โดย นพวรรณ สิริเวชกุล
คลิกที่ไอคอนด้านบนเพื่อ ชม และ ฟัง ในรูปแบบ MULTIMEDIA
สุสานหิ่งห้อย เป็นภาพยนตร์การ์ตูนญี่ปุ่นค่ะ ดิฉันหยิบเรื่องนี้มาดูอีกรอบแต่ก็ยังไม่วายที่จะรู้สึกรันทดไปกับชีวิตของสองพี่น้องที่ต้องเผชิญชะตากรรมในภาวะสงคราม...
ภาวะที่ทำให้ใครหลายคนต้องสูญสิ้นทุกอย่าง สิ่งมีค่ามีราคาถูกทำลาย ผู้คนเผชิญกับความหิวโหย สภาพอากาศและความโหดร้ายทารุณแทบทุกอณูของชีวิต... สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นจริงบนโลกของเรา... และมันยังคงเกิดขึ้นอยู่ ในนามของสงคราม...
เคยมีคนกล่าวไว้ว่า การมีชีวิตอยู่คือความทุกข์ การมีชีวิตรอดหมายถึง การที่คนเราต้องค้นหาความหมายในระหว่างประสบทุกข์...และสิ่งเหล่านี้คนเราทุกคน ต้องค้นหามันด้วยตัวเอง...
สุสานหิ่งห้อย Hotaru no Haka หรือ Grave of the fireflies เป็นเรื่องราวของสองพี่น้องชาวญี่ปุ่นที่ต้องดำรงชีวิตอยู่ในภาวะสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่สตูดิโอจิบลิ Studio Ghibli หยิบมานำเสนอตั้งแต่ปี 1988 เขียนบทและกำกับโดย อิซาโอะ ทาคาฮาตะ Isao Takahata ที่หลังจากเสนอต่อสาธารณชนก็ได้รับการยกย่องในระดับสากล นักวิจารณ์บางคนถึงกับยกให้เป็นภาพยนตร์ต่อต้านสงครามที่ทรงพลังและจับอารมณ์ของมนุษย์ได้ลึกซึ้งที่สุดเรื่องหนึ่งทีเดียวค่ะ
จริงๆแล้วนอกจากฉบับที่เป็นแอนนิเมชั่นแล้ว สุสานหิ่งห้อย เรื่องนี้ยังมีการนำมาทำเป็นภาพยนตร์ ที่ใช้นักแสดงเล่นอีกด้วยนะคะ แต่โดยส่วนตัวแล้วดิฉันกลับชื่นชอบในภาคของการนำเสนอเป็นแอนนิเมชั่นมากกว่าค่ะ...
สุสานหิ่งห้อยเป็นเรื่องของของเซตะและเซซึโกะ สองพี่น้องที่ต้องหลบภัยในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยลำพัง แน่นอนเขาไม่รู้ว่าพ่อที่เป็นทหารออกไปรบมีชะตากรรมเช่นไร ขณะที่ผู้เป็นแม่ต้องเสียชีวิตเมื่อครั้งมีระเบิดจากเครื่องบินกราดทิ้งมายังบริเวณหมู่บ้านของพวกเขา... ชะตาชีวิตในภาวะสงคราม ที่ก่อให้คนต้องแย่งชิงและเห็นแก่ตัว ทำให้สองพี่น้องไม่อาจอยู่ร่วมชายคาเดียวกับป้าแท้ๆ ของตัวเองได้... แน่นอน เรื่องราวดำเนินมากระทั่ง เซซึโกะผู้น้องต้องจากโลกอันโหดร้ายนี้ไปด้วยโรคขาดสารอาหาร....
