพูดให้พี่เสียหายต่อไป”
“แล้วคือเรื่องที่เขาพูดในตีสิบ วันที่ 8 ธันวา คุณวิทวัสนะ อยู่ๆ ก็ถามว่าได้ข่าวว่าไปครั้งนี้โดนโกงเหรอ ก็แสดงว่าเขาก็ต้องมีการให้ข้อมูลกันไว้แล้ว และโน้สเขาก็พูดบอกว่า เอาเป็นว่าได้ทุกอย่างยกเว้นเงิน ซึ่งพอผลกระทบของพี่ เพื่อนพี่ ทุกคนเขารู้ว่าพี่จัดโน้ส ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ"
"เขาจะโทรมาถามเรา จนเราเคลียร์เขาไป บางคนเข้าใจบางคนไม่เข้าใจ แต่สำหรับพี่อยู่ซานฟรานฯ มา 35 ปีไม่เคยมีประวัติโกงใคร เพราะฉะนั้นครั้งนี้พี่ไม่ยอม”
ส่วนเรื่องที่มีข่าวว่าทาง "พิงค์ ลำพระเพลิง" บอกว่าทางรายการตีสิบคงจะไม่ต้องรับผิดชอบอะไร เพราะเป็นเรื่องของคนสองคนที่ทะเลาะกัน เช่นเดียวกับทาง "วิทวัส สุนทรวิเนตร์" ที่ทางรายการขอให้มีการตัดประโยคนั้นออก ทว่าพิธีกรดังไม่ยอมตัด เรื่องนี้นางปณิชาแสดงความคิดเห็นว่า...
“ทางคุณกาละแมร์กับคุณวิทวัส คิดว่าขอเตือนดีกว่า อย่าคิดว่าเป็นการแจ้งความ เพราะคงไม่อยากไปอะไรกับเขานัก คือแค่อยากจะตักเตือนนิดหนึ่ง ตักเตือนในฐานะที่เป็นสื่อก่อนที่จะโพสต์อะไรออกมา ควรจะถามสองฝ่าย สืบสาวราวเรื่องก่อน"
"ไม่ได้พูดออกมาชุ่ยๆ อยู่ๆ ถามคำถามมาได้ยังไง ว่าไปครั้งนี้ได้ข่าวว่าไปโดนโกง เขาอ้างว่าเขาไม่ได้พูดชื่อ อย่างทางตีสิบเขาโทรมาติดต่อที่ปรึกษาพี่ พี่ไก่ไม่ได้อยู่เมืองไทย พี่ไก่จะเดือดร้อนทำไม ไม่มีใครรู้จักพี่ไก่ ดูเออ”
ก่อนลั่นหลังจากนี้คงจะไม่มีมิตรภาพที่ดีต่อตลกดังแล้ว
"วันที่นัดกับโน้สโชว์นะ โน้สบินไปถึงซานฟรานฯ วันที่ 3 สิงหาคมและเขาอยู่เที่ยวซานฟรานฯ เทคแคร์ดูแลเขาทั้งหมด 8 คน เพราะมีผุ้ติดตามไปด้วย ซึ่งก็ใช้ห้องที่ซานฟรานฯ อยู่กัน 5 ห้อง พูดง่ายๆ เหอะ ทุกมื้อที่เขาหาพี่ดูแลไม่ดีก็ช่างเขาเหอะ คือตอนที่จะบินกลับจากซานฟรานฯ เขาบอกว่าเขาจะเก็บทุกมุกเลย แต่อย่าเพิ่งประกาศไป เพราะเดี๋ยวโชว์อื่นจะขายไม่ได้ เขาให้ไอเดียพี่มา ซึ่งกำหนดโชว์เล็กจริงๆ ก็แล้วแต่เขาว่าจะโชว์วันไหน"
“ก็ตั้งแต่บินกลับที่นิวยอร์กเขาก็ไม่เคยโทรติดต่อมาเลย โทรลาก็ไม่มีด้วย คิดดูสิ พี่จะคิดยังไง ตอนนี้คงไม่มีมิตรภาพกันแล้ว”