xs
xsm
sm
md
lg

“กาละแมร์” รับปิดบัญชีแบงก์จริง ส่วนเรื่องพาเพื่อนไปถอนเงิน เป็นความต้องการของแต่ละคน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“กาละแมร์” รับปิดบัญชีธนาคารจริง เหตุไม่พอใจบริการ บอกสามารถเพิ่มวงเงินได้ ถึงคราวจำเป็นกลับไม่เพิ่มให้ บ่นเป็นลูกค้าที่ดี มีแต่ฝากไม่มีถอน โต้ข่าวพาพิธีกรร่วมรายการไปปิดบัญชี บอกแต่ละคนก็คงเจอมาคนละดอก ด้านธนาคารโร่เคลียร์เพิ่มวงเงินให้เป็นล้าน

มีกระแสข่าวออกมาว่า “กาละแมร์ พัชรศรี เบญจมาศ” ออกโรงวีนแตกธนาคารแห่งหนึ่ง เหตุเพราะบัตรเครดิตเต็มธนาคารไม่เพิ่มวงเงินให้ ซ้ำยังชวนพิธีกรร่วมรายการไปปิดบัญชีธนาคารดังกล่าวเพื่อเป็นการล้างแค้น งานนี้กาละแมร์ยอมรับว่ามีปัญหากับธนาคารแห่งหนึ่งจริง

“คือ จริงๆ แล้วเป็นลูกค้าธนาคารหนึ่งมานานมากแล้ว เราก็ฝากเงินกับเขามาโดยตลอด เขาก็ให้บัตรเครดิตเรามาใช้ ซึ่งเราเองก็ไม่ได้ร้องขอ เขาบอกว่าเราเป็น 1 ใน 10 ของลูกค้าชั้นดี เราก็บอกว่าไม่เอา เขาก็บอกว่าพี่เซ็นเถอะค่ะหนูอยากมอบให้ เราก็เซ็นไป พอได้ใช้มาวันหนึ่งก็ไปรูดจองที่ดิน ซึ่งที่ดินมันก็ราคาสูงแล้วมันก็ยังไม่ครบรอบที่จะตัดบิล และพอก็ถึงวันครบรอบการทำสัญญา เราก็ไปทำสัญญา แต่วันนั้นมันไม่มีเงินสดพอที่จะไปทำอะไรที่มันเป็นแสน แต่คือเจ้าของที่บอกว่าเรายินดีให้รูดการ์ดค่ะ”

“เราก็รูดการ์ดก็รูดแต่ว่าเนื่องจากครั้งแรกมันยังไม่ตัดวงเงิน เพราะฉะนั้นก็เลยโทร.ไปบอกว่าน้องค่ะขอเพิ่มวงเงินได้ไหม คือ ทุกครั้งใครที่อยากเพิ่มวงเงินก็ต้องโทร.ไปขอเพิ่มใช่ไหม น้องเขาก็บอกว่าไม่ได้ เราก็อ้าว...ช่วยพิจารณาอีกครั้งหนึ่งได้ไหมไปถามหัวหน้าก็ได้ เขาก็ไม่ให้กลับมาเลย เราก็แบบน้องพี่ฝากไปช่วยเช็กระบบก็ได้ว่าพี่เป็นลูกค้าธนาคารนะ แล้วก็ไม่เคยเป็นหนี้ธนาคาร มีแต่เงินฝาก กลับมาเขาก็ยังบอกว่าไม่อนุมัติ เราก็ยังไงอ่ะ”

“เราก็เลยบอกว่าพี่จะเลิกใช้บัตรเครดิตแล้วนะ เพราะว่าถ้าเป็นกรณีฉุกเฉิน ถ้าพี่เจ็บป่วยตายมาแล้ว พี่ต้องการใช้เงินด่วนตอนนี้ แล้วถ้าพี่จะเป็นจะตายแล้วรูดการ์ดไม่ได้ พี่ไม่แย่เหรอ เขาก็ตอบมาว่าครับ เราก็ตอบว่าพี่จะเลิกเป็นลูกค้าแล้วนะ เขาก็บอกครับ เราก็เฮ้ย...ทำไมไม่ดูแลเราเลย เราก็เลยถามชื่อเขาไว้แล้วก็ถามว่าหัวหน้าชื่ออะไรแล้วก็วางหูไป”