จริงๆแล้วเค้าโครงของแอนนิเมชั่นเรื่องนี้ นำมาจากนิยายญี่ปุ่นเรื่อง Hotaru no Haka ที่ประพันธ์ขึ้นโดยอากิยูกิ โนซากะ Akiyuki Nosaka ซึ่งเขาได้ถ่ายทอดเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตจริงของเขาผ่านตัวอักษรในนิยายเรื่องนี้
อากิยูกิ โนซากะ เกิดเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ปี 1930 ในเมือง Kamakura, kanagawa เขาเป็นลูกชายของผู้ช่วยผู้ว่าการเมือง niigata อากิยูกิเติบโตมาพร้อมๆกับน้องสาว ที่ถูกเลี้ยงดูในเมืองนาดะ,โกเบ nada ,Kobe และสุสานหิ่งห้อยเรื่องนี้ถูกเขียนขึ้นจากประสบการณ์ตรงของเขาที่มีชีวิตอยู่ในช่วงก่อน ระหว่างและหลังจากมีการทิ้งระเบิดในเมืองโกเบเมื่อปี 1945
น้องสาวของเขาคนหนึ่งเสียชีวิตจากความป่วยไข้ ขณะที่พ่อบุญธรรมที่เลี้ยงดูเขาในช่วงเวลานั้นเสียชีวิตเมื่อตอนระเบิดลงที่โกเบ เขาเหลือน้องสาวอีกคนหนึ่งที่สุดท้ายก็ต้องมาจบชีวิตลงด้วยโรคขาดสารอาหารในเมือง fukui
ผลงานของโนซากะได้รับรางวัลวรรณกรรมยอดเยี่ยม Naoki เขาเขียนมันขึ้นมาหลังจากสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลง ซึ่งก่อนหน้านั้น ระหว่างสงครามครอบครัวของเขาไม่อาจได้อยู่ร่วมกัน โนซากะถูกส่งไปอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าระหว่างสงครามถึงสองปี และหลังจากนั้นครอบครัวที่แท้จริงของเขาจึงกลับมารับเขาไปอยู่ด้วยอีกครั้งหนึ่ง นั่นคือประสบการณ์ตรงที่ทำให้เขาสามารถกลั่นกรองมันออกมาเป็นนิยายเรื่องเยี่ยมเช่นนี้...
ครั้งที่เขาเป็นนักศึกษา เขาได้เขียนสคริปต์ให้กับรายการโทรทัศน์ และเขียนเพลงประกอบให้กับรายการโทรทัศน์ นอกจากนั้นเขายังเขียนบทความให้กับนิตยสารเป็นครั้งคราวอีกด้วย
ในปี 1956 เขาได้ยุติการเรียนมหาวิทยาลัย waseda ในสาขาวรรณกรรมฝรั่งเศสกลางคัน และในปี 1963 เขาได้รับรางวัล Record Taisho จากบทเพลง Cha Cha Cha อีกด้วย
งานเขียนยุคแรกๆของ อากิยูกิ โอซากะคือ Hiziki of America และเรื่อง a grave of firefly หรือสุสานหิ่งห้อยเรื่องนี้ล่ะค่ะ ที่ทำให้เขาได้รับรางวัล Naoki และในปี 1985 เขาก็ยังได้รับรางวัล The kodan – essay และรางวัล the yodogawa eizi อีกด้วย
สุสานหิ่งห้อยตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี 1967 และถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์แอนนิเมชั่น ออกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 เมษายน 1988 สร้างความประทับใจและโศกเศร้ากับเรื่องราวของสงครามที่ถูกถ่ายทอดผ่านชีวิตเล็กๆของเด็กสองคนอย่างยากที่ใครจะลืม
แม้จะเป็นนักเขียนแต่ อีกภาคส่วนหนึ่งของอากิยูกิ โอซากะ เขาได้พยายามลงสมัครเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาครั้งแรกเขาพ่ายการโหวตเลือกตั้ง ต่อมาในปี 1973เขาก็ได้ตำแหน่งสมาชิสภามาครองสมใจ นอกจากนี้คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ยังรู้จักเขาในฐานะนักร้อง และนักแสดงโทรทัศน์อีกด้วยค่ะ...
นอกจากภาพยนตร์แอนนิเมชั่น สุสานหิ่งห้อยจะเป็นที่นิยมของคนทั่วไปแล้ว หากใครเคยดูคงจำได้ว่า เซซึโกะผู้น้องนั้นจะถือกล่องลูกกวาดที่เธอชื่นชอบติดตัวเสมอและกล่องลูกกวาดนี้เองที่กลายเป็นที่ใส่เถ้ากระดูกของเธอเมื่อเสียชีวิต ลูกกวาดกระป๋องยี่ห้อนี้ล่ะค่ะกลายมาเป็นสินค้าขายดีของญี่ปุ่น ด้วยการออกแบบผลิตภัณท์ใหม่ให้ด้านหนึ่งของกระป๋องลูกกวาดมีรูปของเซซึโกะอยู่ หลายคนที่เห็นกระป๋องลูกกวาดใบนี้ ต่างก็อดไม่ได้ที่จะหยิบลูกกวาดขึ้นมาอมพร้อมหยาดน้ำตา....