“วันรุ่งขึ้นเราก็ไปตัดบัตรเครดิตแล้วก็เอาไปคืนที่แบงก์ที่เดิมแล้วบอกว่า ขอคืนไหน บอกว่าในกรณีฉุกเฉินใช้ได้ แต่พอเราฉุกเฉินจริงเรากลับใช้ไม่ได้ งั้นขอคืนแล้วกัน ก็รับคืนไป เสร็จเราก็ถอนเงินออกจากธนาคารจริงๆ เพราะเราบอกว่าเราไม่ประทับใจในการให้บริหาร และเราเสียใจมากๆ เสียความรู้สึกที่เราเป็นลูกค้าฝากมาโดยตลอด มีอะไรเราก็ฝากให้แบงก์นี้ตลอดโดยไม่ถอน”

“แล้วพอวันหน้า เราแค่ขอเพิ่มวงเงินไม่เท่าไหร่กลับไม่ให้เรา เราเสียความรู้สึก งั้นเราขอถอนเงินออกจากธนาคารนะพอเรื่องรู้ถึงผู้บริหารเขาก็อยากจะมาขอโทษเราก็บอกว่าไม่เป็นอะไร เพราะเราไม่ได้เป็นคนที่จะต้องมาขอโทษ มันไม่จำเป็นแต่เขาบอกว่าเราอยากให้คุณกาละแมร์ได้ชี้แจงว่า การทำงานของเราเป็นยังไง เราจะได้ไปปรับปรุง งั้นก็มาพร้อมกับน้องที่รับโทรศัพท์ เขาก็มาเอากระเช้ามาขอโทษ พร้อมให้บัตรเครดิตใหม่อีกวงเงินหนึ่งล้านบาท คือ เราไม่จำเป็นต้องใช้ขนาดนั้น เขาก็บอกว่าเอาไปเถอะครับ ขอให้เราได้แก้ตัว”

“เราก็รับมา แล้วเราก็ถามน้องคนนั้นว่าทำไมถึงไม่อนุมัติให้ เขาบอกว่าชื่ออะไรก่อน ปรากฏว่าชื่อที่บอกเรากับชื่อจริงๆ ของเขามันคนละชื่อกัน เขาก็มีการบิดเบือนชื่อของเขาเราก็ว่าเขาคงไม่อยากโดนสอบสวนมีความผิด ก็เลยมีการโกหกชื่อ สองพอถามว่าทำไมถึงไม่อนุมัตเงินให้พี่ เขาบอกว่าผมได้เช็คเข้าไปในระบบเห็นว่าชื่อพี่ติดหนี้อยู่ หมายถึงเป็นหนี้แบงก์ อันนี้ไม่จริงแล้วถ้าระบบไม่ถูกต้องอย่างนี้เรายิ่งต้องขอเอาเงินออกเพราะว่าวันหนึ่งเงินฝากๆ อยู่แล้วอยู่ดีๆ ลดไปแล้วมาบอกว่าระบบเสียเราก็กลัว งั้นเราขออนุญาตเอาเงินออกจากบัญชีธนาคารนะ เพราะว่าเราคิดว่าธนาคารอื่นๆ เขาคงให้การดูแลลูกค้า เอาใจใส่ดูแลเทคแคร์ ก็จบกันไปก็เข้าใจกันทั้งหมดเรื่องมันก็มีอยู่เท่านี้ และที่สำคัญมันผ่านมาปีกว่าแล้ว”

ปัดชักชวนกลุ่มเพื่อนไปถอนเงินที่ธนาคารนั้น บอกคนอื่นอาจจะเจอการให้บริการที่ไม่ดีเหมือนกัน
“จะบอกเลยว่าเงินใครเงินคนนั้น แล้วที่สำคัญเลยคือแต่ละคนเขาก็ต้องเจอเหตุอึกของแต่ละคน แต่ละคนก็คงจะเจอว่าทำไมให้บริการเราอย่างนี้ แมร์ว่าทุกคนคงจะเจอดอกแต่ละดอกไม่เหมือนกัน แต่สำหรับแมร์เงินก็เงินของแมร์เรามีสิทธิ์ของเรา เหมือนเราเป็นผู้บริโภคที่เราอยากจะเลือกการบริการที่ดีที่สุด ถ้าไม่ดูแลกันคือมันเสียความรู้สึกมันเป็นเรื่องของการเสียความรู้สึก เราก็เลยขอย้าย ส่วนของคนอื่นที่เขาจะถอนเงินมาหรือไม่ มันก็แล้วแต่สถานการณ์ หรือแต่ละเหตุการณ์ที่เขาเจอ เป็นเรื่องของแต่ละบุคคล”

ส่วนเรื่องความรักกับ “โจอี้บอย” อภิสิทธิ์ โอภาสเอี่ยมลิขิต ที่มีข่าวว่าฝ่ายชายถึงกับลงทุนขับพารามอเตอร์ไปหาที่หัวหิน เจ้าตัวยอมรับว่าฝ่ายชายไปจริงแต่แค่ไปสังสรรค์กับเพื่อน ยันไม่ได้กำลังศึกษากันแต่อย่างใด

“คือว่าวันนั้นเขาไปเล่นพารามอร์เตอร์แถวเมืองกาญจน์บ้านเขาอยู่แล้ว ก็ได้มีการโทรศัพท์หากันอยู่ตรงไหนทำอะไร เราก็เลยบอกว่าจะไปถ่ายรายการราตรีฯ ที่หัวหิน เขาก็เลยบอกว่าที่เมืองกาญจน์ฝนตกไม่ได้เล่น งั้นเดี๋ยวไปเล่นแถวทะเลแล้วกันก็เลยมาเท่านั้นเอง แล้วเห็นว่ามีเพื่อนเยอะจะได้เฮฮากันก็เลยมาบินเท่านั้นเองไม่ได้พิศวาสเป็นการส่วนตัว ไม่ได้รักเรามากหรืออะไรเลยจริง เราว่าเขาแค่หาที่เล่นพารามอเตอร์เท่านั้น เห็นว่ามีเพื่อนที่รู้จักอยู่เยอะก็เลยมาเฮๆ กัน”

“เราไม่ได้ศึกษากันก็เป็นอย่างนี้แหละ เป็นเพื่อนเป็นพี่น้องกันไป เราว่าเราแฮปปี้กับความสัมพันธ์ที่เป็นแบบนี้กับพี่โจ้มากกว่า มันก็คุยกันได้เรื่อยๆ มันไม่จำเป็นต้องมาแบบโทรมารายงานกันว่าวันนี้เธอทำอะไรฉันทำอะไร คิดถึงกันไหมจ๊ะก็ไม่ต้องชิลๆ เขาไม่จีบหรอกก็เป็นเพื่อนพี่น้องกันแล้วก็แฮปปี้ที่จะเป็นกันแบบนี้มากกว่า”

“จีบไหมไม่กล้าถามเขาหรอก ก็เรื่อยๆ ดีกว่าเอาแบบว่าเป็นเพื่อนกันคุยกันไปเรื่อยๆ แบบนี้ดีกว่า ถ้าวันหนึ่งมันจะพัฒนามันก็ขึ้นกับระยะเวลาและขั้นตอนของมันไปเอง ปล่อยให้มันชิลๆ อย่าเพิ่งไปบังคับกะเกณฑ์กับมันมาก”

กำลังโหลดความคิดเห็น